“อาชีพอิสระ ได้เป็นนายตัวเอง รายได้ดี และท้าทาย” คือ 1 ในฝัน ของหนุ่มสาว Gen Y ชัดๆ

และนี่ก็คือเหตุผลที่เราเห็นหนุ่มสาวหลายๆ คน หันมาทำธุรกิจของตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์ และวันนี้แบไต๋จะพาทุกคนไปรู้จักกับแม่ค้าออนไลน์สาวสวย ที่ขายเสื้อผ้าแฟชั่นผ่าน Facebook Live และมีรายได้กว่า 1 แสนบาทต่อเดือน แม่ค้า ทาเนียร์ – ธัญธร นาอุดม ไปค่ะ! ไปทำความรู้จักกับแม่ค้าคนนี้กัน!!

เริ่มต้นอาชีพ “แม่ค้าออนไลน์” ได้ยังไง

 เริ่มต้นจากเสื้อผ้าของตัวเองล้นตู้มากๆ เพราะ เป็นคนชอบแต่งตัว ชนิดที่ว่าแบบเดียวกันมีสามสีก็มี (หัวเราะ) เลยอยากระบายเสื้อที่ไม่ใส่แล้ว จะบริจาคบางตัวเราก็เสียดายเงิน บางตัวซื้อมาแพง ประกอบกับตอนนั้น Facebook Live กำลังมาแรงเลยลองขายกับแฟนน้องชายดู ปรากฏว่าขายออกทุกตัวไม่เหลือเลยได้เงินเยอะมากจากการขายเสื้อผ้ามือสองของตัวเอง ติดใจว่า เอ๊ะ คนชอบเสื้อเราเยอะดีนะ ก็เลยลองหาเสื้อผ้ามือหนึ่งมาลองขายเริ่มลงทุนด้วยเงินจำนวนไม่มากเพราะว่ากลัวจะขายไม่ออก

ได้ยินว่าเคยทำงานประจำมาก่อนด้วย ทำไมถึงผันตัวมาขายของออนไลน์คะ

ใช่ค่ะเคยทำงานประจำเป็นเลขานุการ แต่ที่ลาออกจากงานประจำเพราะว่า ออกมาศึกษาต่อในระดับปริญญาโทค่ะ ตอนนี้อยู่ปีสอง เรียนสาขานโยบายสาธาธรณะและการจัดการภาครัฐ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลค่ะ วันไหนที่ว่างจากการเรียนเลยอยากหาอะไรทำ อยากมีรายได้เป็นของตัวเองโดยไม่ต้องขอจากคุณพ่อคุณแม่ เลยตัดสินใจลองทำคิดว่าถ้าไม่เวิร์คก็ไม่เป็นไรถือเป็นประสบการณ์ แล้วก็คิดว่า ถ้าได้ทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองชอบ เราน่าจะทำได้ดีและภูมิใจ ถ้ามันสำเร็จด้วยตัวของเราเอง

งานขายของออนไลน์ และงานประจำที่เคยทำ ในความรู้สึกแตกต่างกันยังไงบ้างคะ

แตกต่างกันมากค่ะ (หัวเราะ) งานประจำข้อดีคือ มั่นคง มีเงินเดือนเข้าประจำทุกๆ เดือนและสวัสดิการอื่นๆ ได้รับประสบการณ์ทำงานแบบมนุษย์เงินเดือน มี connection ในสายงาน และฝึกความอดทนมากๆ คือ ต้องตื่นเช้า ต้องทำงานตามที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จ ต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่ทำงาน ส่วนข้อด้อยสำหรับตัวพี่ คือ พี่ชอบความอิสระ  บางที่ไม่ชอบถูกบังคับมากๆ และชอบออกไปเที่ยวข้างนอก คืออารมณ์อยากไปไหนก็ไป ตอนไหนก็ได้ ซึ่งการทำงานประจำจะทำแบบนี้ไม่ได้เลยเพราะมีเวลาที่แน่นอนว่า เราต้องทำงานวันละกี่ชั่วโมง เราต้องเข้า ออกที่ทำงานตอนไหน หากต้องการลาหยุดหรือป่วยก็ต้องทำตามกฎระเบียบของที่ทำงาน  ความรักอิสระนี่ล่ะค่ะ ที่ทำให้พี่ไม่ค่อยรักในการเป็นมนุษย์เงินเดือน

ส่วนถ้าพูดถึงงานขายของออนไลน์ ที่เราเป็นนายตัวเอง ตรงนี้คือ เราต้องมีความรับผิดชอบที่สูงขึ้นมากๆ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับเราที่ต้องบริหารจัดการทุกอย่างเอง ไม่ว่าจะเป็น เวลา ที่พี่ต้องเรียนป.โท ควบคู่ไปด้วยบอกเลยว่าหนักมาก เราจะทิ้งตรงส่วนที่เรียนไม่ได้ เรียนแค่ผ่านไม่ได้เพราะเหตุผลที่เราออกจากงานเพราะเราอยากเรียนเพิ่มเติมความรู้ และเราไม่ได้จ่ายเงินค่าเทอมเอง (หัวเราะ) ฉะนั้น ผลการเรียนหรือความรับผิดชอบด้านการเรียนเราห้ามบกพร่อง ขออวดว่าตอนนี้เกรดสะสม 3.80นะ (หัวเราะ) กลับมาที่เรื่องขายของทุกอาทิตย์มีสินค้าเข้าใหม่ตลอดเวลา เราต้องบริหารทั้งจำนวนสินค้า วิเคราะห์ว่าสินค้าแบบไหน ตัวไหนจะนำมาขายบ้าง และที่สำคัญคือเรื่องเงิน บอกก่อนว่า เงินที่ลงทุนทุกบาท คือเงินเก็บของพี่เองทั้งหมด ไม่รบกวนที่บ้านเลย เริ่มจากลงทุนน้อยในวันนั้นมาจนถึงวันนี้เก็บเองทั้งหมดค่ะ  การขายของออนไลน์ข้อดีคือ มีความอิสระ ไม่ต้องเสียค่าเช่าที่และเสี่ยงว่าวันนี้ฝนจะตกมั้ย จะมีคนเดินมั้ย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ความเสี่ยงหรืออาจจะเป็นข้อด้อยคือ คู่แข่งทางการตลาดก็มีจำนวนมาก เสี่ยงว่าของจะเหลือ จะขายไม่ออก จะเจ๊งมั้ย จะทำอย่างไรให้ขายได้กำไรมาก มีลูกค้าเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน  และความยั่งยืนของธุรกิจจะไปได้ไกลแค่ไหน

ในตอนนี้อาจมีหลายๆ ท่านลาออกจากการเป็นมนุษย์เงิน เพื่อมาเป็นนายตัวเอง ที่คิดว่างานสบาย มีรายได้สูง มีอิสระ กว่างานประจำ แต่บอกเลยนะคะว่า ไม่ได้เป็นกันง่ายๆ คือทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา ความขยันของเรา ขยันน้อยขยันมาก และที่สำคัญคือต้องรับผิดชอบบวกอดทนค่ะ

ทำไมถึงเลือกเป็นเสื้อผ้า มากกว่าของอย่างอื่น

เราชอบการแต่งตัว ชอบถ่ายรูป ชอบเลือกเสื้อผ้ามาจับให้ลงตัว เอาอันโน้น อันนี้มาmatch กัน เรียกง่ายๆ คือ รักความสวยงาม คิดว่าเสื้อผ้าเนี้ยมันเป็นสิ่งที่แสดงตัวตนของแต่ละคน ว่ามีสไตล์แบบไหน เสื้อผ้าจึงเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์อย่างหนึ่งสำหรับพี่

ทำไมถึงเลือกใช้การขายผ่าน Facebook Live 

เป็นการขายที่คนเข้าถึงง่ายมากๆ คือ ทุกคนรอบๆ ตัวล้วนใช้ Facebook ในการติดต่อสื่อสาร ขายของ จุดนี้พี่เลยคิดว่า การใช้ Facebook Live ทำให้คนทั้งเห็นชุดที่เราขายได้อย่างชัดเจน ลดปัญหา  เอ๊ะทำไมชุดไม่เหมือนในรูปละคะ?? และเพิ่มโอกาสให้เราได้เกิด connection จาการช่วยแชร์ได้ทำความรู้จักกับลูกค้ากลุ่มใหม่ๆด้วย อีกอย่างคือพี่เป็นคนไม่ค่อยมีเวลา ถ้าขายวิธีอื่นจะต้องใช้เวลาทั้งถ่ายรูป จัดแสง จัดอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งล้วนต้องใช้เวลาทำค่อนข้างมาก การใช้ Facebook Live จึงตอบโจทย์การใช้ชีวิตเรามากๆ ค่ะ

มีกลยุทธ์ยังไง ที่ทำให้ลูกค้าติดตามหรือซื้อของเรา

กลยุทธ์ของพี่ คือ ความจริงใจ ซื่อสัตย์ และเป็นกันเองต่อลูกค้าค่ะ เพราะว่า การเลือกสินค้าไม่ว่าจะตัวไหนก็ตามพี่ต้องคัดสรรสิ่งที่มีคุณภาพและราคาสมเหตุสมผล ไม่เอาเปรียบลูกค้า คือประมาณว่า ใจเค้า ใจเรา นั่นล่ะ เราไม่ชอบแบบไหนก็จะไม่ทำแบบนั้น เวลาลูกค้ามาถามเราจะยินดีมากๆ ที่จะตอบทุกคำถามของลูกค้าทุกท่าน อีกอย่างคือ จะพยายามแต่งตัวแล้วถ่ายรูปค่อนข้างบ่อย เพื่อดึงดูดให้คนสนใจในสิ่งที่เราใส่ กระตุ้นให้คนอยากเข้ามาสอบถามหรือซื้อสินค้า จากรูปที่เราลงใน facebook ซึ่งค่อนข้างได้รับผลตอบรับที่ดีมากๆ ทุกครั้งที่ลงรูป

แรงบันดาลใจในการทำงาน

แรงบันดาลใจน่าจะเป็นในเรื่องของการคาดหวังส่วนตัว ว่าอยากเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ไม่ได้คาดหวังสูงอะไรมากนะคะแค่ว่าวางแผนในชีวิตในระยะยาวมากกว่า ว่าวันนึงเราอยากบรรลุเป้าหมายของชีวิตที่เราตั้งไว้และทำให้คนในครอบครัวภูมิใจในตัวเราค่ะ ว่าเราจากเด็กที่ทางบ้านค่อนข้างสปอย หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ไม่อดทนใดๆ ทำอะไรไม่เป็น  มาวันนี้เราทำทุกอย่างได้ด้วยตนเองทั้งหมดไม่เกี่ยงงาน อะไรทำไม่ได้จะพยายามเรียนรู้และฝึกฝนค่ะเพราะอยากประสบความสำเร็จ

อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้พี่อดทนและมีแรงบันดาลใจในการทำงานให้สำเร็จคือ พี่ชายของพี่เอง เพราะพี่ชายพี่เป็นไอดอลคนนึงที่พี่คิดว่าเป็นคนนึงที่ประสบความสำเร็จในชีวิต จากการที่อดทน ไม่ย่อท้อ และตั้งใจในการเรียนและทำงานค่ะ พี่ชายพี่เรียนอยู่ในระดับปริญญาเอก สาขา Inorganic Chemistry ที่ University of Oxford ประเทศอังกฤษ

คิดว่าอะไรเป็นเสน่ห์ของการขายของ

คิดว่าน่าจะเป็นการที่เราได้ทำความรู้จักคนมากขึ้น ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากทั้งตัวลูกค้าเอง และธุรกิจ คือเมื่อก่อนเป็นคนที่ค่อนข้างโลกส่วนตัวสูง ไม่ทำความรู้จักไม่คุยอะไรกับคนง่ายๆ  พอผันตัวมาขายของออนไลน์จึงค่อยๆ ปรับตัว เป็นคนยิ้มง่าย คุยกับคนอื่นง่ายขึ้น และเรียนรู้ว่าสังคมมีความหลากหลาย มีหลายประเภท เราต้องทำความเข้าใจให้มากๆ เพราะก็มีทั้งเหตุการณ์ที่ดีและไม่ดี ถ้าเราไม่ปรับตัวเราก็จะอยู่ร่วมกับคนในสังคมยากค่ะ

คิดว่าประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจออนไลน์รึยัง 

คิดว่ายังไม่ประสบความสำเร็จค่ะ พี่คิดว่าตอนนี้ทุกๆ ครั้งที่เราขายของผ่าน Live ใน Facebook คือการฝึกฝนและเก็บประสบการณ์ เพื่อให้เราก้าวไปข้างหน้าแบบไม่ประมาท เพราะเราเรียนรู้จากประสบการณ์ขายในทุกๆ วัน ที่บอกในข้างต้นว่า ธุรกิจออนไลน์มีความเสี่ยงค่อนข้างสูงกว่างานประจำ ฉะนั้นเราต้องคิดและวางแผนเพื่อจัดการบริหารความเสี่ยงที่เกิดขึ้นให้เป็นผลสำเร็จในอนาคตค่ะ

ถ้าจะขายสินค้าออนไลน์ ต้องมีสกิลอะไรบ้าง

สกิลแรกคือ การพูด เพราะส่วนใหญ่พี่ขายผ่าน Live ใน Facebook ถ้าเราพูดเชิญชวน ลูกค้าในรูปแบบที่น่าเบื่อ ก็จะไม่น่าสนใจ ลูกค้าก็จะตัดสินใจซื้อช้า หรืออาจจะไม่ซื้อเลย สกิลต่อมาคือ การวางแผนและบริหารงาน ไม่ว่าจะเป็นวางแผนการเลือกสินค้ามาขาย คอยอัพเดทแฟชั่นใหม่ๆ อยู่เสมอ  บริหารเวลา บริหารด้านการเงิน สกิลสุดท้ายคือ Service mind เราต้องมีใจรักในการบริหาร เพราะในแต่ะวันมีทั้งผลตอบรับที่ดีและปัญหา คำติเตียนบ้างจากลูกค้า ถ้าเราไม่มีใจที่รักในการบริการ เราจะไม่สามารถอดทนเวลาเราโดนตำหนิได้เลยค่ะ

มีเหตุการณ์ไหน ที่ประทับใจที่สุดบ้าง

เหตุการณ์ที่ประทับใจทั่วไป คือการได้รับผลตอบรับที่ดี การรีวิวจากลูกค้าที่ซื้อเสื้อผ้าไปค่ะ ส่วนที่รู้สึกดีขึ้นในอีกระดับคือ ลูกค้าบางท่านห่วงใยเรา เช่น บอกว่า น้องทานข้าวรึยัง (หัวเราะ) ทานข้าวก่อนได้นะค่อยมาสรุปยอดโอนเงินให้พี่  คือ การขายของออนไลน์ทำให้เราได้รับมิตรภาพที่ดีในรูปแบบลูกค้าก็ว่าได้ค่ะ

ส่วนเหตุการณ์ที่รู้สึกแย่ก็มีบ้างนะคะ คือ มีคุณลูกค้าซื้อของไปแล้วใส่ไม่ได้แล้วตำหนิว่าเราขายแพงก็แพง พี่ก็โอเคถ้าไม่พอใจในตัวสินค้า พี่ยินดีคืนเงินในกรณีที่คิดว่าจำเป็น เพื่อความสบายใจทั้งสองฝ่าย  จึงขอเลขบัญชีเพื่อคืนเงิน แต่คุณลูกค้าท่านนั้นกลับไม่ส่งสินค้าชุดนั้นกลับมาคืนค่ะ  แต่เราก็รู้สึกว่าไม่เป็นไร ไม่ทวงถามหรือติดตาม ให้นับเป็นบทเรียนให้เรา

มีแอปไหนที่อำนวยความสะดวกในการทำงานบ้างคะ

แอปสำหรับโลจิสติกส์ของบริษัทต่างๆ  แต่หลักๆ ทาเนียร์ใช้  Track & Trace สำหรับเช็คพัสดุที่ส่งผ่านไปรษณีย์ไทย สามารถค้นหาที่ทำการไปรษณีย์ที่ใกล้จุดที่เราอยู่ได้และสามารถคำนวณอัตราค่าส่งได้ด้วย

โดยจุดเด่นของแอปนี้ คือ เวลาเราพิมตัวเลขแทรคไปรษณีย์ลงไป แอปจะอำนวยความสะดวกเป็นระบบ set ไว้อยู่แล้วว่าตำแหน่งไหน คือตัวเลขและตัวอักษร และเมื่อพิมพ์ครบ 13 หลักก็จะไม่สามารถพิมต่อได้ คือป้องกันการพิมผิดพลาด สลับตำแหน่งตัวเลขและตัวอักษร และการพิมเลขแทรคเกิน13 หลักค่ะ

อีกทั้งแอปนี้ยังแสดงสถานะของสินค้าที่ค่อนข้างละเอียด เช่น เมื่อบุรุษไปรษณีย์กำลังนำพัสดุจัดส่ง จะขึ้นช่วงเวลาที่ออกจากที่ทำการไปรษณีย์เวลานำจัดส่งช่วงเวลาเช้า หรือบ่าย ทำให้ผู้ใช้ทราบว่าพัสดุกำลังนำจัดส่ง เป็นต้น หรือในกรณีที่การนำจัดส่งมีปัญหาก็จะแสดงสถานะรายงานผลเช่นกัน

ถือเป็นแอปที่อำนวยความสะดวกในการขายของออนไลน์ได้ดีเลยค่ะเพราะว่า การจัดส่งของทางร้านใช้ไปรษณีย์เป็นหลัก แอปนี้เลยเป็นแอปที่พี่ใช้เป็นประจำค่ะ

ดาวน์โหลด

ถือเป็นทัศนคติและข้อมูลดีๆ จากแม่ค้าออนไลน์ ที่ออกตัวว่าเธอยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เป็นแม่ค้าที่ลูกค้ารักและมั่นใจในบริการ แถมยังมีกลยุทธ์การเอาใจลูกค้าดีๆ ด้วย แบไต๋ก็ขอเป็นกำลังใจให้สาวสวยคนนี้ พัฒนาธุรกิจไปเรื่อยๆ ใครอยากอุดหนุนเธอ ก็สามารถแวะไปดู Live ขายของของเธอได้ที่ Tania Tania Tanyatorn ส่วนพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่อยากประสบความสำเร็จในธุรกิจ ก็สู้ๆ อย่าย่อท้อ จะได้ขายดิบ ขายดีกันถ้วนหน้า