เมื่อพูดถึงเกมซีรีส์ ‘Resident Evil’ เชื่อว่าหลายคนคงจะคิดถึงเรื่องราวความสนุกของการเอาชีวิตรอดจากเหล่าสัตว์ประหลาด ไปจนถึงเหล่าอาวุธชีวภาพแบบต่าง ๆ ที่ไล่ล่าคุณ ไม่ก็พูดถึงระบบการเล่นเกมในภาคต่าง ๆ ที่ตอนนี้กระแสของตัวเกม ‘Resident Evil’ นั้นกำลังไปในมุมมองบุคคลที่ 1 ที่เห็นแค่มือกับปืนที่นักเล่นเกมบางส่วนไม่ชอบเล่น แต่ระบบนี้ก็ได้กลับมาอีกครั้งใน ‘Resident Evil Village’ แต่เมื่อเราย้อนกลับไปหาข้อมูลเกมเก่า ๆ ของ ‘Resident Evil’ ก็พบว่ามีหลายครั้งก่อน ‘Resident Evil 7’ ที่ ‘Capcom’ เคยลองใช้มุมมองบุคคลที่ 1 มาแล้ว ทั้งแบบลูกผสมที่สลับไปมาไปทั้งมุมมองบุคคลที่ 1 กับมุมมองบุคคลที่ 3 ที่เห็นตัวละครของเรา  รวมถึงมุมกล้องแบบไม่เห็นตัวละครในเกมแนวยิงบนเกมตู้ ที่เรียกว่าเยอะจนเราต้องหยิบมาพูดถึงกันเลยทีเดียว เพื่อใครที่สนใจจะได้ไปหามาเล่นหรือสะสมกัน โดยเราจะไม่เรียงตามปีในการวางจำหน่ายแต่จะเรียงตามความน่าสนใจในเนื้อหา เพื่อให้ง่ายต่อการอ่านและตัดสินใจในการหามาเล่น จะมีเกมอะไรภาคไหนบ้างนั้นมาดูกันเลย

Resident Evil Survivor

Resident Evil Survivor

เริ่มต้นเกมแรกที่เราอยากแนะนำให้หลายคนที่ชื่นชอบเกมแนวมุมมองบุคคลที่ 1 หรือชอบรูปแบบเกมที่ ‘Resident Evil 7 และ ‘Village’ เป็น เกม ‘Resident Evil Survivor’ คือคำตอบ โดยเกมนี้จะลงบนเครื่อง ‘PlayStation 1’ ในปี 2000 กับเรื่องราวของอาร์ค ทอมป์สัน (Ark Thompson) นักสืบเอกชนชาวอเมริกันที่สืบเรื่องของ ‘Umbrella’ ตามคำขอร้องของลีออน สกอต เคนเนดี (Leon Scott Kennedy) จนนำไปสู่เหตุการณ์เชื้อแพร่กระจายไปทั่วเกาะ สัตว์ประหลาดในห้องทดลองหลุดออกมาบนเกาะ Sheena ซึ่งเรื่องราวจะเริ่มต้นจากตรงนี้ที่ โดยตัวของอาร์คนั้นเกิดความจำเสื่อมเพราะเฮลิคอปเตอร์ตกจนทำให้เขาจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่ได้ ในช่วงแรกจึงเป็นการเอาชีวิตรอดและช่วยเหลือผู้คนบนเกาะที่รู้จักเขา ตัวเกมจะเป็นแนวมุมมองคล้าย ๆ เกมเดินยิงบนเกมตู้ที่เราเคยเล่น แต่เกม ‘Resident Evil Survivor’ จะให้เราควบคุมตัวละครเดินไปมาเองได้ ตัวเกมเหมาะแก่การเอามาเล่นคู่กับตัวคอนโทรลเลอร์ปืนที่มีขายในตอนนั้น แต่การเล่นบนคอนโทรลเลอร์ปกติกลับทำให้เกมจืดจนแทบไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ทาง ‘Capcom’ ลองทำแนวมุมมองนี้ดู ใครที่เป็นสายสะสมเกมเก่าไม่ควรพลาดที่จะมีเก็บเอาไว้

Resident Evil Survivor

Resident Evil The Umbrella Chronicles

Resident Evil The Umbrella Chronicles

คราวนี้กระโดดมาที่เครื่อง ‘Nintendo Wii’ และ ‘PlayStation 3’ กันบ้าง ที่คราวนี้ตัวเกมจะเปลี่ยนมาเป็นเกมแนวยิงมุมมองบุคคลที่ 1 แบบเต็มตัว เพราะเราจะไม่สามารถควบคุมตัวละครได้ เรามีหน้าที่เพียงยิงศัตรูที่ออกมาเท่านั้นได้ ตัวเกมในตอนนั้นถูกสร้างมาเพื่อให้เล่นกับคอนโทรลเลอร์ของเครื่อง ‘Wii’ โดยเราจะสามารถเก็บปืนกระสุนไปจนถึงระเบิดเพื่อกำจัดศัตรูที่เข้ามาเป็นรอบ ๆ แต่ความพิเศษที่น่าสนใจของเกมนี้ไม่ใช่ระบบการเล่นแต่เป็นเนื้อเรื่อง ที่เกมนี้จะใส่เนื้อหาพิเศษที่เราไม่เห็นในภาคปกติ อย่างการเอาชีวิตรอดของอัลเบิร์ต เวสเกอร์  (Albert Wesker) ในเกมภาคแรกหลังจากถูกฆ่าตายไปแล้วเขาหนีออกมาได้อย่างไร โดยในภาคนี้เราจะได้เห็นตัวละครใหม่อย่างเซอร์เก วลาดิเมียร์ (Sergei Vladimir) ต้นแบบของ ‘Tyrants’ รวมถึงการบุกทำลายฐานทัพของ ‘Umbrella Corporation’ ที่สุดท้ายเพื่อปิดฉากบริษัทยาที่ชั่วร้าย นอกนั้นก็จะเป็นเรื่องราวที่เอาเกมภาคหลักอย่างภาค Zero และภาคที่ 3 มาดัดแปลงให้เป็นเกมแนวยิง ด้วยเนื้อเรื่องที่น่าสนใจและน่าติดตามเราจึงอยากแนะนำให้แฟน ๆ ‘Resident Evil’ ควรหามาเล่น

Resident Evil The Umbrella Chronicles

Resident Evil Dead Aim

Resident Evil Dead Aim

หลังจากที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในแง่ของยอดขายและเสียงตอบรับของคนเล่นใน ‘Resident Evil Survivor’ ทาง ‘Capcom’ ก็กลับมาทำการบ้านใหม่อีกครั้งกับเกม ‘Resident Evil Dead Aim’ ที่วางจำหน่ายบน ‘PlayStation 2’ โดยในครั้งนี้ตัวเกมก็ยังคงการควบคุมตัวละครให้เดินไปมาในฉากได้อย่างอิสระ และยังเปลี่ยนการควบคุมตัวละครในฉากเดินให้เป็นมุมมองบุคคลที่ 3 (มุมกล้องตามหลังตัวละคร) แต่เมื่อเราเปลี่ยนมาเล็งปืนตัวเกมก็จะตัดมาเป็นมุมมองบุคคลที่ 1 ทันที เป็นการเพิ่มความสนุกและน่าสนใจในการเล่นที่มากขึ้น ในส่วนของการเล่นนั้นก็เหมาะสำหรับเล่นกับคอนโทรลเลอร์ปืน แต่ก็สามารถสนุกกับการเล่นบนคอนโทรลเลอร์ปกติได้ โดยเรื่องราวในคราวนี้จะเกิดขึ้นบนเรือเดินสมุทรที่จะมีการขายเชื้อไวรัสที่ถูกขโมยมาจากเมือง Raccoon เพื่อมาประมูลขายกัน เราที่รับบทเป็นบรูซ แมคกิเวอร์น (Bruce McGivern) เจ้าหน้าที่กองบัญชาการยุทธศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา (USSTRATCOM) ที่ต้องหาทางยับยั้งการซื้อขายในครั้งนี้ ตัวเกมมีกราฟิกที่สวยระบบการเล่นที่ดีแต่เนื้อเรื่องกลับค่อนข้างจืดตัวเอกไม่มีอะไรที่น่าจดจำ ใครที่ไม่เคยเล่นก็แนะนำให้ลองหามาเล่นดู ส่วนสายสะสมบอกเลยควรมีเป็นอย่างยิ่ง

Resident Evil Dead Aim

Resident Evil Gaiden

Resident Evil Gaiden

ต่อเนื่องจากเกมที่แล้วที่มีระบบการเล่นที่คล้าย ๆ กัน นั่นคือระบบการควบคุมตัวละครที่เป็นมุมมองบุคคลที่ 3 ที่จะเห็นตัวละครเราวิ่งไปมาในมุมมองด้านบน แต่พอเจอศัตรูตัวเกมจะตัดเข้าสู่ฉากต่อสู้แบบเกม RPG มุมมองบุคคลที่ 1 อย่างเกม ‘Dragon Quest’ ภาคแรก ๆ กับเกม ‘Resident Evil Gaiden’ หนึ่งในเกม ‘Resident Evil’ ที่แฟน ๆ ต่างสาปส่งและพยายามไม่เอาเรื่องราวในเกมนี้มารวมเป็นเนื้อเรื่องหลัก (แต่ทาง ‘Capcom’ บอกว่าเกี่ยว) โดยในเกมนี้เราจะได้รับบทเป็นลีออน สกอต เคนเนดีที่มาสำรวจเดินสมุทรที่ชื่อ ‘Starlight’ แต่เมื่อลีออนไปถึงที่นั่นก็กลายเป็นนรกไปเสียแล้ว เขาจึงต้องหาทางช่วยเหลือผู้รอดชีวิตและหาต้นเหตุของเรื่องราวนี้ ซึ่งนอกจากลีออนแล้วเรายังได้รับบทเป็นแบร์รี่ เบอร์ตัน (Barry Burton) ตัวละครจากภาคแรกมาช่วยในเกม แต่ด้วยพลังของเครื่อง  ‘Game Boy Color’ ที่ค่อนข้างจำกัดจึงทำให้เกมออกมาเป็นแบบนี้ ใครที่เป็นสายเก็บเราขอแนะนำให้ซื้อมาสะสมแต่สายเล่นเราขอให้ข้ามไปเลย เพราะนอกจากความไม่สนุกของเกมแล้วระบบการเล่นก็ยุ่งยากที่ไม่ใช่แค่การเล็งยิงแบบภาคปกติหรือกดคำสั่งแบบเกมภาษา แต่ต้องกะจังหวะให้ตัววิ่งมาถึงจุดที่ถูกต้อง(ดูรูปประกอบ) เพื่อจะโจมตีไม่อย่างนั้นเราจะเป็นฝ่ายถูกโจมตี ที่เรียกว่ายุ่งยากและน่าหงุดหงิดแถมกราฟิกก็ไม่สวยงามเนื้อเรื่องก็ไม่มีอะไรน่าจดจำ แค่รู้ว่ามีเกมนี้ก็พอไม่ต้องไปหามาเล่นเลยเสียเวลา

Resident Evil Gaiden

Resident Evil Deadly Silence

Resident Evil Deadly Silence

เกม ‘Resident Evil Deadly Silence’ คืออีกหนึ่งความพยายามของ ‘Capcom’ ที่จะเอาเกมในซีรีส์ ‘Resident Evil’ มาลงบนเครื่องพกพา โดยในคราวนี้ทาง ‘Capcom’ ก็หยิบเกม ‘Resident Evil’ ภาคแรกบนเครื่อง ‘PlayStation 1’ มาลงบนเครื่องเกมพกพาอย่าง ‘Nintendo DS’ ที่ตัวเกมนั้นได้ปรับเปลี่ยนตัวกราฟิกเสียใหม่ให้ดูสวยขึ้น พร้อมกับเพิ่มระบบการควบคุมเสียใหม่รวมถึงการแก้ไขปริศนาในเกมเพื่อให้เหมาะกับระบบทัชสกรีนของเครื่อง รวมถึงการเปลี่ยนเนื้อหาบางส่วนไปจนทำให้แฟน ๆ หลายคนชื่นชอบ แต่ด้วยความเก่าของเนื้อหาและเรื่องราวที่เล่าซ้ำจึงทำให้เกมไม่ค่อยได้รับความนิยม ในส่วนของมุมมองบุคคลที่ 1 ในเกมนี้นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อเราใช้มีดฟันศัตรูกับตอนแก้ปริศนาต่าง ๆ ที่ให้อารมณ์เหมือนเรากำลังแก้ปริศนาเอง ใครที่เคยเล่น ‘Resident Evil’ ภาคแรกไปแล้วก็ข้ามไปได้เลย แต่ถ้าใครมีเครื่อง ‘Nintendo DS’ ก็ลองหามาเล่นดูก็ไม่เสียหาย

Resident Evil Deadly Silence

Resident Evil 7 Ethan Must Die

Resident Evil 7 Ethan Must Die

มาที่เกมใหม่ ๆ กันบ้างที่เมื่อพูดถึงเกมใหม่ซึ่งเป็นมุมมองบุคคลที่ 1 ของ ‘Resident Evil’ หลายคนต้องคิดถึงเกมหลักอย่าง ‘Resident Evil 7 Bio Hazard’ อย่างไม่ต้องสงสัย  แต่สิ่งที่เราจะนำเสนอนั้นคือโหมดพิเศษที่อยู่ใน DLC ส่วนเสริมของเกมภาคนี้อย่างโหมด ‘Ethan Must Die’ ที่เป็นโหมดการเล่นแบบเอาชีวิตรอดในเวลาจำกัด โดยเราจะต้องเอาชีวิตรอดและไปถึงที่หมายตามที่เวลากำหนด ซึ่งความสนุกของเกมนี้คือการเริ่มต้นเกมที่เราจะมีแค่มีดเพียงเล่มเดียว ก่อนจะไปตายเอาดาบหน้ากับของที่จะมาให้เราแบบสุ่ม ที่ถ้าโชคดีก็จะได้ปืนมากมายอาวุธครบชุด หรือถ้าโชคร้ายก็จะไม่ได้อะไรเลยหรือมีน้อยมาก ๆ แถมศัตรูก็มีเยอะโจมตีรุนแรง เรียกว่าเอาใจสายโหดที่ชอบการเล่นแบบจริงจังเอาชีวิตรอด ใครที่มีเกม ‘Resident Evil 7’ ก็ไปซื้อมาเล่นดูตัวเกมค่อนข้างสนุกเลยทีเดียว

Resident Evil 7 Ethan Must Die

Resident Evil Village The Mercenaries

Resident Evil Village The Mercenaries

อีกไม่กี่วันข้างหน้าเราก็จะได้เล่น ‘Resident Evil Village’ เกมภาคต่อที่ใช้มุมกล้องมุมมองบุคคลที่ 1 เหมือนในภาคที่แล้ว แต่โหมดการเล่นที่เราอยากแนะนำให้หลายคนลองหามาเล่นกันนั่นคือโหมด ‘The Mercenaries’ ที่เคยมีมาแล้วในภาค 4 ถึง 6 ที่เราจะได้รับบทเป็นตัวละครต่าง ๆ ที่มีอาวุธความสามารถรวมถึงค่าพลังที่ต่างกันในการเอาชีวิตรอดในฉากต่าง ๆ ที่เกมกำหนดให้นานที่สุด พร้อมกับทำคะแนนจากการฆ่าศัตรูให้เยอะที่สุด และถ้าเราอยากจะเล่นเกมนี้ให้นานขึ้นก็ต้องไปเก็บแท่งเวลาตามฉาก เราก็จะมีเวลามากขึ้นในการทำคะแนน โดยความพิเศษของโหมด ‘The Mercenaries’ นั้นคือการซื้อท่าต่าง ๆ มาใส่ให้ตัวละคร เช่นต่อยด้วยหมัดสายฟ้าหรือเพิ่มค่าพลังต่าง ๆ ให้ปืน แค่คราวนี้ตัวเกมจะมาในรูปแบบมุมมองบุคคลที่ 1 เท่านั้น แต่ความสนุกบอกเลยว่าจัดเต็มอย่างแน่นอน

Resident Evil Village The Mercenaries

Resident Evil 4 VR  

Resident Evil 4 VR

จะไม่พูดถึงคงไม่ได้กับการกลับมาอีกครั้งของเกมขึ้นหิ้งประจำค่าย ‘Capcom’ กับเกม ‘Resident Evil 4’ ที่คราวนี้มาในรูปแบบของเกม ‘VR’ เต็มรูปแบบ พร้อมกับมุมมองบุคคลที่ 1 ที่เราต้องรับบทเป็นลีออนในการบุกหมู่บ้านเพื่อไปช่วยลูกสาวประธานาธิบดีที่ถูกจับตัวไป ตัวเกมมาพร้อมความสามารถในการควบคุมหันกล้องไปมาตามการเคลื่อนไหวของเรา ที่ต้องเล่นพร้อมกับแว่น ‘Oculus Quest 2’ ซึ่งความพิเศษของเกมนี้ก็คือเราต้องควบคุมปืนหันมุมกล้องด้วยมือเราเอง รวมถึงการทำท่าเล็งปืนเหนี่ยวไกขึ้นลำกล้องเหมือนที่ปืนปกติทำทุกอย่าง ซึ่งให้อารมณ์ความตื่นเต้นสมจริงแบบสุด ๆ แถมตัวเกม ‘Resident Evil 4’ ก็เป็นหนึ่งในภาคที่เล่นสนุกที่คนซึ่งแว่น ‘VR’ ไม่ควรพลาด ตัวเกมยังไม่ประกาศวันวางจำหน่ายแต่ถ้ามีข่าวเราจะรีบมารายงานให้ทราบทันที

Resident Evil 4 VR

Resident Evil Survivor 2 Code Veronica

Resident Evil Survivor 2 Code Veronica

เกม ‘Resident Evil Survivor 2 Code Veronica’ คืออีกหนึ่งความพยายามของ ‘Capcom’ ที่จะเอาเกม ‘Resident Evil’ มาเปลี่ยนเป็นแนวมุมมองบุคคลที่ 1 โดยในคราวนี้ทาง ‘Capcom’ ไม่ได้เสี่ยงที่จะสร้างเกมที่มีเนื้อเรื่องใหม่ขึ้นมา แต่ได้เอาตัวเกมภาคเก่าที่มีเนื้อเรื่องยอดเยี่ยมอย่างในภาค ‘Code Veronica’ มาดัดแปลงให้เป็นแนวยิงมุมมองบุคคลที่ 1 แทน พร้อมด้วยระบบควบคุมการเล็งยิงที่ให้เป็นเกมแนวยิงตามสมัยนิยมมากขึ้น เพราะเราจะเห็นมือของตัวละครไม่ได้เป็นแค่ฉากโล่ง ๆ แบบ ‘Resident Evil Survivor’ ภาคแรก พร้อมด้วยระบบคู่หูที่ช่วยเพิ่มมิติการเล่นให้สนุกขึ้น ใครที่ไม่เคยเล่นเกมเกมภาค ‘Code Veronica’ เพราะไม่ชอบระบบการเล่นแบบเก่าก็ลองมาเล่นเกมนี้ดูได้ ตัวเกมวางจำหน่ายบน ‘PlayStation 2’ แต่ถ้าคุณอยากซึมซับความสนุกของเกมนี้จริง ๆ ควรไปหาภาคนี้ในฉบับ ‘Code Veronica X’ มาเล่น แม้ตัวเกมจะเป็นระบบเก่าแต่เนื้อเรื่องนั้นเรียกว่าสนุกน่าติดตามไม่แพ้ภาคใหม่ ๆ เลยทีเดียว

Resident Evil Survivor 2 Code Veronica

Resident Evil The Darkside Chronicles

Resident Evil The Darkside Chronicles

หลังจากที่ทาง ‘Capcom’ ประสบความสำเร็จจาก ‘Resident Evil The Umbrella Chronicles’ ที่เป็นการเพิ่มเนื้อเรื่องใหม่ที่เชื่อมต่อกับเกมภาคหลัก จึงทำให้มีภาคต่ออย่าง ‘Resident Evil The Darkside Chronicles’ ออกมา โดยในคราวนี้ตัวเกมก็ยังคงใช้ระบบการควบคุมแบบเดิม แต่เพิ่มเติมระบบของคู่หูลงไปในเกมแบบที่ ‘Resident Evil Survivor 2 Code Veronica’ ทำ จนทำให้ตัวเกมภาคนี้เป็นที่ถูกใจแฟน ๆ เพราะเราจะได้เห็นตัวเกมภาคเก่าอย่างภาค ‘Code Veronica’ กับภาค 2 ที่มีกราฟิกสวยขึ้นและยังได้เล่นเกมเนื้อเรื่องใหม่ในชื่อ ‘Darkness Falls’ ที่เราจะได้เล่นเป็นลีออนสมัยที่เพิ่งเข้ามาเป็นสายลับมือใหม่ ที่ต้องร่วมมือกับแจ็ค คราวเซอร์ (Jack Krauser) ในการบุกจับพ่อค้ายาเสพติดที่มีเรื่องของเชื้อไวรัสมาเกี่ยว ที่เมื่อทั้งคู่มาถึงหมู่บ้านก็เต็มไปด้วยซอมบี้เสียแล้ว ตัวเกมมีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจระบบการเล่นที่สนุกใครมีเครื่อง ‘Nintendo Wii’ หรือ ‘PlayStation 3’ ก็ลองไปหามาเล่นได้ พอเล่นจบคุณจะเห็นมุมมองที่น่าสนใจหลาย ๆ อย่างเมื่อกลับมาเล่น ‘Resident Evil 4’

Resident Evil The Darkside Chronicles

Resident Evil 7 End of Zoe และ Not a Hero

Resident Evil 7

กลับมาที่ ‘Resident Evil 7’ อีกครั้งเพราะเกมภาคนี้คือจุดเปลี่ยนสำคัญในซีรีส์ ‘Resident Evil’ เพราะหลังจากความพยายามหลายต่อหลายครั้งของ ‘Capcom’ ที่ต้องการเข็นเกมแนวมุมมองบุคคลที่ 1 ของ ‘Resident Evil’ มานานในที่สุดก็ทำสำเร็จ  และหนึ่งในความน่าสนใจที่นอกจากเนื้อเรื่องหลักแล้ว ในเกมนี้ยังมีเนื้อเรื่องเสริมที่ให้อารมณ์การเล่นที่ต่างออกไปจากเกมหลักด้วยอย่าง DLC แจกฟรีใน ‘Not a Hero’ ที่เราจะได้เล่นเป็นพี่คริส เรดฟิลด์ (Chris Redfield) ชายผู้ถูกสาปที่ลูกน้องในทีมต้องตายหมดทุกภาค (ย้ำว่าทุกภาค) โดยตัวเกมจะเป็นเนื้อเรื่องหลังจากเกมภาคหลักจบลงครีสจะต้องตามตัวลูคัส เบเกอร์ (Lucas Baker) ที่กำลังหนีอยู่ให้ได้ แต่สิ่งที่เราต้องเจอคือกับดักมรณะที่ให้อารมณ์ต่างไปจากเนื้อเรื่องหลัก (กับดักอันนี้โหดกว่าที่เจอในเนื้อเรื่องหลัก) กับอีกเนื้อเรื่องพิเศษที่เราต้องซื้อเพิ่มนั่นคือ ‘End of Zoe’ ที่เป็นเรื่องราวช่วงเวลาเดียวกับ ‘Not a Hero’ แต่เราจะได้รับบทเป็นโจ (Joe) ลุงของโซอี้ (Zoe) ที่ต้องการช่วยหลานสาวจากไวรัสที่เป็นผลกระทบจากเกมหลัก ซึ่งเนื้อหาระบบการเล่นในเรื่องนี้ก็จะต่างกันออกไปอีกแบบ ที่เล่นแล้วสนุกไม่ซ้ำซากจำเจใครที่มีเกมหลักมาแล้วก็ซื้อ DLC เสริมมาเล่นเพิ่มรับรองว่าคุ้มค่าเงินแน่นอน

Resident Evil 7

Resident Evil 2 Remake Mod First Person

Resident Evil 2 Remake

ปิดท้ายกับสิ่งที่ ‘Capcom’ ไม่ได้ทำแต่แฟน ๆ ทำกันขึ้นมาเองในเกม ‘Resident Evil 2 Remake’ ที่เปลี่ยนตัวเกมปกติที่เราได้เล่นให้เป็นแนว ‘First Person’ หรือมุมมองบุคคลที่ 1  ในชื่อ ‘Resident Evil 2 Remake Mod First Person’ โดยตัวเกมนั้นจะถูกเปลี่ยนให้ตัวละครที่เราเล่นมาเห็นแค่มือแบบที่ ‘Resident Evil 7’ ทำ แต่เมื่อเราถูกซอมบี้กัดหรือฉากเนื้อเรื่องเกมจะเปลี่ยนมาเป็นมุมมองปกติ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเล่นตัวละครนั้น ๆ อยู่ ด้วยตัวกราฟิกแสงเงาเสียงของต้นฉบับที่ดีอยู่แล้ว เมื่อเอามาทำเป็นมุมมองบุคคลที่ 1 ตัวเกมจึงให้อารมณ์ความรู้สึกน่ากลัวไปอีกแบบ แต่ข้อเสียคือการสั่นของภาพที่ถ้าใครไม่ถนัดหรือเมารถง่าย ๆ ไม่ควรเล่น เพราะภาพจะส่ายไปมามากกว่าเกมมุมมองบุคคลที่ 1 ปกติเยอะมาก แต่ถ้าใครทนไหวคุณก็จะได้อารมณ์ที่เปลี่ยนไปซึ่งเราอยากให้คุณหามาเล่นกัน

Resident Evil 2 Remake

ก็จบกันไปแล้วกับ 12 เกม ‘Resident Evil’ ที่เป็นมุมมองบุคคลที่ 1 ที่ทาง ‘Capcom’พยายามสร้างออกมา เพื่อเปิดแนวทางไปยังเกมแนวใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ถูกใจแฟน ๆ จนมาถึง ‘Resident Evil 7’ ที่ทาง ‘Capcom’ มาถึงฝั่งฝันกับการเปลี่ยนมาเป็นมุมมองบุคคลที่ 1 ในครั้งนี้ ซึ่งเราต้องมาดูกันต่อไปว่า ‘Resident Evil Village’ ที่จะวางจำหน่ายในเดือนหน้าจะถูกใจแฟน ๆ อย่างที่ ‘Resident Evil 7’ ทำได้ไหมคุณเท่านั้นที่เป็นตัวตัดสิน แล้วพบกันในหมู่บ้านมรณะ 7 พฤษภาคม 2021 บน ‘PC’, ‘PlayStation 4’ และ ‘PlayStation 5’

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส