สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ อีกไม่กี่วัน Sekiro: Shadow Die Twice ก็จะวางขายอย่างเป็นทางการสักที แฟนๆเกมค่าย From Software ก็ไม่น่าพลาดกับผลงานชิ้นล่าสุด ที่จะมาทำให้ Controller ของผู้เล่นพังกันอีกเป็นแน่

ก่อนหน้าที่เกมจะวางขาย เรามาดูเรื่องที่ต้องรู้ก่อนจะเริ่มเล่น Sekiro กันดีกว่าครับ สำหรับคนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อเกมมาเล่นดีไหม หรือบางคนที่เป็นแฟน Dark Souls, Bloodborne มาก่อน ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะถูกใจกับเกมหรือไม่ โดยข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่หยิบมาจากเกมเต็มจริงๆหลังจากที่ผมได้เล่นมาประมาณ 15 ชั่วโมงได้ และแน่นอนเราขอยืนยันเลยว่า จะมี Review เกมฉบับเต็มๆมาให้อ่านกันอย่างแน่นอน

“รูปภาพที่ใช้ในบทความ capture จากตัวเกมเวอร์ชัน PS4 โดยเล่นผ่านเครื่องรุ่นธรรมดา โดยจะไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องหลักแน่นอนครับ”


1. เล่าเรื่องผ่านตัวเอกหลัก ไม่มีการสร้างตัวละคร


เรื่องนี้ หลายๆคนน่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว แต่ที่หยิบมาพูดถึง ก็เพราะว่าหลายๆคนอาจจะคิดว่ามันจะทำให้ตัวเกมขาดความหลากหลายในการดำเนินเรื่องไป หากเราจะยกตัวอย่างเหมือนใน Dark Souls, Bloodborne ที่ผู้เล่นสามารถเลือกทางเดินของตัวเองได้ และจะมีฉากจบหลากหลายแบบ แน่นอนว่าใน Sekiro เอง ถึงแม้ว่าจะไม่มีอิสระในด้าน “Character” แต่ตัวเกมก็ยังมีอิสระในด้านการดำเนินเรื่องอยู่ครับ

เราจะได้เห็นระบบเดิมๆของเกมเก่าๆในค่ายอยู่ใน Sekiro อย่างครบถ้วน รวมไปถึงระบบ Quest ที่ยังคงยึดรูปแบบเดิม ก็คือผู้เล่นจะต้องอ่านและตีความหมายของ NPC เอาเอง ถึงจะทำตามเป้าหมายให้สำเร็จได้ ระบบการพูดคุยกับ NPC และการตอบคำถามก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม ใครที่เคยเล่นเกมเก่าๆในค่ายมาก็จะคุ้นเคยได้ทันที

สรุปแล้วสิ่งที่ Sekiro แตกต่างจากเกมก่อนๆ ก็มีเพียงแค่ตัวเกมตัดระบบการสร้างตัวละครออกไปเฉยๆ แต่การดำเนินเรื่องทุกๆอย่างยังขึ้นอยู่กับตัวผู้เล่นเองครับ


2. ลาก่อน Stamina ตัวเกมได้ตัดระบบนี้ทิ้งไป (แต่ไม่ทั้งหมด)


ความยากอย่างหนึ่งของเกม Soulsborne ทั้งหลาย ก็คือการจัดการ Stamina โดยไอ่เจ้านี่มันมีหน้าที่กำหนดว่าตัวละครจะสามารถออก Action ได้มากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นการโจมตี การหลบ การวิ่ง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ Stamina นี่ทั้งหมด หากบริหารจัดการไม่ดี เกิด Stamina หมดขณะที่ศัตรูกำลังโจมตีเข้ามา ก็บอกลาตัวละครที่รัก และกลับจุดเซฟได้เลย

สำหรับ Sekiro เองนั้น ตัวเกมได้ตัด Stamina ออกไป หมายความว่าผู้เล่นสามารถออก Action มากแค่ไหนก็ได้โดยที่ตัวละครไม่มีวันเหนื่อย !! แบบนี้ก็จะถูกใจสาย Action บู๊ล้างผลาญ ไม่สนใจใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะโจมตี จะหลบ จะกระโดด จะวิ่งเยอะแค่ไหน ก็ไม่มีอะไรมาหยุดคุณได้ !!

แต่ก็อย่าลืม ว่านี่มันเป็นเกมจาก From Software มันจะต้องมีอะไรสักอย่างมากำหนดคุณไม่ให้บู๊ไม่คิดชีวิต ราวกับเปิด Easy Mode แน่นอน เพราะตัวเกมได้เพิ่ม “Posture Bar” หรือ “ค่าความแข็งแรง” เข้ามาแทนที่ โดยมันจะเป็นตัวกำหนดว่าตัวละครของผู้เล่นมีพลังในการป้องกันมากน้อยแค่ไหนระหว่างต่อสู้ แน่นอนว่ามันจะทำการก็แค่ตอนสู้เท่านั้น

ไม่ใช่แค่เราที่มี Posture Bar แต่รวมไปถึงศัตรูทุกตัว รวมไปถึง Boss เองก็มี Porture Bar เช่นกันครับ หน้าที่ของมัน อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่ามันจะเป็นตัวกำหนดว่าตัวละครมีพลังในการป้องกันมากน้อยแค่ไหน หากผู้เล่นทำการโจมตีใส่ศัตรูจน Posture Bar เต็มหลอด ศัตรูตัวนั้นก็จะหมดแรง และเราสามารถเข้าไปใช้ท่า “นินจาสังหาร” หรือท่า Finish ใส่ศัตรูให้ตายในดาบเดียวได้เลย !!


3. Gameplay ที่เปลี่ยนไป


ตอนแรกที่ผมได้ลองเล่นเกมนี้ตั้งแต่ Demo 15 นาที และ Demo 2 ชั่วโมง ด้วยการที่ติดมาจากเกมก่อนก่อนหน้านี้ ผมใช้เทคนิคเดิมๆจากเกม Dark Souls, Bloodborne ในการเล่น ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งวนศัตรู หรือการสแปมปุ่มกลิ้งเพื่อหลบ ความใจเย็นที่ใช้ตอนสู้กับศัตรูตัวใหญ่ๆ แต่เมื่อได้มาเล่นเกมเต็มจริงๆ โดยที่ไม่มีเวลามากำหนด ผมค่อยๆเรียนรู้ทีละนิดว่า Sekiro มันมี Gameplay ที่เปลี่ยนไปจากเกมก่อนๆ และต้องมานั่งเรียนรู้วิธีการเล่นกันใหม่เลยล่ะครับ

นั้นหมายความว่า เทคนิคเดิมๆจาก Soulsborne ทั้งหลาย จะใช้ในเกมนี้แทบจะไม่ได้เลย บอกลาการวิ่ง “หมุนขวา” ใส่บอสได้เลย หรือการกลิ้งรัวๆ เพิ่มหลบการโจมตี เพราะใน Sekiro นั้นความเป็นความตายของผู้เล่น ขึ้นอยู่กับความสามารถในการใช้สกิลเทคนิคนินจาล้วนๆ เลยครับ

อย่างแรกที่เปลี่ยนไป ก็คือ Action ในเกมนี้จะเร็วกว่าเดิม เพราะมันไม่มี Stamina แล้ว ระบบ Posture Bar ที่เพิ่มเข้ามา ดูเหมือนว่าจะมาเป็นตัวที่ทำให้ Action ช้าลงบ้าง แต่ไม่เลย เพราะไอ่ระบบนี้แหละ ทำให้ Action นั้นเร็วกว่าเดิม และอาศัยฝีมือในการบังคับตัวละครของผู้เล่นมากกว่าเดิมอีกครับ

ผู้เล่นสามารถโจมตีศัตรูได้อย่างอิสระไม่จำเป็นต้องห่วง Stamina และสามารถกด Block ได้เหมือนเป็นการตั้งโล่ใน Dark Souls แต่ใน Sekiro ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีรูปแบบไหนก็ตาม ผู้เล่นจะไม่มีทางได้รับ Damage เลย หากกดปุ่ม Block ตั้ง Guard ไว้ตลอด ตราบใดที่ Posture Bar ของเรายังไม่เต็มหลอด แต่ก็ทำให้เราเคลื่อนที่ช้าลงไปมากครับ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตจะง่ายขึ้นนะ เพราะมันจะส่งผลถึงการ Counter Attack

ยกตัวอย่างเช่น การ Counter Attack หรือจะเรียกว่าการ Parry ของเกมนี้จะมีความรวดเร็วมากกว่าเดิม โดยปุ่มที่กด Parry ก็คือปุ่มเดียวกับปุ่ม Block นั่นแหละครับ โดยการ Parry ในเกมนี้ก็ไม่ค่อยต่างจากเกมก่อนๆเท่าไร คือผู้เล่นต้องกดปุ่มให้ตรงจังหวะกับการโจมตีที่เข้ามาของศัตรูก็เป็นอันเสร็จ

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเมื่อเรากด Parry สำเร็จ ผู้เล่นก็สามารถโจมตีกลับไปได้นะครับ (เหมือน Bloodborne ที่ยิงปืนใส่ แล้วกระชากคอ) แต่มันจะเป็นการเติม Posture Bar ของศัตรูให้เพิ่มขึ้นเท่านั้น หมายความว่าหากศัตรูตัวนั้นโจมตีเข้ามาเป็น Combo รัวๆ 3-4 ดาบล่ะก็ ตัวผู้เล่นเองก็ต้องกดปุ่ม Parry ให้ตรงจังหวะทุกๆดาบกันเลยทีเดียว บอกลาระบบการ Parry แบบเก่าๆไปได้เลย

ปัญหาต่อมาคือเราไม่สามารถกด Parry ตลอดได้ เพราะ Posture Bar ของเราก็จะเต็มหลอดซะก่อน และไม่มีแรงในรับการโจมตีในครั้งต่อไปแน่ หากเราทำการ Block ทั้งๆแบบนั้น ยังไง Guard ก็แตกและโดนสวนแน่นอนครับ ดังนั้นผู้เล่นจะต้องไม่กดปุ่ม Block ค้างไว้ตลอด เพื่อให้ Posture Bar ของเราค่อยๆลดลงตอนสู้ แถมยังทำให้เคลื่อนที่เร็วขึ้น และคอยอ่าน Moveset ของศัตรู เพื่อยกดาบขึ้นมา Parry ให้ตรงจังหวะ เท่านี้ชีวิตของคุณใน Sekiro ก็จะง่าย และสนุกขึ้นเยอะครับ


4. ไม่มีการปรับแต่งตัวละคร แต่มีระบบ Skill มาแทนที่


ใน Sekiro นั้นผู้เล่นจะไม่สามารถปรับแต่งตัวละครได้เลย นั้นรวมไปถึงพวกชุดเกราะ อาวุธ หรือระบบ Status แบบเกม RPG ที่มีอยู่ใน Soulsborne ก็ไม่มีเช่นกันครับ แต่ก็ยังไม่ยืนยันว่าเราจะได้เห็นชุดคอสตูมของตัวเอก ที่จะมาในรูปแบบ DLC หรือไอเท็มในเกมหรือไม่ แต่ที่ยืนยันแน่ๆเลยก็คือ บอกลาระบบ Status ไปได้เลย

วิชานินจาขั้นสูง !!

แต่ตัวเกมจะเพิ่มระบบ Skill เข้ามาแทน โดยอธิบายง่ายๆเลย มันก็จะคล้ายๆกับระบบ Skill ของเกม Hack and Slash อย่างพวก Bayonetta, Devil May Cry หรือยกตัวอย่างเกม Nioh ที่ใกล้เคียงที่สุดครับ โดย Skill พวกนี้จะมาในรูปแบบ “คัมภีร์” ที่จะมีวิชาคาถานินจามาให้เราเลือกอัพเกรดกัน นอกจากนี้ก็ยังมี วิชาดาบจากสำนักอื่นๆที่อยู่ในเกมมาให้เราเลือกเรียนรู้กันอีกด้วย โดยบอกตามตรงว่ามีเยอะมากๆ จนผมก็ไม่รู้ว่าจะนำพาตัวเองไปเป็นนินจาสายไหนดี

แน่นอนว่าการที่เราจะได้ Skill Point มา Upgrade กันนั้น เราก็ต้องไปจัดการกับศัตรูเพื่อสะสมแต้มประสบการณ์ให้เต็มหลอดถึงจะได้ 1 Skill Point โดยที่ถ้าหากเราเกิดตายขึ้นมาเมื่อไร แต้มประสบการณ์พวกนี้ก็จะหายไปทันที ไม่มีทางได้คืน ย้ำว่าหายไปเลยนะครับ ไม่เหมือนกับพวก Soulsborne ที่สามารถไปเก็บคืนได้ในจุดที่เราตาย เงินในเกมนี้จะใช้หน่วยแยกกับแต้มประสบการณ์สกิล ดังนั้นเราสามารถใช้เงินซื้อไอเท็มได้อย่างไม่ต้องห่วงว่าจะอัพสกิลไม่ได้ และแน่นอนครับ ถ้าเราตาย เงินก็จะหายไปจำนวนนึงเช่นกัน

นอกจากพวกวิชาคาถานินจา ที่จะมีให้เราเลือกกันตามใจชอบแล้ว ก็ยังมีการอัพเกรด “แขนกลนินจา” ที่จะแบ่งแยกสายออกไปอีก และสร้างความแตกต่างและความได้เปรียบกับศัตรูในชนิดต่างๆอีกด้วย งานนี้ใครที่ห่วงว่าตัวเกมจะไม่มีความหลากหลาย ก็สบายใจได้เลยครับ เพราะสกิลพวกนี้ มันจะสร้างแนวทางที่แตกต่างกันไปตามผู้เล่นแต่ละคนแน่นอน


5. เกมนี้ “โค-ตะ-ระ ยาก”


นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกแบบนี้กับเกมของ From Software หรือจะพูดให้ถูก ก็คือเป็นครั้งแรกที่รู้สึกกับเกมแนว Soulsborne, Souls-like ครับ หากเราเอาไปเปรียบเทียบกับเกมเก่าๆในค่าย อย่าง Dark Souls, Bloodborne เอาเข้าจริงแล้วเกมพวกนี้มันไม่ได้เล่นยากเลย มันมีแนวทางของมันเอง และมีกฎเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้อยู่แล้ว ผู้เล่นก็แค่อย่าไปใช้อารมณ์กับมันมาก ก็น่าจะผ่านไปได้สบายๆ

ใน Dark Souls นั้น การเคลื่อนไหวของตัวละครและตัวศัตรู มันอ่านทางง่ายมากๆ รวมไปถึงการบังคับที่ Basic สุดๆ อีกทั้งยังมีการกลิ้งหลบ การ Parry ที่ช่วยให้การเล่นง่ายขึ้นเยอะ ยังไม่นับการเล่นสายดาบใหญ่ ที่สามารถ One-hit ศัตรูได้เกือบทุกตัว แถมยังมีการเล่น Online Co-op ที่จะทำให้การสู้กับบอสเป็นเรื่องตลก และกลายเป็นผู้เล่นรวมหัวกันรังแกบอสแทน

แต่ใน Sekiro นั้นได้ฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆของเกมแนว Soulsborne ไปเลยครับ คือพื้นฐานแล้วมันก็เล่นเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้คุณคือนินจา เพราะฉะนั้นการเคลื่อนไหวทุกอย่างมันจะเร็วมาก และการบังคับของผู้เล่นทุกการกระทำ ย้ำว่าทุกการกระทำ ผู้เล่นจะต้องกดเอง ทีละปุ่มเท่านั้น

ลองคิดดูหากคุณอยากจะวิ่งเข้าใส่ศัตรู กระโดดไปด้านหลัง เสียบดาบทะลุอก ปาดาวกระจายใส่ศัตรูตัวหน้า และพุ่งเข้าหาเพื่อทำการโจมตี และต้องคอยรอรับการโจมตีจากศัตรูในทิศทางอื่น ทั้งหมดผู้เล่นต้องกดเองทีละปุ่มเท่านั้นครับ รวมไปถึงการป้องกัน อย่างที่ผมพูดไปด้านบนว่าการ Parry ในเกมนี้ คุณต้องกด Block ให้ถูกจังหวะในทุกๆการโจมตีที่เข้ามา ลองนึกภาพตอนที่โดนรุม 4-5 ตัวขึ้นไป งานนี้อาจจะได้บอกลา Controller ของคุณได้เลย

แต่ไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุใดก็ตาม Sekiro กลับมอบ “ความสนุก” ในแบบที่ถูกใจผมมากๆ ถึงแม้ว่าตัวเกมมันจะยากแค่ไหนก็ตาม แต่ผมกลับรู้สึกถึงความท้าทายมากกว่า (มีหัวร้อนบ้าง) แต่ด้วยการที่ตัวเกมเปิดอิสระในการบังคับตัวละครมากขนาดนี้ หากผู้เล่นตายและสู้ไม่ได้ งานนี้ก็โทษใครไม่ได้นอกจากตัวผู้เล่นเองครับ

คำถามสุดท้ายที่น่าจะเข้ามาในหัวหลังจากที่ผู้เล่นหน้าใหม่บางคนที่มีแผนจะซื้อเกมนี้ว่า “ถ้าซื้อมาแล้วจะเล่นได้ไหม” คำตอบของผมก็คือ “เล่นได้” ครับ ถึงแม้ว่ามันจะยากสักแค่ไหนก็ตาม แต่ Sekiro ก็ยังคงยึดรูปแบบการเล่นเดิมๆของ Soulsborne เอาไว้ ผู้เล่นต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับมันได้ เท่านี้คุณก็จะสามารถสนุกไปกับมันได้แล้วครับ


โดยรวมแล้ว Sekiro เป็นเกมที่ทั้งยาก ทั้งท้าทาย ทั้งหัวร้อน ทั้งน่าหงุดหงิด น่าโมโห น่าขว้างจอยทิ้ง และมันก็น่าจะเป็นเกมที่ได้รับ Game of the Year 2019 นี่อย่างแน่นอนครับผม

Sekiro: Shadow Die Twice วางขายวันที่ 22 มีนาคม 2562 นี้พร้อมกันทุกแพลตฟอร์ม (PS4, Xbox One, PC) โดยทาง Beartai.com จะรีวิวเกมนี้อย่างแน่นอน ติดตามกันให้ดีล่ะ !!!