สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ทางภาครัฐและเอกชนต่างเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชากรในประเทศของตนเองอย่างเร่งด่วน แต่ก็ยังมีการปล่อยข่าวเรื่องผลกระทบของการฉีดวัคซีนต่าง ๆ นานาออกมาด้วยเช่นกัน ทำให้คนบางกลุ่มไม่กล้าที่จะไปฉีดวัคซีน

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่เมืองแซกโซนี ประเทศเยอรมนี ที่ตำรวจได้สอบสวนชายวัย 60 ปี ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งชายดังกล่าวถูกกล่าวหาว่าเขาได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 หลายเข็มด้วยตัวเอง เพื่อขายบัตรฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่ไม่ต้องการฉีดวัคซีน

ชายดังกล่าวมาจากเมืองแม็กเดอร์เบิร์ก ซึ่งเป็นเมืองทางตะวันออกของประเทศเยอรมนี ถูกจับที่ศูนย์ฉีดวัคซีนในเมืองแซกโซนี หลังเขาได้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ติดต่อกัน 2 วัน โดยชายคนนี้ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มากถึง 90 เข็ม เป็นเวลาหลายเดือน

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมามีรายงานว่าชายคนนี้ได้ถูกตำรวจจับเป็นที่เรียบร้อย ตำรวจได้เก็บหลักฐานเป็นบัตรฉีดวัคซีนเปล่าหลายใบจากตัวชายคนนี้และเริ่มดำเนินคดีอาญาต่อ ซึ่งชายคนนี้ไม่ได้ถูกควบคุมตัวแต่อย่างใด แต่เป็นการสอบสวนเรื่องการปลอมแปลงบัตรฉีดวัคซีนและโดยไม่ได้รับใบอนุญาต โดยชายคนนี้จะฉีดวัคซีน แล้วรับหมายเลขชุดวัคซีนเพื่อนำไปติดที่บัตรฉีดวัคซีน

ตอนนี้ยังไม่มีรายงานที่ชัดเจนถึงผลกระทบของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 90 เข็มซึ่งใน 90 เข็ม ไม่ได้มาจากยี่ห้อเดียวกัน แต่มาจากหลายยี่ห้อ ว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรกับชายคนนี้บ้าง

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทางตำรวจเยอรมันได้ดำเนินการตรวจค้นเกี่ยวกับการปลอมแปลงพาสปอร์ตวัคซีนหลายครั้ง หลังชาวเยอรมันหลายคนปฏิเสธที่จะรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ต้องการพาสปอร์ตวัคซีน เพื่อที่พวกเขาจะสามารถใช้ชีวิตประจำวันในที่สาธารณะได้ปกติ เช่น ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ สระว่ายน้ำ หรือสถานที่ทำงาน

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส