Ben-Hur ต้นฉบับเป็นวรรณกรรมที่ประพันธ์โดย ลิว วอลเลซ อดีตนายทหารยุคสงครามกลางเมืองสหรัฐ เป็นทั้งผู้ว่ารัฐนิวเม็กซิโก และยังเป็นทนายความอีกด้วย ลิว เขียน Ben-Hur ไว้ตั้งแต่ปี 1880 ถึงตอนนี้นิยายเรื่องนี้ก็อายุ 136 ปีแล้ว ถูกสร้างเป็นหนังโรง หนังทีวี ละครเวที มาแล้วหลายครั้ง แต่เวอร์ชั่นที่ถูกจดจำที่สุดคือ เวอร์ชั่นปี 1959 ที่กำกับโดย วิลเลียม ไวเลอร์ และรับบทนำโดย ชาร์ลตัน เฮสตัน ซูเปอร์สตาร์ในยุคนั้น หนังถูกจารึกในฐานะหนังที่กวาดออสการ์มากสุดในประวัติศาสตร์ คว้ามาได้ 11 รางวัลเท่ากับ Tiatnic (1997) และ The Lord of the Rings: The Return of the King (2003) ด้านรายรับก็ทำกำไรให้กับค่าย MGM ได้มากมาย จากทุนสร้างเพียง 15 ล้าน แต่กวาดรายได้ทั่วโลกไปถึง 146 ล้านเหรียญ ซึ่งนับว่ามหาศาลกับค่าเงินในปีนั้น จัดเป็นหนังที่ทำรายได้เร็วที่สุดและมากที่สุดในปี 1959 ถ้าจัดอันดับแบบปรับค่าเงินเฟ้อแล้ว Ben-Hur จะอยู่ในอันดับที่ 14 ของตารางหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาล ด้วยกำไรระดับนี้ Ben-Hur สามารถกู้สถานการณ์ที่กำลังย่ำแย่ของค่าย MGM ไว้ได้

ผ่านไป 57 ปี MGM หยิบ Ben-Hur กลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง และใช้บริการผู้กำกับชาวรัสเซีย ทิเมอร์ เบ็คแมมบิทอฟ ที่เคยมีผลงานจดจำอย่าง Wanted (2008) และมั่นใจกับศักดิ์ศรีของชื่อ Ben-Hur ว่าจะต้องเรียกผู้ชมทั้งใหม่และเก่ามาได้ ถึงขนาดกล้าที่จะใช้พระเอกโนเนมอย่าง แจ๊ค ฮุสตัน ที่เคยมีบทนำจากทีวีซีรีส์ Boardwalk Empire และตัวประกอบอีกนับ 10 เรื่อง

ben-hur-1920x1080-2016-movies-hd-1636

ด้วยความที่เป็นนิยายเก่าอายุ 100 กว่าปี และมีความโยงใยเหตุการณ์ตรึงกางเขนพระเยซูด้วย เนื้อหาของ Ben-Hur จึงมีความเชย ผสมความน้ำเน่าและเรื่องราวจักร ๆ วงศ์ ๆ อยู่มาก ไม่ใช่หนังที่มีเนื้อหาเข้มข้นแอ็คชั่นแหลกลาญแบบเอาใจตลาด แต่ในยุคนั้นที่ฮอลลีวู้ดผลิตหนังออกมาเพียงปีละ 100 กว่าเรื่อง Ben-Hur ก็ถือเป็นหนังระดับอลังการงานสร้างแล้ว ด้วยการเนรมิตรกรุงโรมยุครุ่งเรืองกลับมาใหม่ โดยเฉพาะสนามแข่งรถม้าที่ออกมาดูยิ่งใหญ่สมจริง ขนาดว่าเวอร์ชั่นล่าสุดก็ยังคงเอกลักษณ์ของเดิมไว้เกือบครบ

Ben-Hur (1959) มีความยาวถึง 3 ชั่วโมง 40 นาที โดยเฉพาะ 1 ชั่วโมงท้ายเล่าแต่เรื่องพระเยซูโดนตรึงกางเขนที่แทบไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของเบนเฮอร์แล้ว แต่ที่ผมชอบมากคือบทภาพยนตร์เวอร์ชั่นใหม่ที่เป็นฝีมือของ จอห์น ริดลีย์ มือเขียนบทที่คว้าออสการ์มาแล้วจาก 12 Years A Slave (2013) จอห์น สามารถปิดช่องโหว่ของเรื่องราวต้นฉบับได้หมดสิ้น แต่นั่นก็ถึงกับเปลี่ยนแปลงรายละเอียดตัวละครเสียเกือบหมดนะ จากหนังเวอร์ชั่น 1959 เบนเฮอร์ และ เมสซาล่า เป็นเพื่อนกันสมัยเด็ก , เบนเฮอร์ เป็นเจ้าชายแห่งเยรูซาเล็ม ที่เป็นเมืองขึ้นของโรม ส่วนเมซาล่า ก็จากบ้านไปเป็นนายทหารระดับสูงจากโรม จุดพลิกผันที่ทำให้เกิดการแตกหักของทั้งคู่คือ น้องสาวของเบนเฮอร์พลาดทำกระเบื้องร่วงใส่ขบวนเสด็จของเจ้าเมืองคนใหม่ ทำให้เมสซาล่าต้องตัดสินโทษตระกูลเฮอร์ตามบทบาทหน้าที่

แต่บทของจอห์น ริดลีย์ ในเวอร์ชั่นนี้ปรับเปลี่ยนให้ เมซาล่า เป็นลูกเลี้ยงอยู่ในตระกูลเฮอร์ ทั้งเบนเฮอร์ และ เมสซาล่า จึงมีความผูกพันธ์กันมาตั้งแต่เกิด มีวีกรรมจดจำร่วมกันมากมาย หนังใช้เวลาชั่วโมงแรกปูความสัมพันธ์ของทั้งคู่ด้วยภาพให้ผู้ชมได้รับรู้ ต่างกับเวอร์ชั่น 1959 ที่เล่าเรื่องราวผ่านบทสนทนาของทั้งคู่อยู่นาน และลงลึกเรื่องราวความบาดหมางของพี่น้องได้ดี คนดูได้เห็นใจและเข้าใจการกระทำของทั้ง 2 ฝ่าย ว่าทำไมเบนเฮอร์ต้องถูกลงโทษด้วยการไปเป็นทาสฝีพายในเรือรบของโรมัน ก่อนจะพลิกผันได้กลับมาเป็นนักแข่งรถม้าล่ารางวัลอยู่หลายปี กว่าจะได้กลับมาเจอกับพี่ชายต่างสายเลือดอีกครั้งในสนามแข่งที่วันนี้ทั้งคู่ต่างมีความแค้นต่อกัน

benhur2016-mv-4

หนังเวอร์ชั่นนี้ลดความยาวลงเหลือ 2 ชั่วโมง 20 นาที ส่วนที่หายไปคือช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากของ เบนเฮอร์ ในวันที่ทาสฝีพายและการก้าวขึ้นมาเป็นนักแข่งรถม้าฝีมือดีที่ถูกเล่าแบบรวบรัด จึงทำให้เกิดคำถามในฉากไคลแมกซ์ว่า เบนเฮอร์ ไปเก่งขับรถม้ามาจากไหน อีกจุดที่น่าเสียดายคือฉากแข่งรถม้าที่นับว่าเป็นหัวใจของ Ben-Hur ทุกเวอร์ชั่น ในเวอร์ชั่นนี้กับทุนสร้างที่มากขึ้น บวกกับเทคโนโลยีซีจีทำให้ภาพสนามแข่งดูยิ่งใหญ่อลังการ และฉากแข่งที่ลากยาวจุใจกว่าของเดิม ได้เห็นความรุนแรงที่แข่งกันแบบเอาชีวิต แต่ที่ถูกตัดไปคือเขี้ยวเล็บของเมสซาล่าที่ติดใบมีดบนล้อของรถม้าไว้กำจัดคู่ต่อสู้ เวอร์ชั่นนี้ก็เลยใช้การแข่งแบบวิ่งเบียด วิ่งชนกันล้วน ๆ ถ้ายังคงอุปกรณ์แอบโกงอะไรแบบนี้ไว้ในรถม้าแต่ละคัน จะเพิ่มความดุเดือดของฉากแข่งรถม้าได้มากขึ้น มีความเป็นแมดแมกซ์มากขึ้นเพราะทั้งเรื่องก็มีแต่ฉากนี้แหละที่สนุกที่สุด

บทหนังยังฉลาดในการรวบรัดเรื่องราวของพระเยซูมาขมวดรวมกับบทลงเอยของเรื่อง หนังกล่าวถึงพระเยซูอย่างยกย่อง บวกกับปาฎิหารย์ที่พาเรื่องราวให้จบได้แบบสวยงาม ทั้งเรื่องมีมอร์แกน ฟรีแมน คนเดียวที่เป็นดารามีชื่อ ก็มาในมาดเดิม ๆ นอกนั้นก็หน้าใหม่ล้วน นาซานิน โบเนียดี นางเอกหน้าใหม่มารับบท เอสเธอร์ นางเอกของเรื่องดูสวยมาก

BenHur-Trailer-Movie-2016

หนังได้เสียงตอบรับจากนักวิจารณ์มาแบบแย่มาก แต่ความเห็นผมเมื่อเทียบเวอร์ชั่นนี้กับต้นฉบับแล้ว กลับค่อนข้างแตกต่าง รู้สึกว่าเวอร์ชั่นนี้เล่าเรื่องราวได้สนุกกว่าและกระชับกว่ามาก ขมวดปมบาดหมางได้เข้มข้น ตลอดเรื่องก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกง่วงหรือเบื่อ แต่ถ้าเทียบวัดเทียบกับมาตรฐานหนังฮอลลีวู้ดปัจจุบันก็ยังถือว่าไปไม่สุดนัก ทั้งด้านดราม่าและแอ็คชั่น ด้วยเหตุที่ Ben-Hur ยังมีความเป็นดราม่าย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์และศาสนาความเชื่อ ไม่ใช่แนวที่เอาใจตลาดปัจจุบันนัก เหมาะสำหรับคนที่ชอบดูหนังแนวโบราณกรีก-โรมัน หรือรุ่นใหญ่ที่เคยดูเวอร์ชั่นเก่า ที่ถูกเสกสรรค์ใหม่ในทุนสร้างที่สูงขึ้นได้เห็นภาพรวมของกรุงเยรูซาเล็มที่เวอร์ชั่นเก่าไม่มีให้เห็น พอดูได้ครับกลาง ๆ ไม่แย่นักแต่ก็ไม่ถึงกับห้ามพลาด

Play video