หนึ่งในผลข้างเคียงของผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากโรคโควิด-19 คือการที่ผู้ป่วยสูญเสียความสามารถในการรับรู้กลิ่นและรส แต่จะกลับมาหายได้ปกติหลังผ่านไป 6 เดือน ซึ่งส่วนใหญ่อาการนี้จะพบได้ในผู้ที่มีอายุน้อย มากกว่าในผู้ป่วยอายุมาก ทว่าบางเคส แม้จะผ่านไป 6 เดือนแล้ว แต่ระบบรับกลิ่นและรสยังคงไม่สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ

ซู ฟิลลิปส์ (Sue Phillips) ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอมจากนิวยอร์กได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือซาฮิล ชาห์ (Sahil Shah) เด็กหนุ่มจากชิคาโกวัย 13 ปี ที่สูญเสียการรับรสและกลิ่นไปหลังจากที่เขาติดเชื้อโควิดในเดือนพฤศจิกายน หลังผ่านไป 6 เดือน เขายังคงไม่รู้สึกถึงกลิ่นหรือรสชาติอยู่ดี

พ่อแม่ของเขาก็พยายามค้นหาทุกหนทางเพื่อขอความช่วยเหลือจากทั้งนักประสาทวิทยา ศัลยแพทย์ระบบประสาท ผู้เชี่ยวชาญด้านหูคอจมูกและอื่น ๆ แต่ก็ไม่เป็นผล จนมาเจอกับซู ฟิลลิปส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอมที่เข้าให้ความช่วยเหลือด้วยการใช้น้ำหอมที่เธอผลิต

ฟิลลิปส์กล่าวว่า “ก่อนอื่น ฉันต้องบอกว่าฉันไม่ได้เป็นหมอ ฉันไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์และฉันไม่ได้เป็นนักเคมีด้วยซ้ำ”

เพื่อเริ่มต้นกระบวนการช่วยให้ผู้คนเรียนรู้ที่จะได้กลิ่นอีกครั้ง ฟิลลิปส์ได้จัดทำน้ำหอมผสมที่ทำขึ้นเองจำนวน 18 ชนิด เริ่มต้นด้วยกลิ่นที่เบา ๆ ก่อน เช่น ดอกกุหลาบ กลิ่นลาเวนเดอร์และกลิ่นมินต์ ถ้าหากไม่มีการตอบสนอง เธอจะใช้กลิ่นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น เครื่องเทศและชะมด

ฟิลลิปส์ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า “สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้คือการฝึกให้มนุษย์สามารถกลับมารับรู้กลิ่นได้อีกครั้ง ตัวฉันเองมักพูดเสมอว่าให้ดมกลิ่นด้วยสมอง หลังจากนั้น พวกเขาจะเริ่มได้กลิ่นอีกครั้งและมันน่าทึ่งจริง ๆ” ซึ่งหลังจากกระทำดังกล่าว พ่อของชาห์กล่าวว่าตอนนี้เขาสามารถรับกลิ่นได้อยู่ที่ประมาณ 25% ซึ่งมันดีกว่าเป็นศูนย์

ซึ่งวิธีแบบนี้เรียกว่า ‘การบำบัดด้วยกลิ่น’ ซึ่งนักประสาทวิทยาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดคนหนึ่งกล่าวว่ากลิ่นบางอย่างสามารถกระตุ้นความทรงจำและอารมณ์ได้ ซึ่งการลองใช้น้ำหอมที่แตกต่างกัน อาจทำให้พวกเขาสามารถรับรู้กลิ่นที่หลงเหลืออยู่ได้ พร้อมกล่าวเสริมว่าการพยายามใช้น้ำหอมเพื่อฟื้นฟูการรับรู้กลิ่นนั้นไม่มีอันตราย

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส