ซัมซุง เปิดตัว ศูนย์บริการสมาร์ทโฟนแห่งใหม่ ชั้น 3 ศูนย์การค้าซีคอน สแควร์ บางแค เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในด้านบริการหลังการขายแก่ลูกค้าแบบครบวงจร ด้วยทีมงานคุณภาพที่ผ่านการอบรมมาตรฐานการบริการ พร้อมที่จะช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ยกระดับความสะดวกสบายด้วยการบริการทั้งที่ศูนย์ฯ ทั้งผ่านคอลเซ็นเตอร์ และผ่านไลฟ์แชทบนเว็บไซต์ตลอด 24 ชั่วโมง การันตีด้วยรางวัล “ศูนย์รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภค” (Call Center) ระดับดีเด่น ประจำปี 2560

นายธเนศ พาณิชพัฒน์ ผู้จัดการอาวุโส แผนกบริการลูกค้า บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ซัมซุง มีเป้าหมายชัดเจนในการมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าเพื่อผู้บริโภคยุคใหม่อย่างรอบด้าน นอกจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมระดับโลกแล้ว การบริการยังถือเป็นกุญแจสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ เพราะการให้บริการที่ดีจะส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าและช่วยสร้างความผูกพันกับแบรนด์ในระยะยาว และเมื่อจำนวนของผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนในไทยเพิ่มขึ้น ความต้องการของศูนย์บริการก็ย่อมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซัมซุงจึงได้เปิดศูนย์บริการแห่งใหม่ ที่ใหญ่และล้ำสมัยที่สุดในเขตกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ณ ชั้น 3 ศูนย์การค้าซีคอนฯ บางแค โดยมุ่งยกระดับประสบการณ์และสร้างความประทับใจต่อแบรนด์ซัมซุงด้วยบริการที่ดี มีการเอาใจใส่ในแต่ละรายละเอียดความต้องการของผู้บริโภคอย่างครบถ้วน เน้นการพัฒนาด้านบริการที่ตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนยุคใหม่ เพื่อสร้างความสะดวกสบายและพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าซัมซุงของเราทุกคน”

โดยศูนย์บริการสมาร์ทโฟนแห่งใหม่ของซัมซุง พร้อมนำเสนอบริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน ด้วยจุดเด่นดังต่อไปนี้ :

  • นวัตกรรมเพื่อการบริการ ที่ศูนย์บริการสมาร์ทโฟนของซัมซุง นวัตกรรมในการนำเสนอก็ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง ซัมซุงได้พัฒนาซอฟต์แวร์และเทคโนโลยี อาทิเช่น โปรแกรม Galaxy Must ที่จะช่วยตรวจเช็คคุณภาพและจุดขัดข้องของตัวเครื่องได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ
  • โปรแกรมวิเคราะห์อาการเสียก่อนและหลังการซ่อม Galaxy Diagnose ที่จะช่วยตรวจสอบการทำงานของสมาร์ทโฟนก่อนส่งคืนสู่มือของลูกค้าเพื่อเพิ่มความมั่นใจและน่าเชื่อถือของบริการ Remote Service ที่พนักงานซัมซุงสามารถเข้าถึงมือถือของลูกค้าได้แม้ไม่ต้องอยู่ที่ศูนย์บริการ พร้อมทั้งช่วยตรวจสอบ วิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่ไม่สารถเดินทางมาที่ศูนย์บริการได้ และ
  • อุปกรณ์ในห้องซ่อมของศูนย์บริการที่มีทั้ง เครื่องมือถอดประกอบจออัตโนมัติ และ ห้องซ่อมแบบป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ ช่วยป้องกันการเสียหายเพิ่มเติมระหว่างซ่อมแซมได้ และ แอปพลิเคชัน My Samsung ที่ช่วยดูแลลูกค้าให้สามารถเข้าถึงบริการหลังการขายของซัมซุงได้อย่างง่ายดาย รวมไปถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่ช่วยให้ลูกค้าใช้งานผลิตภัณฑ์ซัมซุงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • ความรวดเร็ว แม่นยำ นอกเหนือจากความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบและซ่อมแซมสมาร์ทโฟนของศูนย์บริการซัมซุงแล้ว ความเร็วก็ถือเป็นกุญแจสำคัญในการบริการเช่นกัน ด้วยการันตีความรวดเร็วในการซ่อม ซึ่งลูกค้าสามารถรอรับสินค้าได้เลย
  • บุคลากรคุณภาพ ความพร้อมของพนักงานเป็นเรื่องสำคัญ พนักงานทุกคนของศูนย์บริการซัมซุงจึงต้องผ่านการอบรมมาตรฐานเพื่อรักษาระดับการให้บริการพร้อมกับพัฒนาคุณภาพบุคคลากรไปด้วย อาทิเช่น เจ้าหน้าที่ Galaxy Consultant ประจำทุกแบรนด์ช็อปเพื่อให้บริการด้านแอปพลิเคชัน เจ้าหน้าที่ Galaxy Butler Service ที่จะคอยดูแลลูกค้าแบบพิเศษ และพนักงานที่ต้องมีการอัพเดท ฝึกฝน และทดสอบเพื่อให้สามารถตอบคำถามต่างๆทุกครั้งที่ลูกค้าต้องการความช่วยเหลือได้
  • เครือข่ายศูนย์บริการที่เข้าถึงง่าย ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยศูนย์บริการซัมซุงมากถึง 118 สาขาทั่วประเทศ  ครอบคลุมกว่า 45 จังหวัดและจุดบริการรับฝากซ่อมเครื่องมากถึง 689 จุดทั่วประเทศ ครอบคลุม 69 จังหวัด ลูกค้าสามารถเดินทางมาใช้บริการจากศูนย์บริการซัมซุงที่ใกล้บ้านได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีบริการคอล เซนเตอร์ และ ไลฟ์ แชท ที่พร้อมจะให้บริการลูกค้า 24 ชม.

ทั้งนี้ ซัมซุง ยินดีที่จะดูแลลูกค้า พร้อมมอบความประทับใจและประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนซัมซุง ในฐานะผู้นำนวัตกรรมเพื่อการตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้ายุคใหม่อย่างต่อเนื่องผ่านศูนย์บริการทั่วประเทศ สามารถแจ้งซ่อมและสอบถามข้อมูลบริการเพิ่มเติมได้ดังนี้

  1. ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ ซัมซุง คอลเซ็นเตอร์ โทร 1282 หรือ
  2. โทรฟรีจากโทรศัพท์บ้านที่หมายเลข 1800-29-3232
  3. แฟกซ์ 0-2689-3298 หรือ
  4. เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ : www.samsung.com/th/support