เมื่อพูดถึงซีรีส์เกมภาพยนตร์ผีชีวะอย่าง ‘Resident Evil’ เรามักจะคิดถึงการต่อสู้เอาชีวิตรอดของคนกลุ่มหนึ่ง ที่พยายามหนีตายจากเหล่าซอมบี้และสัตว์ประหลาด ซึ่งนั่นก็คือประเด็นและหัวใจหลักของซีรีส์ ‘Resident Evil’ นี้ แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เราลืมคิดไปนั่นคือต้นเหตุของเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างของซีรีส์นี้ มันเกิดมาจากความกลัวของคนบางคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวหายนะหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นใน ‘Resident Evil’ และเมื่อเป็นอย่างนั้นเราเลยไปรวบรวมต้นเหตุความกลัวหลาย ๆ อย่าง ของหลากหลายตัวละครทั้งในซีรีสภาพยนตร์เกมว่าความกลัวนั้นมันส่งผลร้ายต่อชีวิตตัวละครต่าง ๆ ในเรื่องขนาดไหน เรามาค้นหาสาเหตุของเรื่องราวนี้กันในเชิงคิดวิเคราะห์แยกแยะแบบจริงจังและแบบตลกเฮฮาไปพร้อม ๆ กัน จะมีเรื่องราวอะไรบ้างนั้นเรามาหาสาเหตุไปพร้อม ๆ กันเลย

โลกหายนะคนตายนับล้านเพราะความกลัวความตายของชายคนเดียว Ozwell E. Spencer

Resident Evil

เริ่มต้นตัวละครแรกกับความกลัวของชายคนนี้ ที่ได้ส่งผลถึงผู้คนนับล้าน ๆ ชีวิตในโลกของ ‘Resident Evil’ กับชายแก่ผู้สร้างหายนะอย่าง ออสเวลล์ อี. สเปนเซอร์ (Ozwell E. Spencer) อดีตคนธรรมดาที่เคยมีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้เป็นแบบที่ตนเองต้องการ พร้อมกับเพื่อน ๆ อีก 2 คนที่ได้พยายามหาหนทางเพื่อมุ่งสู่เส้นทางนั้น จนทั้งหมดไปพบกับดอกไม้โบราณของคนป่าที่สามารถเอามาสกัดเป็นเชื้อไวรัส ซึ่งมันได้สร้างมูลค่ามากมายให้กับสเปนเซอร์และเพื่อน ๆ จนเมื่อเวลาผ่านไปเพื่อนทั้งสองคนก็ลืมปณิธานของตนเองที่คิดจะเปลี่ยนแปลงโลก มาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ใช้ไวรัสพัฒนาอาวุธชีวภาพเพื่อหาเงินละครอบครองทุกอย่างมาเป็นของตน แต่สำหรับสเปนเซอร์เงินทองกับเชื้อไวรัสมันก็เป็นแค่ผลพลอยได้เท่านั้น เพราะสิ่งที่สเปนเซอร์ต้องการยังไม่เป็นจริงจนวันเวลาผ่านไปจากการเปลี่ยนแปลงโลกก็เปลี่ยนมาเป็นความกลัวความตาย เพราะสังขารนั้นไม่ยั่งยืนสเปนเซอร์เลยเปลี่ยนวิธีทั้งหมดมาทดลองค้นหาวิธีเป็นอมตะด้วยเชื้อไวรัส โดยที่ไม่สนว่าจะมีคนตายมากมายจากการทดลองที่ผิดพลาดหรือสร้างหายนะขนาดไหน แต่สุดท้ายไม่ทันที่เขาจะทำสำเร็จก็มาตายไปเสียก่อน โดยมี อัลเบิร์ต เวสเกอร์ (Albert Wesker) มาฆ่าสเปนเซอร์และสานงานที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ต่อ ที่เรียกว่าหายนะไม่ต่างกันเลย ซึ่งจนถึงตอนนี้สิ่งที่สเปนเซอร์ทำเอาไว้ก็ยังคงตกค้างอยู่ให้คนรุ่นหลังตามแก้ เพราะความกลัวตายของชายเพียงคนเดียว ต้องเรียกว่าปลาตายตัวเดียวเปลี่ยนน้ำไปกี่ครั้งกลิ่นเน่าก็ยังอยู่

Resident Evil

กลัวว่าตัวเองจะสร้างความวอดวายให้คนอื่นไม่พอ Jade Wesker

Resident Evil

คราวนี้มาดูตัวละครและซีรีส์ที่แฟน ๆ ‘Resident Evil’ หลงรัก เหมือนคนที่โดนน้ำมันพรายซอมบี้ในเมืองห่าผีดีดใส่ ให้ติดตามดูรวดเดียวจนจบใน ‘Netflix’ ด้วยความอิ่มเอมของตัวซีรีส์ที่ทำให้แฟนเกม ‘Resident Evil’ ทั่วโลกน้ำตาซึม บางคนถึงกับร้องไห้อ้อนวอนสามวันสามคืนเพราะอยากดู ‘Resident Evil Season’ ต่อไปเร็ว ๆ เพราะมันจบได้แบบค้างคาใจแบบสุด ๆ ก่อนที่จะมีฟ้าผ่าลงใจกลางใจแฟนเกมเมื่อทาง ‘Netflix’ ประกาศไม่ทำซีรีส์ ‘Resident Evil Season 2’ ต่อ ทำให้แฟน ๆ เกม ‘Resident Evil’ โห่ร้อง (ด้วยความดีใจ) ทั้งคราบน้ำตา และเมื่อพูดถึงในซีรีส์นี้เราก็จะได้รู้จักตัวละครที่สร้างความวุ่นวายและหายนะอีกหนึ่งคนที่แฟน ๆ ‘Resident Evil’ ต้องจดจำไปจนวันตายอย่าง เจด เวสเกอร์ (Jade Wesker) ตัวละครใหม่ที่ถูกสร้างมา (ทำไม) เพื่อซีรีส์ผีชีวะนี้โดยเฉพาะ ซึ่งความสามารถพิเศษของตัวละครนี้ คือการสร้างหายนะให้คนรอบตัวตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นการทำให้น้องเป็นคนผิดเมื่อถูกแกล้งในโรงเรียน การทดลองเกี่ยวกับซอมบี้แล้วให้ลูกมาดูการทดลองจนมันหลุดออกมาฆ่าคน นี่ยังไม่นับการเดินทางของเธอที่ไปไหนก็วอดวายที่นั่น เรียกว่าตัวซวยประจำซีรีส์พอ ๆ กับเนื้อเรื่องที่สร้างความกระทบกระเทือนจิตใจให้แฟน ๆ เกมนี้ของจริง ใครที่ยังไม่เคยดูก็แนะนำว่าเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า แต่ถ้าคุณมองว่ามันคือหนังซอมบี้เรื่องหนึ่งก็ไม่มีปัญหา เพราะถ้าไม่มองตรงนั้นเนื้อหาในซีรีส์ก็ถือว่าโอเค (ยกเว้นตรงเจด เวสเกอร์ที่ทำให้เรื่องมันดูหงุดหงิดขัดใจ) สรุปสั้น ๆ ถ้าซีรีส์นี้ไม่มี เจด เวสเกอร์ โลกคงจะสงบสุขในแบบหายนะซอมบี้ทั่วไปไม่ใช่แบบคูณสองเพราะคน ๆ นี้

Resident Evil

กลัวไม่ได้พักผ่อน Leon S. Kennedy

Welcome to Raccoon City

ถ้าคุณยังไม่รู้สึกอิ่มเอมใจกับซีรีส์ ‘Resident Evil’ บน ‘Netflix’ เราก็มีอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่แฟนเกม ‘Resident Evil’ หลงรักจนเรียกร้องบอกว่า (อย่า) มีภาคต่ออีกเลย ใน ‘Welcome to Raccoon City’ ในความไม่เหมือนไม่มีไม่ใช่ ‘Resident Evil’ เลย แต่ก็มีเสียงคัดค้านจากคนที่ไม่เห็นด้วยในความไม่เหมือนในเกมว่า “ถ้าอยากได้เหมือนในเกมก็ไปเล่นเกมซิจะมาดูหนังทำไม” จนแฟนเกมตอบกลับไปว่า “ก็ถ้าสร้างแล้วบิดจนไม่มีความเหมือนความใช่ก็อย่างแปะชื่อเกมให้เรามีความหวัง” ที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ไม่มีผิดมีถูก แต่สิ่งที่ผิดคือตัวของ ลีออน เอส เคนเนดี (Leon S. Kennedy) พระเอก (รึเปล่า) ของเรื่องนี้ ที่พี่แกดูจะง่วง ๆ มึน ๆ งง ๆ ตลอดเวลา เหมือนคนที่กำลังหลับสบาย ๆ แต่ถูกปลุกมาทำงานและยังไม่ตื่นเต็มที่ เอาง่าย ๆ ขนาดตอนที่รถบรรทุกน้ำมันระเบิดหน้าสถานีสำรวจพี่แกยังนอนหลับแบบไม่รู้สึกตัว แต่พี่แกมาตกใจตื่นเพราะได้ยินเสียงปืน นี่ยังไม่นับความมึน ๆ งง ๆ ที่ถูกโจรในคุกแย่งปืนไปง่าย ๆ ที่จนจบเรื่องเมืองหายไปทั้งเมืองเฮียลีออนเราก็ยังมึน ๆ อยู่  จนคนดูอย่างเรา ๆ อยากจะเดินไปจับไหล่ลีออนแล้วถามว่า “ลีออนตื่นรึยัง ไปนอนก่อนไหมแล้วค่อยมาหนีตาย” ใครที่ยังไม่เคยดู ‘Welcome to Raccoon City’ ก็บอกเลยว่าคุณโชคดีแล้ว

Welcome to Raccoon City’

พี่จะกลัวอะไรนักหนาครับ Jason

Resident Evil Infinite Darkness

นั่นแน่ไม่รู้จักกันซินะว่าตัวละครตาลุงคนนี้คือใคร ไปอยู่ภาคไหนของซีรีส์ ‘Resident Evil’ เพราะตาลุงผู้เอาแต่บ่นเรื่องความกลัวคนนี้ ปรากฏตัวในภาพยนตร์ภาค ‘Resident Evil Infinite Darkness’ ที่ตัวหนังถูกหั่นเป็นตอน ๆ แล้วตีมึนว่านี่คือซีรีส์ความยาว 4 ตอนจบ ทั้งที่มันก็คือภาพยนตร์ ‘CG’ ที่มีความยาวชั่วโมงกว่า ๆ เพื่อเอามาลงบน ‘Netflix’ ที่เนื้อหาก็มืดจนมองไม่เห็นทางออกตั้งแต่ต้นจนจบจริง ๆ โดยเฉพาะตัวละคร เจสัน (Jason) ตัวร้ายของเรื่อง อดีตกัปตันทีมกองกำลังพิเศษของกองทัพอเมริกานามว่า ‘Mad Dogs’ ที่ได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจในสงคราม จนทำให้ทุกครั้งที่พี่แกมีโอกาสคุยกับคนอื่นแกจะเริ่มต้นด้วยประโยคที่กล่าวถึงความกลัว ยกตัวอย่างความกลัวของสงครามที่สู้กันจนตายไปข้าง  ไม่ก็ความกลัวในความตายที่มันไม่ยอมตายอย่างที่คิด และอีกหลายบทพูดที่จะเริ่มต้นด้วยคำว่าความกลัว ที่เป็นการบ่งบอกถึงอาการทางจิตของเขาที่ฝังใจกับสงคราม จนทำให้ตัวละครนี้พูดวนเวียนถึงความกลัวซ้ำไปมา จนทำให้คนดูซีรีส์ (รำคาญ) กับความกลัวของพี่แกไปด้วยว่าพี่จะกลัวอะไรนักหนา ใครที่ชอบเฮียลีออนกับ แคลร์ เรดฟิลด์ (Claire Redfield) ที่ไม่รู้มาทำไมก็ไปหามาชมบน ‘Netflix’ ได้ แล้วคุณจะกลัวในความน่ากลัวของความกลัวในความกลัวของเรื่องนี้แบบเจสัน

Resident Evil Infinite Darkness

กลัวความสูญเสียจนพยายามสร้างขึ้นมาใหม่ Mother Miranda

Resident Evil Village

เมื่อพูดถึงตัวละครที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดในจักรวาล ‘Resident Evil’ ถ้าไม่นับตาลุงที่นั่งรถเข็นแต่ไม่อยากตายอย่างสเปนเซอร์ ก็มี พระแม่ (คนละครกับพระบิดา) มิแรนด้า (Mother Miranda) จาก ‘Resident Evil Village’ ที่เราสามารถตีความตัวละครนี้ได้สองแบบคือ ความยึดติดกับอดีตที่ต้องการชุบชีวิตลูกทั้งที่ตัวเองมีพลังอำนาจที่แทบจะเป็นพระเจ้าได้เลย แต่จิตใจของพระแม่ก็ยังคงวนเวียนอยู่กับการชุบชีวิตลูก จนสุดท้ายสิ่งนี้ก็นำพาหายนะมาสู่เธอเอง กับอีกแง่หนึ่งพระแม่ก็มีความกลัวที่จะสูญเสีย ที่ก็มาจากความยึดติดของตัวพระแม่เอง ที่เมื่อพระแม่พยายามจะชุบชีวิตลูกเธอก็กลัวว่าจะมีคนมาขัดขวางมาแย่งลูกของเธอไป พระแม่จึงทำทุกทางเพื่อป้องกันสิ่งนี้ จนสร้างหมู่บ้านและเหล่าลูก ๆ ที่บิดเบี้ยวนี้ขึ้นมา และปกครองทุกคนด้วยความกลัว ที่ดูภายนอกแล้วก็เหมือนพระแม่สร้างมาเพื่อป้องกันตัวเองและลูก ๆ ของเธอจากผู้คนภายนอก แต่ความจริงแล้วมันคือการทดลองเพื่อหาทางชุบชีวิตลูก และความกลัวในส่วนลึกของจิตใจที่จะมีคนนอกมาแย่งลูกไปเมื่อทำสำเร็จ พระแม่จึงแยกร่างของเด็กน้อยเป็นหลาย ๆ ส่วนให้ลูก ๆ ตนเองเก็บไว้ในหมู่บ้านเพื่อสิ่งนี้ ที่เรียกว่าความต้องการของคน ๆ เดียวสร้างความหายนะให้คนนับร้อยไม่ต่างกับปู่สเปนเซอร์ลูกศิษย์ของพระแม่เลย แต่ถ้ามองในแง่ดีถ้าพระแม่แกเลิกยึดติดแล้วหันมาใช้พลังที่มีครองโลก ตอนนั้นต่อให้มีพี่ต่อยหินหรือยอดสายลับกี่คนก็คงเอาไม่อยู่แน่นอน (มั้งนะ)

Resident Evil Village

กลัว Leon ไม่มาช่วยเลยร้องตะโกนจนแสบแก้วหู Ashley Graham

Resident Evil 4

ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาต้องอธิบายก่อนว่าตัวละคร แอชลีย์ แกรแฮม (Ashley Graham) ที่เราจะพูดถึงนั้นก็คือแอชลีย์คนแรก ไม่ใช่น้องแอชลี่ย์ที่มีน้อง เอลล่า เฟรย่า (Ella Freya) ขวัญใจลุง ๆ จาก ‘Resident Evil 4 Remake’ (เข้าใจตรงกันนะ) ที่เมื่อพูดถึงแอชลีย์ในเกมฉบับเก่า สิ่งที่เราคิดถึงตัวละครคนนี้คือเสียงร้องของเธอตอนถูกจับ กับประโยคที่แฟนเกมได้ยินเมื่อใดก็รู้สึกปวดไมเกรนขึ้นสมองทันที กับประโยคที่ว่า “Help me!! Leon Help Help!! Leon” ที่ถ้าไม่นับความตกใจของเราที่ต้องยิงศตรูในฉากเพื่อไปช่วยน้องแล้ว ก็มีเสียงของแอชลีย์นี่ละที่ทำลายประสาทหูคนเล่น จนหลายคนต้องตะโกนออกมาตอนเล่นว่า “รู้แล้วกำลังไปช่วยหยุดร้องเสียที” น้องคงกลัวเราไม่ไปช่วยเลยร้องรัว ๆ แสบแก้วหูแบบนั้น ใครที่ไม่เคยฟังแนะนำให้ไปหามาฟังดูแล้วคุณจะรู้ว่าความรู้สึกอยากยิงตัวละครที่เราไปช่วยมีจริง ๆ ในเกมนี้

Resident Evil 4

กลัวโลกจะล่มสลายเพราะเชื้อไวรัส Chris Redfield

Resident Evil Village

เปลี่ยนจากอะไรที่ชวนปวดหัวมาเป็นเรื่องราวของคนดี ที่พยายามช่วยโลกใบนี้จากกลุ่มคนโรคจิต ที่ชอบสร้างตัวประหลาดขึ้นมาบนโลกให้พี่ต่อยหินอย่าง คริส เรดฟิลด์ (Chris Redfield) ต้องมาจัดการ จนพี่แกถึงกับบ่นออกมาในภาค ‘Resident Evil Village’ ว่าเมื่อไหร่เรื่องพวกนี้จะจบลงเสียที เพราะตั้งแต่ที่คริสรู้ว่าโลกใบนี้มีสิ่งที่เรียกว่าการทดลองเชื้อไวรัส ที่สร้างสัตว์ประหลาดซอมบี้ใน ‘Resident Evil’ ภาคแรกในปี 1998 พี่ต่อยหินเราก็ไม่เคยหยุดพัก ไปฟิตกล้ามเล่นหุ่นจนแข็งแกร่งกว่าสัตว์ประหลาดหลาย ๆ ตัวในเกม เพราะความกลัวว่าถ้าเขาไม่อยู่แล้วจะมีใครมาสานต่อปณิธานนี้ เพราะตั้งแต่ที่คริสเริ่มปกป้องโลกจากภัยชีวภาพ เขาก็พาลูกน้องไปตายยกทีมมาหลายต่อหลายครั้ง จนกลายเป็นตำนานจากคนเล่นเกมว่า “พี่ไปที่ไหนลูกน้อยตายยกตี้” จนมาภาคล่าสุดพี่ต่อยหินเราก็สามารถทำลายคำสาปลงได้ใน ‘Resident Evil Village’ ที่พาลูกน้องมาบุกหมู่บ้านแล้วรอดชีวิตกลับมาครบทุกคน ซึ่งเราก็หวังว่าในอนาคตจะมีผู้สืบทอดปณิธานของเฮียแกมาเสียที พี่เขาจะได้วางมือไปมีลูกมีเมียแบบคนอื่น ๆ

Resident Evil 6

กลัวในพลังของตัวเอง Rosemary Winters

Shadows of Rose

ปิดท้ายของบทความนี้กับตัวละครที่ไม่พูดถึงคงจะโดนแฟน ๆ ‘Resident Evil’ ต่อว่ามาแน่นอน กับสาวน้อยผู้มีอาจารย์เป็นชายต่อยหิน กับน้องกุหลาบฤดูหนาว โรสแมรี่ วินเทอร์ (Rosemary Winters) ที่หลายคนคงจะได้เล่น ‘DLC Shadows of Rose’ กันไปแล้ว และคงจะทราบดีว่าปมในใจของน้องโรสก็คือความกลัวและไม่อยากได้พลังของตัวเอง ที่ถ้าคุณได้เล่นหรือรู้จัก ‘Resident Evil Village’ คงจะทราบดีว่ากว่าน้องโรสจะมาถึงตรงจุดนี้ น้องเคยถูกจับแยกชิ้นส่วนใส่โหลให้คุณพ่อตามเก็บมารวมร่าง จนทำให้น้องกลับมามีชีวิตและพลังบางอย่างในตัว นั่นจึงทำให้น้องโรสอยากเอาพลังนี้ออกไป ขณะที่หลาย ๆ คนต้องการมีพลังแบบเธอ ตามภาษาคนมีไม่อยากได้คนอยากได้ไม่มี จนน้องโรสต้องเข้าไปในความทรงจำของตัวเองเพื่อหาทางแก้ไขปมคาใจ ที่ในอนาคตพลังของน้องโรสจะเป็นสิ่งสำคัญในจักรวาล ‘Resident Evil’ อย่างแน่นอน

Shadows of Rose

เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องราวความกลัวของตัวละครต่าง ๆ ใน ‘Resident Evil’ ที่มีทั้งแบบเนื้อหาจริงจัง ไปจนถึงไร้สาระเอาเฮฮาจิกกัดหยอกล้อเพราะรัก (รึเปล่า) ซีรีส์และภาพยนตร์ในฐานะแฟนเกม ‘Resident Evil’ หวังว่าจะถูกใจกัน และถ้าใครที่ยังไม่เคยดูซีรีส์หรือภาพยนตร์ไปจนถึงเกมภาคไหนในบทความนี้ ก็ลองไปเปิดหูเปิดตาหามาดูมาเล่นกันได้ ไม่แน่สิ่งที่คนอื่นไม่ชอบเราอาจจะเห็นต่างและชอบก็ได้ เพราะความชอบไม่ชอบของคนเราต่างกัน แค่เราไม่ควรเอาสิ่งที่ตัวเองชอบมาตัดสินว่าคนที่ไม่ชอบแบบเราเป็นคนผิดก็พอ และส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรก็รอติดตามกันได้ที่แบไต๋ได้เลย เพราะเรายังมีบทความอื่น ๆ อีกมากมายรอคุณอยู่ ไปตามอ่านกันตอนนี้ได้เลย

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส