อินเดียเป็นประเทศที่มีผู้คนเข้าถึงอินเทอร์เน็ต สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยจำนวน 749 ยูสเซอร์ รองจากจีนที่ 854 ยูสเซอร์ ด้วยจำนวนผู้ใช้มากมายขนาดนี้ ใครจะไปคาดคิดละว่าอยู่ดี ๆ บริการอินเทอร์เน็ตก็ถูกปิดซะเฉย ๆ แล้วไม่ใช่แค่ 1 หรือ 2 ชั่วโมง แต่ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง สร้างความปั่นป่วนไปทั่วทุกกิจการ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 26 กันยายนที่เพิ่งผ่านมานี้เองในรัฐราชาสถาน (Rajasthan) ทางตอนเหนือของอินเดีย เป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 7 ของอินเดีย ในวันนั้นประชากรนับล้านในราชาสถานก็ถูกปิดกั้นจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นระบบ 3G หรือ 4G เหตุผลง่าย ๆ ที่ทางรัฐอธิบายถึงสาเหตุในการชัตดาวน์อินเทอร์เน็ตก็เพราะ ในวันนั้นมีการสอบคัดเลือกครูครั้งใหญ่ของรัฐ ที่เรียกว่า REET

Rajasthan Eligibility Examination for Teacher

ครั้งใหญ่ที่ว่านี่คือ มีผู้สมัครสนใจเข้าสอบคัดเลือกเข้าเป็นข้าราชการครูมากถึง 1,600,000 คน เมื่อมีผู้สนใจมากมายขนาดนี้ จึงเป็นลู่ทางให้แก๊งมาเฟียในอินเดียเปิดบริการรับโกงข้อสอบ ซึ่งน่าจะใช้การส่งข้อความหรือสัญญาณถึงตัวผู้เข้าสอบผ่านอินเทอร์เน็ตนั่นแหละ ซึ่งเป็นข่าวฉาวโฉ่ถึงมหกรรมโกงการสอบอย่างมากเมื่อปีก่อน พอมีการจัดสอบอีกครั้งในปีนี้ ทางรัฐจึงใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อป้องกันการโกงข้อสอบ ด้วยการชัตดาวน์ระบบอินเทอร์เน็ตมันซะเลย แล้วลากยาวตั้งแต่ 6:00 น. ถึง 18:00 น.

แน่นอนว่ามาตรการเด็ดขาดแต่สร้างความเดือดร้อนให้คนหมู่มากที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสอบด้วยแบบนี้ ย่อมสร้างความไม่พอใจให้ประชาชนเป็นอย่างมาก หลายคนออกมาโวยวายต่อว่ามาตรการของรัฐที่ทำให้พวกเขาเดือดร้อนไม่สามารถเวิร์กฟรอมโฮมได้, ลูก ๆ ไม่สามารถเรียนออนไลน์ได้ ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ และหลายคนก็ไม่สามารถใช้กูเกิลแมปในการเดินทางได้

1 ในผู้โกงข้อสอบที่ติดตั้งอุปกรณ์บลูทูทในรองเท้า

มีผู้คนออกมาบ่นและประณามมาตรการนี้ของรัฐผ่านหลายช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะทางทวิตเตอร์ มีคนหนึ่งเล่าว่าเขาต้องจ่ายค่าทางด่วนถึง 2 รอบ, พระเอกหนังคนหนึ่งพลาดบทบาทสำคัญที่มีผลต่ออนาคตของเขา เพราะไม่สามารถเข้าออดิชันบทออนไลน์ได้ และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัฐใช้มาตรการเด็ดขาดแบบนี้เพียงเพื่อป้องกันปัญหาการโกงข้อสอบ และอาจจะใช้มาตรการแบบนี้อีกในอนาคต จึงมีนักเคลื่อนไหวทางการเมืองออกมาทำหน้าที่เป็นปากเสียงแทนประชาชน ให้รัฐบาลกรุณาทบทวนมูลค่าความเสียหายจากการใช้มาตรการแบบนี้เพียงเพื่อแก้ปัญหาการโกงข้อสอบ

“การชัตดาวน์อินเทอร์เน็ตที่เริ่มใช้ในหลาย ๆ รัฐแบบนี้ มันควรจะใช้ในกรณีสำคัญอย่างเช่นกรณีฉุกเฉินหรือเพื่อความปลอดภัยของสาธารณชน ไม่ใช่เพื่อการทำข้อสอบแบบนี้ มันไปรบกวนการเรียนหนังสือออนไลน์ของเด็ก ๆ การให้บริการสาธารณสุชออนไลน์ และการทำธุรกรรมทางการเงิน แล้วที่สำคัญ มันไม่มีการบอกก่อนล่วงหน้าด้วยสิ”

พระชานต์ สังถาน (Prasanth Sungthan) ผู้อำนวยการบริษัทซอฟต์แวร์ Freedom Law Centre ออกมาเรียกร้อง

พอมีเสียงต่อว่าจากประชาชนจำนวนมาก ทางตัวแทนรัฐก็ออกมาอธิบายว่า การป้องกันไม่ให้ข้อสอบรั่วไหลนั้นมีความสำคัญอย่างมาก

อโศก เคห์ล็อต (Ashok Gehlot) มุขมนตรีแห่งราชาสถาน

อโศก เคห์ล็อต (Ashok Gehlot) มุขมนตรีแห่งราชาสถาน ก็เผยแพร่เอกสารผ่านทางทวิตเตอร์ว่าทางรัฐจะพิจารณาแนวทางอื่น ๆ ในการป้องกันการโกงข้อสอบ เช่น ติดตั้งกล้องวงจรปิดในห้องสอบ การตรวจสอบแผ่นกระดาษข้อสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน การบังคับให้ใช้หน้ากากอนามัยของสถานที่สอบจัดไว้บริการเท่านั้น ห้ามไม่ให้ผู้เข้าสอบนำมาเอง

ขนาดที่ว่า ทางรัฐใช้มาตรการเด็ดขาดจนปั่นป่วนไปทั้งเมืองแบบนี้แล้วก็ตาม ทางศูนย์ควบคุมการสอบก็ยังเจอผู้เข้าสอบถึง 10 คน ที่พยายามจะโกงข้อสอบด้วยการส่งสัญญาณผ่านทางอุปกรณ์ส่งสัญญาณบลูทูทที่ซ่อนไว้ในรองเท้า เชื่อว่าต้องมีที่จับไม่ได้บ้างละนะ

อ้างอิง