James Bevan หัวหน้าสำนักงานสิ่งแวดล้อมของอังกฤษได้ออกมากล่าวเตือนถึงการคาดการณ์สภาวะขาดแคลนน้ำ เนื่องจากสภาพอากาศ และ การเพิ่มจำนวนของประชากรอย่างรวดเร็ว ทำให้ประเทศอาจต้องเจอกับปัญหาใหญ่ภายใน 25 ปีนี้

ภายในการแถลงการณ์ James Bevan กล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลนน้ำเป็นปัญหาใหญ่ที่ประเทศอังกฤษอาจจะต้องพบเจอ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น และ แล้งขึ้น รวมถึงปัญหาการเพิ่มขึ้นของประชากรที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มสูงถึง 75 ล้านคนในปี 2050 (เพิ่มขึ้นมา 8 ล้านคนจากปัจจุบัน) ทำให้ในทุกพื้นที่มีการใช้น้ำเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ประชาชนยังมีพฤติกรรมการใช้น้ำที่สิ้นเปลือง จากรายงานเมื่อเดือนพฤษภาคม 2018 พบว่าน้ำที่รั่วไหลออกไปทุกๆวัน มีจำนวนมากพอต่อความต้องการของคนกว่า 20 ล้านคนเลยทีเดียว หากประชาชนชาวอังกฤษไม่ปรับพฤติกรรมในการใช้น้ำภายใน 20-25 ปี อังกฤษจะเข้าสู่วิกฤตภัยแล้งอย่างแท้จริง

นอกเหนือจากการดำเนินการของรัฐบาล บริษัทน้ำ และหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องจะต้องปรับเปลี่ยนเพื่อป้องกันผลกระทบดังกล่าวแล้ว James Bevan ยังสนับสนุนให้มีการใช้น้ำอย่างประหยัด และ เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ในปัจจุบันนี้ประชาชนชาวอังกฤษใช้น้ำเฉลี่ยคนละ 140 ลิตร/วัน หากประชาชนสามารถปรับลดการใช้น้ำให้เหลือคนละ 40 ลิตร/วัน ได้จะช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้มากทีเดียว

สำหรับใน Scotland Wales และ Northern Ireland ได้มีการจัดตั้งหน่วยงานแยกต่างหากเพื่อดูแล รับผิดชอบ ปัญหาที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ เพื่อจัดการดูแลปัญหาดังกล่าวอีกด้วย

ในช่วงไม่กี่ทศวรรศที่ผ่านมาอังกฤษสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการสูบบุหรี่ การคาดเข็มขัดนิรภัย รวมถึงการใช้ถุงพลาสติกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นสำหรับชาวอังกฤษแล้วการปรับพฤติกรรมการใช้น้ำคงไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถของพวกเขาอย่างแน่นอน

อ้างอิง