วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบร่างแผนรองรับวิกฤตการณ์น้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2563 – 2567 (ฉบับปรับปรุง ครั้งที่1) เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกู้ ตามพระราชกฤษฎีกาการเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกู้เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ พ.ศ. 2564 ซึ่งสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้ตราขึ้นเพื่อให้กองทุนน้ำมันและเชื้อเพลิงมีเงินเพียงพอในการบริหารจัดการกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันในประเทศไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน 

ทั้งนี้ ร่างแผนรองรับวิกฤตการณ์น้ำมันเชื้อเพลิงฯ ได้ทบทวนหลักเกณฑ์การบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมในกรณีวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนี้ 

1. ทบทวนกรอบวงเงินกู้ จากเดิม ที่กำหนดว่า “…ต้องมีจำนวนเงินเพียงพอเพื่อใช้ในการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อรวมเงินกู้ (จำนวนไม่เกิน 20,000 ล้านบาท) แล้วต้องไม่เกินจำนวน 40,000 ล้านบาท…” ให้แก้ไขเป็น “…ต้องมีจำนวนเงินเพียงพอ เพื่อใช้ในการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อรวมกับเงินกู้แล้วต้องไม่เกินจำนวน 40,000 ล้านบาท…” 

2. ทบทวนกรณีฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบ จากเดิม “ข้อ 5.5) กรณีฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบ 20,000 ล้านบาท ให้กองทุนน้ำมันและเชื้อเพลิงหยุดการชดเชย” แก้ไขเป็น “กรณีฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบ 20,000 ล้านบาท หรือติดลบตามจำนวนที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 26 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงหยุดการชดเชย”

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส