โดย แจ๊ค รัสเซล

.. ตอนที่แล้ว เล่าถึงปี 2550 ..แต่หนักกว่านั้น หากย้อนถอยไปสักปี 2545 – 2547 ..ขณะที่โปรดิวเซอร์ หรือนักแต่งเพลงร่วมรุ่นผม – คนอื่นๆ เขาไปไกลกันหมดแล้ว ต่างสนใจ และตามติดในเรื่องไอที ขวนขวาย และลงทุนซื้อหาโปรแกรมการสร้างเพลงแต่งเพลงต่างๆ มาใช้ในงานเพลงของตนเอง

เกือบทุกคนล้วนเป็นผู้ชำนาญ ..แต่ผมยังคงหยุดอยู่ที่การใช้ “ปากกา” เพียงด้ามเดียว ?!

.. ไม่เอาเลยแม้แต่คอมพิวเตอร์ติดบ้าน – สักเครื่อง หรือโน๊ตบุ๊ค จะยี่ห้อ แอ๊ปเปิ้ล , ฝรั่ง , สัปปะรด หรืออะไรที่อยู่ในเทรนด์ ที่คนทำเพลงส่วนใหญ่ – ต้องมี ..สำหรับผม ไม่เคยคิดจะมี ?!

MacBook_Pro_situated_on_a_wooden_table ที่มาของภาพ: en.wikipedia.org

.. เวลาใครถามผมว่า ใช้อีเมลอะไร ขอหน่อย ? ..พอผมตอบไปว่า ไม่รู้จัก อะไรคืออีเมล ผมไม่มี ไม่เคยซื้ออีเมลมาเลย ! 555 ..คนถาม มักคิดว่าผมตอบแบบอำเล่นตลกๆ และคิดว่าผมคงตอบเชิงปฏิเสธ ที่จะไม่ให้อีเมลกับใคร ?!

..ไม่มีใครคิดเลยว่า “คนมาดดีแบบผม” นั้น ไม่รู้และไม่มี “อีเมลแอดเดรส” (.. อ่านถึงตรงนี้ ก็ไม่ต้องไปฝันว่าผมจะรู้จักว่า อะไรคือ MSN ..เวลามีสาวๆมาถามว่า พี่ป๊อก เล่น M (เอ็ม) หรือเปล่าคะ ? ..ด้วยความไม่รู้ว่าอะไร (วะ) คือ M ..แม้จะอ่อนต่อโลกสมัยใหม่ แต่ไม่ได้อ่อนไหวพริบ จึงตอบแก้เกี้ยว กลับไปในทันทีว่า… “.. โทรหากันดีกว่า ไวดี ..” ผิดถูกไม่รู้ ตอบเรื่องเดียวกันหรือเปล่าไม่สน ..แต่ดันถูก (ว่ะ) ครับ

ที่มาของภาพ: www.deeja.net

.. ฝ่ายถาม ก็ขานรับเข้าทางผมว่า ค่ะ ค่ะ ค่ะ แล้วก็ขอเบอร์ผมไป ..ผมก็เลยเดาๆว่า ไอ้เอ็มนี่ คงเป็นอะไรสักอย่างที่ใช้ “สื่อสาร” กันแหงๆ ไม่นานนักก็ได้รู้ จากการแกล้งถามเพื่อนที่ไม่เซอร์และโง่ – เหมือนผม

.. การไม่สนเรื่องเทคโนโลยี ไม่ลงทุนกับสิ่งนี้ มันดู “น่าหมั่นไส้” ในสายตาคนรอบข้างเหมือนกันนะครับ ..เพื่อนที่เป็นเจ้าของห้องอัดเสียงคนหนึ่ง เคยบอกกับผมในเชิงตัดพ้อว่า.. ไม่แฟร์เลย คนทำดนตรี นักดนตรี หรือคนทำห้องอัด เขาลงทุนซื้อโน่นนี่นั่น หมดเงินเป็นแสนเป็นล้านบาท เพื่อมาใช้อัดเสียง หรือเป็นอุปกรณ์ในห้องอัดเสียง ให้ได้คุณภาพล้ำเลิศ ..แต่ผมลงทุนแค่ปากกาลูกลื่น ราคาไม่กี่บาทเอง เวลาได้เงิน ผมกลับได้มากกว่า แต่ห้องอัดเสียง หรือ นักดนตรี กลับได้เงินน้อยนิดเดียว เมื่อเทียบกับเงินทั้งหมดที่ผมรับจากผู้ว่าจ้างมา ?!

.. 555 จะตอบยังไงดี ?! ..ไม่ถูกทั้งหมดครับ ห้องอัดก็ส่วนห้องอัด นักดนตรี ก็ส่วนของนักดนตรี หากห้องอัดหรือนักดนตรีไม่ใช่ “แม่งาน” ก็ต้องได้รับเงินจาก “ค่าจ้างใช้งาน” ตามจริงเท่านั้น ..ส่วนใหญ่ ผมมักจะได้รับการติดต่อจากผู้ว่าจ้าง ให้เข้าไปรับบรีฟงาน และดูแลการผลิตทั้งโปรเจ็คไปเลย ..ผมต้องรับเงินจากลูกค้า ถือเงิน และบริหารจัดการให้ดี แบ่งปันส่วนต่างๆให้อย่างชอบธรรม

.. แต่ในทางกลับกัน หากงานชิ้นนั้น มาจากการที่ลูกค้าไปว่าจ้างนักดนตรี หรือเจ้าของห้องบันอัดเสียง ให้จัดการจบงานให้ ผมก็จะได้แค่ค่าจ้างจากการ “เขียนเนื้อเพลง” ตามราคาที่ตกลงกันเท่านั้น ซึ่งก็มากบ้างน้อยบ้าง สลับกันไปแล้วแต่งานของใคร ยากง่ายอย่างไร

.. คนใช้ปากกาด้ามละไม่กี่บาทนำทาง เขียนเพลง สร้างเรื่องราว มาตลอด 10 กว่าปี ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ ก็จะมีคนติดต่อมาขอให้ทำงานเฉยๆ โดยไร้ “ความพร้อม และ แม่นยำ” ในเรื่องอื่นๆที่รวมกัน เรียกว่า “ความน่าเชื่อถือ” นะครับ ..นี่ต่างหากที่ใช่ว่ามีเงิน มีอุปกรณ์ มีเทคโนโลยีราคาแพงรายรอบตัว แล้วจะหมายความว่า ภาพที่ใครเห็น จะยืนยันได้ถึง “ความแน่นอน และวางใจ” ได้ในการทำงาน

.. มันมีอะไรมากกว่า และสำคัญกว่านั้น – เสมอครับ

971884_550125541714740_1292907754_n

ที่มาของภาพ: Classy Fanpage

.. หากถามผมว่า สิ่งที่ผมตั้งแง่ซ่อนเป็น “ปริศนา” เอาไว้ ผมมีไหม ? ..ผมต้องรู้ครับว่าผมมี ผมเชื่อว่ามีสิ่งนี้ต่างหาก ที่ทำให้คน (ผู้ว่าจ้าง) กล้าเข้าหา , ไว้ใจ และบอกต่อ จ้างผมให้ทำงานต่างๆมาตลอดอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้หมายความว่า ผมจะไม่มีความคิดในการ “ปรับเปลี่ยน” ตัวเอง ให้กลายเป็นคนทันโลก ทันเทคโนโลยีในการสื่อสาร หรือในการทำงานเพลงของตัวเอง – เสียเมื่อไหร่

..ผมเปิดใจรับครับ

.. กลางปี 2550 คือช่วงเวลาที่ผมมี “อีเมลแอดเดรส” ของตัวเองครั้งแรก จากการที่ผมให้ “คนข้างๆ” สมัครให้ เมื่อผมรู้ว่าผมมีอีเมลกับเขาแล้ว ผมโทรไปหาเพื่อนหลายๆคน และพูดว่า.. “.. เฮ้ย ขออีเมลมึงหน่อยสิ กูจะส่งข้อความหามึงหน่อย …” ข้อความอะไรวะ ? เออ เออ เอ้า จดนะ ……. เพื่อนมันคงสงสัยว่าผมเนี่ยนะ “ขออีเมล” จะขอไปทำอะไร ? ..มันคงไม่สนใจข้อความอะไรหรอก ให้มาคงเพราะตัดรำคาญ

.. ผมจดตามที่เพื่อนบอกทีละตัว มาสะดุดตรงที่มันบอกว่าตัว อันเดอร์สกอร์ ( _ ) นึกในใจ อะไร(วะ) คือตัวอันเดอร์สกอร์ ??! .. นี่ถ้ามันยากขนาดนี้ กูเลิกมีอีเมลดีกว่า (ผมคิดในใจ) .. แต่นอกใจ ผมเลิกใช้มันจริงๆ ?!

.. หันกลับไปจ้าง “มอเตอร์ไซค์วิน” ส่งเดโมเพลงตามเดิม ?!

12898840611289884182lที่มาของภาพ: freelanceworkzones.blogspot.com