เมื่อพูดถึงการโกหกเชื่อว่าทุกคนบนโลกใบนี้คงไม่มีใครไม่เคยพูดโกหก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่ดีหรือไม่ก็ตามการโกหกก็คือการโกหก และการโกหกทุกครั้งนั้นก็เพื่อการหลอกลวงให้อีกฝ่ายหลงเชื่อและทำตามที่เราต้องการ ซึ่งถ้าเป็นในชีวิตปกติของเราการโกหกนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ร้ายแรง แต่ในโลกของวิดีโอเกมนั้นการโกหกคือเรื่องร้ายแรงที่อาจจะเปลี่ยนชีวิตหรือตัวเกมภาคนั้น ๆ ไปได้เลยทีเดียว เมื่อคิดได้แบบนั้นเราเลยไปรวบรวมเกมที่มีคำโกหกที่เปลี่ยนชีวิตตัวละครในเกมมานำเสนอ จะมีเกมไหนคำโกหกเรื่องอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย

คำเตือน.เนื้อหาในบทความมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องในเกมโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

Dr. Wily ที่ขอยอมแพ้จะไม่ก่อความวุ่นวายอีก จากเกม Rockman

Rockman

เริ่มต้นเรื่องแรกกับการโกหกของตัวร้ายในวิดีโอเกม ที่ตรงกับคำโบราณที่ว่าไม่มีสัจจะในหมู่โจร คำ ๆ นี้ใช้ได้ผลในทุกยุคสมัยจริง ๆ โดยเฉพาะเกมในซีรีส์ ‘Rockman’ ที่ตั้งแต่ภาคแรกของเกมมาจนถึงภาคล่าสุดอย่าง ‘Rockman 11’ เราก็ยังคงเห็นตัวร้ายอย่าง ดร.ไวลี่ (Dr. Wily) ออกมาสร้างความวุ่นวายตลอด ทั้งภาคหลักภาคแยกภาคย่อยไปจนถึงภาคเสริม ที่ทุกครั้งที่พ่ายแพ้ดร.ไวลี่ก็จะก้มขอขมายอมแพ้และสัญญาว่าจะไม่ทำเรื่องชั่วร้ายอีก แต่สุดท้ายเขาก็กลับมาในภาคต่อไปกับแผนการครองโลก ซึ่งตอนแรก ๆ ‘Rockman’ ก็เชื่อแต่หลัง ๆ พอเจอบ่อย ๆ เข้าก็ไม่เชื่อใจอย่างใน  ‘Rockman 7’ ที่ ‘Rockman’ คิดจะฆ่าดร.ไวลี่ทิ้งเพื่อตัดปัญหาจนเป็นการทำลายกฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์ที่ห้ามทำร้ายมนุษย์ ซึ่งจนถึงตอนนี้เขาก็ไม่เคยรักษาสัญญาได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว นับเป็นการโกหกครั้งใหญ่ของวงการเกมที่นักเล่นเกมจดจำได้เป็นอย่างดี

Rockman

ขอบคุณมาริโอ้แต่เจ้าหญิงอยู่ปราสาทต่อไป จากเกม Super Mario Bros

Super Mario Bros

คุณเคยพยายามทำอะไรบางอย่างด้วยความยากลำบากรึเปล่า แน่นอนว่าคุณต้องเคยทำกันมาบ้าง และหนึ่งในนั้นก็คือการนั่งเล่นเกม ‘Super Mario Bros’ ภาคแรก ที่เราจะได้ฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ มากมายเพื่อไปช่วยเจ้าหญิง ที่เมื่อเราตัดสะพานฆ่าหัวหน้าประจำฉากไปได้แทนที่เราจะได้เจอตัวเจ้าหญิงที่เราตามช่วย แต่กลับพบเพียงเจ้าโทด (Toad) คนสนิทหัวเห็ดของเจ้าหญิงที่ขอบคุณราและบอกว่าเจ้าหญิงถูกจับอยู่ที่ปราสาทต่อไป โอเคได้ถ้าแบบนั้นเราก็ไปที่ด่านต่อไป จนเมื่อมาถึงที่ปราสาทต่อมาเราก็เจอเจ้าโทดคนเดิม และพูดประโยคเดิมแบบนี้ซ้ำ ๆ ไปสิบกว่าด่าน ซึ่งไม่ว่าจะดูยังไงมันก็คือคำโกหกที่เราต้องเจอซ้ำ ๆ ที่จะว่าเป็นฝีมือของตัวร้ายที่หลอกเราก็ไม่น่าจะใช่ เพราะทุกครั้งที่เราเจอก็คือเจ้าโทดคนเดิม ก็หมายความว่าถ้าตัวร้ายไม่จับเจ้าหัวเห็ดโทดมาซ้ำ ๆ ก็แปลว่าเจ้าหญิงกำลังปั่นหัวเราอยู่อย่างแน่นอน และถ้าเราดูรูปเจ้าโทดดี ๆ จะเห็นว่ามันกำลังชูนิ้วกลางให้เราด้วย ยิ่งเป็นการตอกย้ำเรื่องนี้เข้าไปอีก

Super Mario Bros

แกคือฆาตกร จากเกม Among Us

 Among Us

ถ้าพูดถึงเกมที่เน้นการโกหกหลอกลวงผู้เล่นก็มีอยู่มากมายในตลาด แต่เกมที่เป็นกระแสและเป็นที่นิยมในตอนนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นเกม ‘Among Us’ เกมที่ให้เรารับบทเป็น ‘The Impostor’ ที่ต้องฆ่าทุกคนในยานให้หมดโดยที่ไม่ให้มีใครรู้ ซึ่งสิ่งที่เราต้องทำก็คือการโกหกหรือใส่ร้ายคนอื่นว่าเป็นคนร้าย(ถ้าคุณได้รับบทนั้น) ส่วนคนที่ไม่ได้เป็นคนร้ายก็ต้องระแวงว่าใครคือคนร้าย เพราะทุกคนนั้นน่าสงสัยทั้งหมดจนเราไว้ใจใครไม่ได้ ส่วนคนที่ไม่เคยเล่นเกมนี้ เกมจะให้เรารับบทเป็นตัวละครที่อยู่ในยานอวกาศที่ต้องทำภารกิจต่าง ๆ เพื่อให้ยานไปต่อได้ ส่วนคนร้ายหรือ ‘The Impostor’ ก็มีหน้าที่ในการฆ่าคนในยานให้หมดโดยไม่ให้ใครรู้ ซึ่งถ้ามีคนรู้และพร้อมใจกันออกเสียงเลือกเราว่าเป็นคนร้าย เราก็จะถูกเตะออกไปนอกยานที่ถือว่าพ่ายแพ้ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนก็สามารถเลือกคนผิดไปได้ด้วย(คนร้ายตัวจริงก็ยืนยิ้มไป) ตัวเกมเน้นการพูดคุยสื่อสารเพื่อใส่ร้ายหรือยืนยันตัวตน นับเป็นเกมที่ตรงกับเนื้อหาบทความที่สุด

 Among Us

เลิกแก้แค้นแต่ก็ทำไม่ได้ จากเกม The Last of Us Part II

 The Last of Us Part II

ไม่เจอกับตัวเองไม่มีวันเข้าใจถึงความรู้สึกนี้ นั่นคือสิ่งที่เกม ‘The Last of Us Part II’ ต้องการสื่อกับคนเล่นเกม ที่ใน ‘The Last of Us’ ภาคแรกจะสื่อถึงความรักความผูกพันสายใยของพ่อลูกที่เชื่อมถึงกันในโลกอันโหดร้าย ขณะที่ในภาค 2 ของเกมนั้นจะตรงข้ามกับภาคแรกทุกอย่าง ทั้งความโกรธเกลียดเคียดแค้นความพยาบาทที่ไม่ว่าตัวละครในเกมจะปล่อยวางยังไงความรู้สึกผิดบาปก็ยังคงติดอยู่ในใจจนล้างไม่ออก กลายเป็นโกหกคนที่รักว่าฉันปล่อยวางแล้วพอแล้วเลิกแล้ว แต่สุดท้ายจิตใจลึก ๆ ก็ยังคงรู้สึกถึงมันและภาพนั้นก็ยังตามมาหลอกหลอน(ภาคคนที่รักถูกฆ่าต่อหน้า) ที่แม้จะหนีเท่าใดก็หนีไม่พ้น เช่นเดียวกับเอลลี่ (Ellie) ที่สามารถกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติกับครอบครัวคนที่รักได้แล้ว แต่สุดท้ายเธอก็ต้องกลับไปในวังวนของการแก้แค้น เพราะความรู้สึกโกรธเกลียดเคียดแค้นยังคงฝังลึกจนไม่สามารถหนีไปได้ ทั้งที่สัญญาเอาไว้แล้วว่าจะไม่แก้แค้น จนสุดท้ายเอลลี่ก็ไม่เหลือใครแถมยังต้องจมทุกข์อยู่กับความเศร้านั้นไปตลอดชีวิต ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เอลลี่ได้กลับมาจากการโกหกและการไม่ปล่อยวางของตนเอง

 The Last of Us Part II

Zeus หลอก Kratos ในเกม God of War 2

God of War 2

คราวนี้มาดูการหลอกแบบง่าย ๆ แต่เราก็หลงเชื่อเพราะความไว้ใจกันบ้าง กับการหลอกของซุส (Zeus) ที่จะให้เครโทส (Kratos) วางใจเพื่อไปหยิบดาบ ‘Blade of Olympus’ จนถูกขโมยพลังไปจนหมด โดยทุกอย่างมันเริ่มต้นที่ความหยิ่งผยองของเครโทสที่เมื่อตนได้เป็นเทพเจ้าแห่งสงครามแทนเทพองค์ก่อน เขาก็ใช้พลังที่มีช่วยฝ่ายกรีกของตัวเองจนชนะสงครามครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เทพแห่งสงครามไม่ควรทำในการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จนซุสต้องลงมาจัดการกับเรื่องนี้โดยการเสกรูปปั้นยักษ์ให้มาทำลายเมืองกรีก จนเครโทสต้องลงจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่เกินกว่าที่เทพเจ้าแห่งสงครามอย่างเขาจะทำลายมันได้ ตอนนั้นเองซุสก็ส่ง ‘Blade of Olympus’ มาให้เครโทสเพื่อยืมพลัง ที่เมื่อเครโทสจับดาบผลกลับเป็นตรงข้ามเพราะเขากลับถูกดูดพลังเทพไปจนหมด ในวินาทีนั้นสีหน้าของเครโทสเต็มไปด้วยความผิดหวังที่ถูกคนที่ไว้ใจโกหกหักหลัง(รูปประกอบด้านล่าง) แถมยังถูกซุสแทงจนเสียชีวิตเกิดเป็นเรื่องราวการฆ่าล้างบางทวยเทพนับตั้งแต่นั้นมา ซึ่งถ้ามองกันจริง ๆ แล้วเครโทสก็ผิดแต่การโกหกเพื่อกำจัดอีกฝ่ายก็ดูไม่ค่อยเข้าท่า ยิ่งซุสที่เป็นถึงเทพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโอลิมปัสมาทำแบบนี้มันก็ดูไม่เหมาะสมเข้าไปอีก ระดับความสามารถของเขาควรทำสิ่งที่ถูกต้องกว่านี้ ซึ่งผลที่ตามมาของการโกหกของซุสก็ร้ายแรงจนถึงชีวิตเลยทีเดียว

God of War 2

Albert Wesker หลอกหน่วย S.T.A.R.S. ไปตาย จากเกม Resident Evil 1

Resident Evil 1

เชื่อว่าคนที่เล่นเกม ‘Resident Evil’ ภาคแรกในสมัยเครื่อง ‘PlayStation 1’ จนมาถึงตอนท้ายเกมต้องรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อเรารู้ว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เราต้องเจอมาทั้งหมดตลอดทั้งเกมไม่ว่าจะเป็นฝูงซอมบี้ไปจนถึงสัตว์ประหลาดที่ฆ่าชีวิตเพื่อนร่วมทีมหน่วย S.T.A.R.S. ของเรานั้นมันคือแผนการของอัลเบิร์ต เวสเกอร์ (Albert Wesker) ที่ต้องการทดสอบเหล่าอาวุธชีวภาพของตนเองว่ามันจะทำงานได้ดีขนาดไหน ถ้าต้องต่อสู้กับหน่วยพิเศษที่ถูกฝึกมาอย่างดีอย่างหน่วย S.T.A.R.S. ที่ในตอนแรกนั้นเวสเกอร์ได้ส่งหน่วยแรกมาตรวจสอบเรื่องราวการหายตัวไปของชาวเมืองแรคคูนที่หายตัวไปในป่า ซึ่งตอนนั้นเวสกอร์รู้เรื่องราวทุกอย่างหมดแล้ว และคิดว่าต่อไปเรื่องราวต้องบานปลายไปมากกว่าแน่ ๆ แต่ไหน ๆ เรื่องก็เลวร้ายขนาดนี้แล้ว เขาจึงเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสโดยการส่งหน่วย S.T.A.R.S. หน่วยที่สองไป โดยคราวนี้เขาจะไปควบคุมทุกอย่างเอง ซึ่งสุดท้ายการโกหกนี้ก็เป็นผล เพราะเวสเกอร์ได้ข้อมูลมากมายตามที่เขาต้องการจนสามารถดำเนินแผนขั้นต่อไปได้สำเร็จ นับเป็นการโกหกที่ให้ผลดีที่กว่าเราจะรู้ว่าเขาไม่ตายก็รอไปถึงภาคที่ 4  เลยทีเดียว

Resident Evil 1

นายคือ Big Boss จากเกม Metal Gear Solid V The Phantom Pain

Metal Gear Solid V The Phantom Pain

สำหรับการหลอกลวงครั้งนี้ต้องย้อนกลับไปเล่าตั้งแต่เกม ‘Metal Gear Solid V Ground Zeroes’ ที่ในตอนนั้น ‘BigBoss’ ต้องไปช่วยตัวประกันที่ค่ายกักกันที่เรียกว่า ‘Ground Zeroes’ ซึ่งนั่นคือแผนของตัวร้ายที่ต้องการหลอกให้ ‘BigBoss’ ออกมาจากฐานกลางทะเลของตนเอง เพื่อจะได้มาบุกตอนที่ ‘BigBoss’ ไม่อยู่จนเกิดเป็นการทำสงครามที่ในตอนนั้น ‘BigBoss’ ที่กลับมาทันก็ได้ประสบอุบัติเหตุจนบาดเจ็บสาหัส แขนขวาขาด และมีเหล็กเสียบที่หัวจนเหมือนเขา พร้อมอาการโคม่ากว่า 9 ปีที่เสียไปอย่างไร้ค่า จนเมื่อตื่นขึ้นมาโรงพยาบาลที่เรารักษาตัวก็ถูกฝ่ายตัวร้ายมาบุกเพื่อฆ่า‘BigBoss’ จนเมื่อเราหนีมาได้จึงเริ่มการแก้แค้นคนที่ทำลายชีวิตเรา โดยตลอดทั้งเกมนั้นเราจะไม่ทราบเลยว่า ‘BigBoss’ ที่เราเล่นและควบคุมมาตลอดนั้นเป็นเพียงตัวปลอม ที่ถูกตัวจริงจับเรามาศัลยกรรมใบหน้าใบหน้าแถมด้วยการสะกดจิตให้หลงเชื่อว่าตนเองคือ ‘BigBoss’ เพื่อการแก้แค้น ขณะที่ตัวจริงในเกมไม่ได้บอกว่าเขาหายไปไหนทำอะไร จนมาถึงตอนจบเกมที่เมื่อเราแก้แค้นสำเร็จการสะกดจิตก็ได้คลายลงไป เราจึงรู้ว่าตนเองคือตัวปลอมแต่แทนที่ตัวปลอมจะตกใจหรือโกรธแค้นที่ถูกทำแบบนี้ ตรงข้ามเขากลับยอมรับและยอมเป็นเงาของ ‘BigBoss’ ต่อไป ขณะที่เพื่อน ๆ ที่ไว้ใจ ‘BigBoss’ ตัวจริงที่เมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดก็โกรธและตีตัวออกห่างจากทั้งคู่ในเวลาต่อมา เรียกว่าหลอกทั้งตัวละครในเกมและคนเล่นได้อย่างแนบเนียนจริง ๆ และการโกหกนั้นก็ทำให้ ‘BigBoss’ ทั้งสองเสียเพื่อนที่ไว้ใจไปตลอดกาลซึ่งเป็นสิ่งที่เขาต้องแลกมากับการโกหกนี้

Metal Gear Solid V The Phantom Pain

ข้าจะสานต่อสิ่งที่แม่ทำค้างเอาไว้ จากเกม Final Fantasy VII

 Final Fantasy VII

สำหรับเรื่องนี้จะเรียกว่าหลอกตัวเอง แถมพอเชื่อไปแล้วคนที่ทราบความจริงก็ไม่คิดที่จะบอกว่าอะไรคืออะไร และยังสนับสนุนการหลอกตัวเองครั้งนี้ จนเรื่องราวบานปลายไปจนกลายเป็นการทำลายโลกเลยทีเดียว โดยเรื่องราวในครั้งนี้เริ่มต้นที่ตัวเซฟีรอธ (Sephiroth) นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดที่หลายคนก็ไม่ทราบชาติกำเนิดของเขา จนวันหนึ่งเซฟีรอธได้ไปศึกษาเกี่ยวกับตำราโบราณจนทราบเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวที่ชื่อว่าเจโนวา (Jenova) ที่ตกลงมายังโลกในยุคอดีตเพื่อทำลายโลกใบนี้ แต่สุดท้ายนางก็ถูกเหล่ามนุษย์โบราณผนึกกำลังกันจนปิดผนึกปีศาจร้ายลงไปได้ วันเวลาผ่านไปศาสตราจารย์ โฮโจ (Professor Hojo) ได้ค้นพบเจโนวาและคิดจะใช้สิ่งนี้สร้างมนุษย์สายพันธุ์ขึ้นมา โดยเซฟิรอธที่เป็นลูกชายแท้ ๆ ของตนเองคือตัวทดลองที่สมบูรณ์แบบที่สุด แต่ตัวเซฟิรอธกลับคิดว่าเจโนวาคือแม่และคิดว่ามนุษย์นั้นชั่วร้าย จนทำให้เขาคิดจะทำลายโลกใบนี้เพื่อแก้แค้นให้แม่ของตน ซึ่งตัวของโฮโจก็ทราบเรื่องนี้แต่ก็ยังคงสนับสนุนลูกชายตนเองให้ทำเรื่องชั่วร้ายโดยไม่คิดที่จะบอกความจริง เรียกว่าหลอกตัวเองพอว่าคนที่รู้ความจริงมาสนับสนุนความเข้าใจผิดซ้ำอีกมันยิ่งเจ็บคูณสองจริง ๆ

 Final Fantasy VII

จงปกป้องโลก จากเกม Nier Automata

NieR Automata

ถ้าพูดถึงเกมแอ็กชันสนุก ๆ กราฟิกสวยตัวละครสาว ๆ น่ารัก(แม้จะปิดตาก็เถอะ) เกม ‘Nier Automata’ คือหนึ่งในความดีงามที่เราอยากให้คุณหามาเล่น แถมเนื้อเรื่องของเกมนี้ก็สนุกลึกซึ้งกินใจ แต่สิ่งที่เป็นประเด็นหลักของเกมนี้ก็คือการโกหกซ้ำไปซ้ำมาแบบไม่มีที่สิ้นสุด กับเรื่องราวการเดินทางมาปกป้องโลกของหุ่น ‘2B’ หุ่นยนต์สาวสวยกับ ‘9S’ ที่เป็นหุ่นเพศชายที่ถูกส่งมายังโลกเพื่อกำจัดผู้รุกรานจากโลกอื่นเพื่อปกป้องมนุษย์ ก่อนที่ทั้งคู่จะทำสำเร็จโดยการสละชีวิตของตนเองเพื่อกำจัดศัตรู ก่อนที่เรื่องราวจะกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับตัวละครชุดเดิมเรื่องราวเดิมที่คนเล่นก็สงสัยว่ามันคืออะไร ก่อนที่ตัวเกมจะเฉลยกับเราว่ามนุษย์นั้นสูญสิ้นไปตั้งหลายพันปีแล้ว และสิ่งที่ ‘2B’ กับ ‘9S’ ทำนั้นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นพัน ๆ ครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสองคนนั้นไม่ทราบเรื่องนี้เพราะเมื่อทุกอย่างจบลงทั้งคู่ก็จะถูกลบความทรงจำและเริ่มทำงานแบบเดิมต่อไป เรียกว่าเป็นการโกหกที่เจ็บจริง ๆ ลองคิดดูว่าถ้าคุณต้องทำอะไรซ้ำ ๆ แบบเดิมเป็นร้อยเป็นพันครั้งโดยไม่รู้ความจริงมันจะเจ็บขนาดไหน

NieR Automata

ไม่มีสัจจะในหมู่โจร จากเกม Red Dead Redemption

โจรยังไงก็ยังเป็นโจรคำ ๆ นี้ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้กับทุกคน เพราะคนที่รู้ตัวเองว่าเป็นโจรยังดีกว่าโจรที่ไม่รู้ตัวหรือรู้ตัวแต่ไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นโจรเสียอีก ซึ่งในเกม ‘Red Dead Redemption’ เริ่มต้นด้วยเหตุผลนี้ กับเรื่องราวของจอห์น มาร์สตัน (John Marston) อดีตโจรกลับใจที่ได้โอกาสที่ 2 ในการใช้ชีวิตใหม่ แต่แล้วเขาก็ทำมันพังเพราะไปปล้นจนถูกตำรวจจับได้ และข้อเสนอที่จอห์นได้รับเพื่อแลกกับอิสระภาพในการกลับไปอยู่กับครอบครัว ก็คือการตามล่าฆ่าเพื่อนโจรที่ในอดีตเคยเป็นเหมือนพี่น้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา แต่เพื่อครอบครัวที่รออยู่เขาจึงทำให้เขาต้องลงมือทำ ซึ่งทั้งหมดนั้นมันก็คือคำโกหกจากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่เมื่อจอห์นทำตามที่สัญญาได้แล้วเขากลับถูกตำรวจที่ให้คำสัญญาหักหลังได้อย่างหน้าด้าน ๆ เรียกว่าคำโกหกคำโตที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้จากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ซึ่งมันก็คือผลที่ตามมาของการเป็นโจรที่จอห์นได้รับ ส่วนผลของการโกหกหักหลังจอห์น นายตำรวจทั้งสองคนก็ได้รับผลของตนเองเช่นกัน เพราะสุดท้ายแล้วลูกชายของจอห์นก็มาแก้แค้นให้พ่อของตนในภายหลังนั่นเอง ค่าตอบแทนของการโกหกหักหลังมันช่างแพงจริง ๆ

หลอกใช้ให้ทำลายโลก จากเกม Death Stranding

Death Stranding

อีกหนึ่งคำลวงที่คนเล่นเกม ‘Death Stranding’ รับรู้และจดจำได้เป็นอย่างดี กับเรื่องราวของเกมที่เริ่มต้นจากแซม (Sam) นักส่งของในโลกที่ล่มสลายเพราะฝนเร่งเวลา ที่เมื่อสิ่งมีชีวิตโดนฝนนั้นจะแก่อย่างรวดเร็ว(ฝนโดนตัวส่วนตัวจะเหี่ยว) ขณะที่สิ่งของก็จะได้รับผลเช่นกัน นอกจากนี้ก็มีเหล่าผีที่มาฆ่าผู้คนจนทำให้มนุษย์หลบอยู่ในหลุมหลบภัย และเรื่องราวก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อเอมิลี่ (Amelie) ลูกสาวประธานาธิบดีของอเมริกาถูกจับไป ร้อนถึงแซมที่ต้องไปช่วยพี่สาวต่างแม่ของตนไปพร้อม ๆ กับการเชื่อมต่อระบบ Network ให้กลับมาอีกครั้ง  ก่อนที่ความจริงจะเฉลยออกมาจนคนเล่นถึงกับอึ้งไปพร้อมกับแซม ว่าความจริงแล้วเอมิลี่นั้นไม่มีตัวตนอยู่จริง เธอเป็นเหมือนร่างจิตที่แยกมาจากประธานาธิบดีที่เป็นแม่บุญธรรมของแซม  และที่เธอหลอกทุกคนว่าถูกจับก็เพื่อหลอกให้แซมเชื่อต่อระบบ Network เพื่อการทำลายโลกใบนี้ทิ้งแบบที่มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต แถมชื่อของเอมีลี่ในภาษาอังกฤษที่เมื่อแยกคำว่า ame ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่าวิญญาณ ส่วน lie ก็แปลว่าโกหกในภาษาอังกฤษ ที่เมื่อรวมกันก็จะได้คำว่า “วิญญาณโกหก” เรียกว่าอึ้งทึ่งงงกันเลยทีเดียว

Death Stranding

ร่วมมือกันล้มล้างจักรพรรดิ จากเกม Star Wars The Force Unleashed

Star Wars The Force Unleashed

การโกหกไม่ว่าจะเป็นการโกหกแบบไหนก็ไม่ดีทั้งนั้น แต่การโกหกจากคนที่เรารักและไว้ใจด้วยชีวิต มันจะยิ่งเป็นความเจ็บปวดชนิดที่เรียกว่าเจ็บจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว เช่นเดียวกับเกม ‘Star Wars The Force Unleashed’ ที่เริ่มต้นเรื่องราวของกาเลน มาเรก (Galen Marek) หรือ “Starkiller” ลูกศิษย์ของดาร์ธ เวเดอร์ (Darth Vader) ที่เก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กเพื่อฝึกฝนวิชาให้เขากลาย ‘Sith’ ที่ชั่วร้ายในการตามล่าเหล่า ‘Jedi’ ที่หลงเหลืออยู่ตามดาวต่าง ๆ ในจักรวาล ซึ่งตัวของมาเรกนั้นก็รักเคารพเวเดอร์มาก ๆ จนวันหนึ่งเวเดอร์ได้บอกถึงแผนการของเขาในการโค่นล้มจักรพรรดิ เพราะทางนั้นไม่ทราบว่าเวเดอร์แอบมีลูกศิษย์ ซึ่งมาเรกก็เห็นด้วยในการกระทำของอาจารย์ แต่สุดท้ายเมื่อถึงเวลาลงมือกันจริง ๆ กลับกลายเป็นฝ่ายเวเดอร์เองที่โกหกลูกศิษย์ตัวเอง โดยการสังหารกาเลนต่อหน้าจักรพรรดิ แต่กาเลนก็รอดชีวิตมาได้เขาจึงไปรวบรวมกลุ่มต่อต้านเพี่อมาแก้แค้นอาจารย์และจักรพรรดิไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งสุดท้ายเกมก็เฉลยออกมาว่าสิ่งที่เวเดอร์ทำมาทั้งหมดนั้นคือแผนที่วางเอาไว้กับจักรพรรดิ และการฆ่ากาเลนในตอนนั้นก็เป็นเพียงละครตบตา ที่ต้องการให้มาเรกไปรวบรวมฝ่ายต่อต้านให้มาหาตน เพื่อเป็นการทำลายฝ่ายต่อต้านให้หมดในทีเดียว ซึ่งถ้ามองกันจริง ๆ แผนของเวดอร์นั้นลึกซึ้งมาก แต่ในมุมของการโกหกหักหลังคนที่รักเคารพตนได้ลงคอก็แปลว่าจิตใจเวเดอร์นั้นก็ต้องดำสนิทเหมือนกันถึงทำได้ลงแบบนี้

Star Wars The Force Unleashed

มีคนมาแทนเธอแล้ว จากเกม The Last Of Us

The Last Of Us

ปิดท้ายกับ ‘The Last Of Us’ อีกครั้งกับคำโกหกที่ของชายแก่ ที่ต้องการปกป้องจิตใจของตนเองที่เคยแตกสลายให้กลับมา โดยที่ไม่สนใจเลยว่าโลกใบนี้จะเป็นอย่างไร กับตอนจบของเกม ‘The Last Of Us’ ภาคแรก หลังจากที่โจเอล (Joel) ไปช่วยเอลลี่จากโรงพยาบาล เพราะการฝ่าตัดเพื่อหายารักษาโรคซอมบี้หัวเห็ดนั้นต้องแยกสมองของเอลลี่ออกมา ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเธอต้องตายโดยที่ยังไม่ได้บอกลา(ตัวของโจเอลไม่รู้ว่าการผ่าตัดนี้เอลลี่จะต้องตาย) ซึ่งในอดีตนั้นโจเอลเคยสูญเสียลูกสาวเพราะถูกทหารยิงตอนที่การแพร่เชื้อกระจายไปทั่วโลก จนวันหนึ่งชายแก่ได้พบกับเอลลี่ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกสาวตน จึงทำให้เขากลับมาเป็นพ่อคนอีกครั้ง และเมื่อต้องสูญเสียลูกสาวไปอีกครั้ง โจเอลก็เลือกที่จะปกป้องจิตใจตนเองโดยไม่สนใจโลกใบนี้ว่าจะต้องอยู่ในนรกต่อไปรึไม่ ซึ่งเมื่อเอลี่ถามว่าทำไมเธอจึงได้ออกมาจากโรงพยาบาล  โจเอลก็โกหกว่าทางนั้นมีคนแบบเอลลี่เยอะแล้ว และการฝ่าตัดก็สร้างยาแก้ไม่ได้ ซึ่งถ้าเราดูจากแววตาเอลลี่(ในรูปด้านบน) จะเห็นเลยว่าเด็กสาวไม่เชื่อแต่ก็พร้อมจะยอมรับคำโกหกนั้นโดยไม่ถามอะไรต่อ จนเกิดเป็นคำถามไปยังคนเล่นเกมว่า ถ้าเป็นคุณจะเลือกทางไหน

The Last Of Us

ก็จบกันไปแล้วกับการรวมการโกหกต่าง ๆ ในเกมที่คนเล่นรวมถึงตัวละครหลงเชื่อว่าเป็นจริง ซึ่งต้องบอกเลยว่ายังมีอีกหลายเกมที่ใช้เนื้อหาเรื่องราวแบบนี้ แต่เราก็พยายามคัดเรื่องราวการโกหกหลาย ๆ แบบและตรงกับเนื้อหาในบทความมากที่สุดมานำเสนอ และถ้าใครทีเรื่องราวการโกหกของตัวละครใน้เกมที่น่าสนใจเกมไหนก็บอกกันมาได้ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดกัน ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรในวงการเกมก็ไปติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส