ชีวิตคือเวลาที่ไม่หยุดนิ่ง คำกล่าวของคนที่มองเห็นและรู้ว่าเราไม่สามารถหยุดวันเวลาที่ผ่านไปได้ ทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากันในการทำสิ่งต่าง ๆ การอ้างว่าไม่มีเวลาหรือเวลาไม่พอทำสิ่งต่าง ๆ คือคำกล่าวของคนที่จัดเวลาหรือลำดับความสำคัญในชีวิตไม่ได้ ซึ่งเมื่อเราย้อนมาดูในวิดีโอเกมต่าง ๆ ก็มีอยู่หลายเกมที่มีเรื่องของเวลามาเป็นหัวใจหลัก ที่บีบให้เราต้องทำทุกอย่างในเวลาจำกัด ซึ่งถ้าทำไม่ทันเกมจะจบลงทันทีหรืออาจจะต้องไปเริ่มใหม่ในจุดที่เพิ่งตาย เราที่เป็นคนเล่นจึงต้องทำทุกอย่างเป็นขั้นตอน และลำดับความสำคัญต่าง ๆ อย่างมีระเบียบเพื่อจบเกมหรือผ่านตรงนั้นไปให้ได้ ซึ่งมันทั้งกดดันแต่ก็สนุกในเวลาเดียวกัน จนทำให้มีเกมแนวนี้ออกมาอย่างมากมาย เรามาดูกันดีกว่าว่ามีเกมไหนบ้างที่มีเวลาเป็นตัวกำหนด ถ้าทำไม่ทันหรือสำเร็จเกมจะจบลงทันที เตรียมเวลาดูนาฬิกาให้พร้อมแล้วไปลุยด้วยกันเลย

The Legend of Zelda Majora’s Mask

The Legend of Zelda Majora’s Mask

เริ่มต้นเกมแรกที่ถ้าพูดถึงเกมที่เราจะมีเวลาจำกัดในการเล่น แบบที่เรียกว่าบีบคั้นจนแทบไม่มีเวลาไปทำอะไรนอกลู่นอกทางเลย เกม ‘The Legend of Zelda Majora’s Mask’ คือหนึ่งในเกมที่คนเล่นต่างคิดถึงเป็นอันดับต้น ๆ เพราะตัวเกมนี้จะเป็นภาคต่อของเกม ‘The Legend of Zelda Ocarina of Time’ 2 เดือน กับเรื่องราวของ ลิงค์ (Link) ที่ได้พบว่าหายนะใหม่กำลังมาเยือนโลก เมื่อจู่ ๆ พระจันทร์ก็จะมาพุ่งชนโลกในเวลา 3 วันในโลกของเกม หรือราว ๆ 54 นาทีในชีวิตจริงที่เราต้องเล่นเกมนี้ให้จบ แต่เกมก็ไม่ได้ใจร้ายกับเรา เพราะเวลาแค่นี้ใครจะไปแก้ปริศนาและจบเกมได้ เกมจึงมีระบบการย้อนเวลากลับไป 3 วันก่อนเกิดเหตุได้ แต่การข้ามเวลานั้นก็มีเงื่อนไข เพราะถ้าเราไม่ได้ของหรือสิ่งที่เกมกำหนดในการแก้ไขปริศนา การย้อนเวลาก็จะไม่สำเร็จและจะตัดจบทันทีที่หมายถึงเราทำไม่สำเร็จ ดังนั้นสิ่งที่คนเล่นภาคนี้ต้องทำคือรีบแก้ปริศนาหาทางและรีบย้อนเวลากลับ ซึ่งเห็นรีบ ๆ ลน ๆ แบบนี้ตัวเกมก็รองรับความเร็วของคนเล่น ที่มาพร้อมปริศนาการวางโครงเรื่องแผนที่ซึ่งเหมาะกับเนื้อหาที่เล่น ใครสนใจก็ไปหาเล่นกันได้บน ‘Nintendo 3DS’ บอกเลยว่ากดดันแต่สนุกจริงเกมนี้

The Legend of Zelda Majora’s Mask

Shenmue 1

Shenmue 1

มาต่อกันที่เกมแนว ‘Open World 3D’ เกมแรก ๆ ที่ให้อิสระกับเราที่จะเดินไปไหนทำอะไรก่อนหลัง หรือจะไม่ทำภารกิจอะไรเลยก็ได้แบบในเกมยุคนี้ กับเกม ‘Shenmue’ ภาคแรก เกมที่ให้อิสระกับผู้เล่นให้สามารถเดินสำรวจเมืองใหญ่ 3 แห่งอย่าง ‘Yokosuka’, ‘Hong Kong’ และ ‘Guilin’ ซึ่งทุกอย่างในเกมจะอ้างอิงตามเวลาจริงมีกลางวันกลางคืน รวมถึงเวลาเดินรถโดยสารผู้คนที่ออกเดินตามถนนคนทำงานร้านค้าที่เปิดให้บริการ ไปจนถึงสภาพอากาศที่เปลี่ยนเรียกว่าสมจริงเกินยุค เพราะเกมนี้วางจำหน่ายในปี 1999 ซึ่งคนที่เล่นเกมนี้มาแล้วจะรู้เลยว่าเกมนี้สมจริงขนาดไหน ตัวเกมจะเล่าถึงการเดินทางแก้แค้นของ ลู่ ฮาซึกิ (Ryo Hazuki) ที่เขามีเวลา 137 วันในเกม กับการตามล่าฆาตกรที่ฆ่าพ่อของเขา ซึ่งการกำหนดเวลาของทีมพัฒนา ก็เพราะไม่ต้องการให้คนเล่นมัวแต่เพลินกับโลกที่อิสระนี้จนลืมภารกิจของเกม ที่ถ้าใครคิดไม่ออกก็ให้คิดถึง ‘Grand Theft Auto’ แต่ตัวเกมมีรายละเอียดสังคมและความสมจริงมากกว่าหลายเท่า ใครสนใจตัวเกมก็มีการเอามาขายใหม่ทั้งสองภาค ไปหามาเล่นดูแล้วคุณจะรู้ว่าทำไมแฟนเกมนี้ถึงเรียกร้องให้มีภาค 3 กัน

Shenmue 1

Minit

Minit

ถ้าคุณมีเวลา 60 วินาทีในการเดินทางคุณจะทำอย่างไร นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในเกม ‘Minit’ ตัวเกมจะเริ่มต้นที่นายเป็ด (ข้อมูลบอกว่าสิ่งมีชีวิตคล้ายเป็ด) ที่บังเอิญไปเก็บดาบต้องสาปที่ลอยมาติดชายหาดแถวบ้าน ซึ่งเจ้าดาบนั้นคือดาบต้องสาปที่ผู้จับดาบจะตายภายใน 60 วินาทีเมื่อถือดาบ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะคุณจะคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งบนเตียงที่บ้านซ้ำไปซ้ำมา หน้าที่ของเราคือการไปหาโรงงานที่ผลิตดาบนี้เพื่อแก้คำสาป ตัวเกมจะเริ่มนับเวลาตั้งแต่ที่เราได้ดาบ เมื่อครบ 60 วินาทีเราจะตายทันทีโดยที่เกมจะไม่สนว่าเราโดนอะไรรึไม ซึ่งถ้าเราไม่ไปถึงจุดบันทึกสุดท้ายที่เกมกำหนด เราจะตายและไปเริ่มตรงจุดบันทึกล่าสุดทันที สิ่งที่เราควรทำในเกมคือรีบเล่นรีบไปเพื่อให้ถึงจุดบันทึกเกมต่อไปให้ทัน 60 วินาที ตัวเกมมีรูปแบบการเล่นจะคล้ายเกมซีรีส์ ‘The Legend of Zelda’ ภาคเก่า ใครสนใจอยากลองเป็นผู้รอดชีวิต 60 วินาทีก็ไปหามาเล่นกันได้ ตัวเกมมีวางจำหน่ายบนทุกเครื่องเกมในตลาดตอนนี้ ไปจนถึงโทรศัพท์ทั้งสองระบบใครมีเครื่องไหนก็ไปจัดกันได้

Minit

Pikmin

Pikmin

อย่าให้ความน่ารักสดใสของตัวเกมและตัวละครจากเกม ‘Pikmin’ หลอกคุณได้ เพราะตัวเกมนี้เปรียบเหมือนลูกกวาดที่ใส่ยาถ่ายแบบอ่อน ๆ หลอกคนเล่น เพราะถ้าใครที่เคยเล่นเกมนี้มาแล้วจะทราบดี ว่าเรื่องราวของเกมค่อนข้างมืดมน กับการรับบทเป็นกัปตัน โอลิมาร์ (Captain Olimar) ที่ยานตกบนดาวเคราะห์ที่ไม่รู้จัก ซึ่งมีชาวพื้นเมืองบนดาวนั้นที่เรียกว่า ‘Pikmin’ ที่ให้ความช่วยเหลือกัปตันในการทำภารกิจตามหาชิ้นส่วนยานที่หายไปบนดาว ที่เราต้องสั่งพวก ‘Pikmin’ กำจัดสิ่งกีดขวางตามทางไปจนถึงการต่อสู้กับศัตรูขนาดใหญ่ ผ่านการสั่งการของกัปตันซึ่งก็คือเราที่เป็นผู้เล่น ตัวเกมเน้นความน่ารักสดใสกับการสำรวจดาวปริศนานี้ แต่ก็อย่าลืมไปว่าเรามีเวลาประมาณ 30 วันในการสำรวจหาชิ้นส่วนยาน เพื่อหาทางหนีออกมาจากดาวนี้ก่อนอากาศที่มีจะหมด ซึ่งสิ่งที่ทำให้เกมนี้เปรียบเหมือนลูกกวาดที่ใส่ยาถ่าย เพราะถ้าเราดูดี ๆ จะเห็นถึงการเสียดสีของผู้มีอารยธรรมที่สูงกว่ากดขี่หลอกใช้ชาวพื้นเมืองที่ด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด แถมตอนจบของเกมถ้าเราหาชิ้นส่วนยานไม่สำเร็จ พวก ‘Pikmin’ จะเอาศพเราฝังเพื่อเปลี่ยนเราให้เป็นชนเผ่า ‘Pikmin’ เหมือนมัน  เรียกว่าโหดนิด ๆ จิกกัดหน่อย ๆ เลยทีเดียว ใครอยากลองไปสำรวจดาวปริศนากับมนุษย์ต่างดาวน่ารัก ๆ ก็ไปเล่นกันได้บน ‘Nintendo Switch’ ส่วนบนโทรศัพท์มือถือจะเป็น Pikmin Bloom เกมเก็บก้าวเดิน

Pikmin

Dead Rising

Dead Rising

คนดีต่อให้อยู่ในที่แย่เต็มไปด้วยคนไม่ดีขนาดไหนเขาก็คือคนดีทำแต่สิ่งดี ๆ ส่วนคนไม่ดีต่อให้อยู่ในสถานที่ดี ๆ มีแต่คนดี ๆ เขาก็ยังทำสิ่งแย่ ๆ ได้เสมอ นั่นคือคำจำกัดความของเกมล่าล้างซอมบี้ในเกมซีรีส์ ‘Dead Rising’ ซึ่งภาคที่ได้รับความนิยมที่สุดก็คือภาคแรก ที่เราจะได้รับบทเป็นนักข่าวอิสระ แฟรงค์ เวสต์ (Frank West) ที่บังเอิญนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปเจอเมืองที่ถูกฝูงซอมบี้ฆ่าผู้คน ก่อนที่แฟรงค์จะเป็นว่าในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในเมืองมีคนไปแอบอยู่ เขาจึงบอกกับเพื่อนว่าจะขอลงไปทำข่าวและให้เพื่อนมารับเขาในอีก 3 วัน นั่นคือตัวกำหนดเนื้อหาของเกม ที่เรามีเวลา 3 วันเพื่อทำภารกิจต่าง ๆ ที่เริ่มต้นจากแค่การจะทำข่าว ก่อนจะบานปลายเป็นการช่วยผู้รอดชีวิตในห้างตามจุดต่าง ๆ ไปจนถึงการหาสาเหตุที่เกิดขึ้นและทางแก้ไข ซึ่งดันมีคนที่รู้เรื่องนี้อยู่ในห้าง ตัวเกมแม้จะบังคับเราว่ามีเวลา 3 วันแต่เอาจริง ๆ นั่นก็แค่การจำกัดเวลาเพื่อทำภารกิจเท่านั้น ต่างกับภาค  2 ที่เวลาจะเป็นตัวกำหนดในการหายามาฉีดให้ลูกสาวตามที่กำหนด ถ้าหมดเวลาลูกสาวจะเป็นซอมบี้และเกมจะจบลงทันที ส่วนในภาค 3 นั้นจะเป็นการเอาชีวิตรอดจากเมืองก่อนเวลา 3 วันไม่อย่างนั้นรัฐบาลจะยิงถล่มเมืองที่มีซอมบี้ ส่วนภาคที่ 4 กลับทิ้งทุกอย่างที่เคยมีทิ้งไปหมดแถมไม่สนุก ใครอยากเล่นแนะนำภาค 1 ถึง 3  บอกเลยว่าสนุกยากสมใจสายเกมซอมบี้แน่นอน

Dead Rising

Persona 4

Persona 4

มีคนกล่าวเอาไว้ว่าชีวิตในวัยเรียนนั้นสนุก และมีคุณค่าที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิตเลยทีเดียว ซึ่งนั่นก็เกิดขึ้นกับเกม ‘Persona 4’ เกมแนว ‘JRPG’ ที่ยืนหน้ากระดานผลัดกันโจมตี ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตวัยเรียนวัยรุ่นวัยรัก กับการไขปริศนาคดีฆาตกรรมรายการทีวีหลังเที่ยงคืนในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ที่ถ้าใครไปปรากฏในรายการทีวีหลังเที่ยงคืนในวันที่ฝนตกคนนั้นจะตาย ผ่านเรื่องราวของ ยู นารุกามิ (Yu Narukami)  เด็กหนุ่มที่เพิ่งย้ายมาเรียนที่หมู่บ้านนี้เพราะพ่อแม่ของเขาทำงานในต่างประเทศ ตัวเกมจะให้เรามีเวลา 1 ปีในการแก้ไขปริศนาคดีฆาตกรรมนี้กับเพื่อน ๆ โดยการกระโดดข้ามมิติไปในโลกทีวี จนกลายเป็นการปกป้องโลกของเหล่าเด็กวัยรุ่นผู้มีพลังที่เรียกว่า ‘Persona’ ตัวเกมจะมีระบบจีบสาวแบบเกมยุคเก่า ที่เราสามารถเลือกสานความสัมพันธ์กับตัวละครต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ ซึ่งค่าความสัมพันธ์นี้ก็จะส่งผลถึงค่าพลังและสิ่งต่าง ๆ ในเกม ซึ่งการที่เรามีเวลา 1 ปีนั่นก็หมายถึงทุกวันที่เราทำจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นถ้าจะทุกอย่างให้ครบอย่างการสานสัมพันธ์เก็บกิจกรรมต่าง ๆ จึงต้องคิดให้ดี หรือจะเล่นเอาสนุกเกมนี้ก็จัดเป็นเกม ‘RPG’ น้ำดีที่เล่นง่ายไม่ซับซ้อนแต่สนุกได้อย่างไม่น่าเชื่อ แล้วคุณจะรู้ว่าปีหนึ่งนั้นผ่านไปเร็วขนาดไหน

Persona 4

Outer Wilds

Outer Wilds

จงช่วยระบบสุริยะนี้เอาไว้ก่อนที่ทุกอย่างจะดับสูญ นั่นคือคำจำกัดความของเกม ‘Outer Wilds’ ที่ราจะได้รับบทเป็นนักบินอวกาศไร้ชื่อ ที่กำลังสำรวจระบบสุริยะที่ติดอยู่ในช่วงเวลา 22 นาทีก่อนที่จะเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ที่เรียกว่า ‘Supernova’ ซึ่งสิ่งที่เราต้องทำคือใช้เวลา 22 นาทีที่วนลูปไปมานี้หาทางแก้ไขไม่ให้เกิดการระเบิดในครั้งนี้ ตัวเกมจะให้อิสระในการเดินทางกับเราเพื่อไปยังดวงดาวต่าง ๆ และมีการพบปะกับมนุษย์ต่างดาวหรือหนทางที่สามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ในเวลา 22 นาที เมื่อครบเวลาเราก็จะตายแล้วต้องมาเริ่มทุกอย่างใหม่  ตัวเกมแม้จะดูเร่งรีบแต่เวลา 22 นาทีก็มากพอที่จะให้เราทำอะไรได้มากมายแบบที่ไม่ต้องเร่งร้อนอย่างที่คิด เกมได้รับรางวัลมากมายเป็นการยืนยันความสนุก ใครอยากเล่นตัวเกมก็มีจำหน่ายทุกเครื่องในตลาดยกเว้นเพียง ‘PlayStation 5’ เท่านั้น ไปหามาเล่นดูแล้วคุณจะรู้ว่าทุกวินาทีนั้นมีค่าขนาดไหน

Outer Wilds

12 Minutes

12 Minutes

ปิดท้ายกับเกมเกิดตายวนเวียนภายใน 12 นาที กับเกม ‘12 Minutes’ เกมใหม่ล่าสุดที่วางจำหน่ายไปเมื่อปีที่แล้ว กับเรื่องราวของคุณสามีที่เข้ามาในห้องของตัวเองแล้วถูกชายปริศนาที่เป็นนักฆ่ามาทำร้ายตนและภรรยา ก่อนที่เวลาจะถูกเริ่มต้นใหม่เมื่อครบ 12 นาทีวนเวียนแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาเรื่อย ๆ โดยเราที่เป็นสามีนั้นจะจำทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อเริ่มต้นใหม่ได้ทุกครั้ง ตัวเกมจะเป็นแนวแก้ปริศนาซึ่งทุกครั้งเราจะมีเวลาเพียง 12 นาทีในการแก้ไขข้อผิดพลาด หรือหาทางป้องกันชายปริศนาที่มาฆ่าเรา ซึ่งเห็นแบบนี้ตัวเกมค่อนข้างสนุกและน่าสนใจ เพราะเกมให้อิสระแบบที่ว่าถ้าเป็นเราจะทำอย่างไรเพื่อหาทางแก้ไขเรื่องนี้จนครบ 12 นาที ซึ่งถ้าวิธีนี้ไม่ได้ผลเราก็หาทางแก้ไขแบบใหม่ ไม่ก็หาเบาะแสที่มีในห้องของเราที่ค่อย ๆ ค้นหาไปเรื่อย ๆ ก็จะพบร่องรอยต่าง ๆ จนเราสามารถรู้ได้เองว่าต้องทำอย่างไร ซึ่งบอกเลยว่าเนื้อเรื่องเกมนี้ดีมาก ๆ เล่นจบแล้วคุณจะรู้ว่า 12 นาทีในเกมนั้นก็มากพอที่เราจะใช้ชีวิตกับคน ๆ หนึ่งได้อย่างคุ้มค่า ตัวเกมวางจำหน่ายบนเครื่องเกมหลักทั้งหมด ยกเว้นบนโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ใครชอบแนวแก้ปริศนาไม่ควรพลาด

12 Minutes

เป็นอย่างไรกันบ้างกับเกมที่เกี่ยวกับเวลาที่เราต้องเล่นเกมในเวลาที่กำหนด ใครที่ชอบเกมแนวกดดันท้าทายความสามารถตัวเองไม่น่าพลาดเกมเหล่านี้ แต่ถ้าใครไม่ชอบเกมแนวจำกัดเวลาแบบนี้ก็ลองเปิดใจเล่นดู แล้วคุณจะรู้ว่าการทำอะไรอย่างเร่งรีบเป็นระบบเพื่อให้ทันเวลาก็ไม่ได้แย่ไปเสียหมด เพราะการเฉื่อยชาไม่เร่งรีบหรือไม่คิดจะทำอะไรให้มันดีขึ้น มันก็ไม่ต่างอะไรกับการไม่ทำจนทิ้งปัญหาให้เยอะขึ้น ซึ่งในชีวิตจริงมันต่างกับในเกมเพราะเราไม่สามารถเริ่มใหม่ได้อีกครั้ง แต่พลาดแล้วพลาดเลยตายแล้วไม่มีทางเอากลับมา ดังนั้นจะทำอะไรทำได้ก็ทำเสียตั้งแต่ตอนนี้ เหมือนที่เหล่าตัวละครในเกมนี้เป็น ขอให้สนุกกับการใช้เวลาที่มีอยู่

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส