‘Avatar: The Way of Water’ ของผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ที่สานต่อเรื่องราวจากภาคแรกเมื่อปี 2009 ได้ฤกษ์เข้าฉายในปีนี้เสียที โดยภาพยนตร์เก็บรายได้เบื้องต้นในการฉายรอบพรีวิวและการเข้าฉายวันแรกทั่วโลก นับจากวันพุธที่ 14 และวันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม 2022 ไปแล้วถึง 91 ล้านเหรียญ (ประมาณ 3,170 ล้านบาท)

รายได้ส่วนใหญ่นั้นมาจากประเทศจีนถึง 23.5 ล้านเหรียญ (ประมาณ 800 ล้านบาท) และอเมริกาเหนือ 17 ล้านเหรียญ (ประมาณ 600 ล้านบาท)

ด้วยรายได้เปิดหัวก่อนสุดสัปดาห์แรกที่สูงระดับนี้ กอปรกับเป็นช่วงใกล้เทศกาลหยุดยาวปลายปี ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ ‘Avatar: The Way of Water’ จะทำรายได้เปิดตัวในสหรัฐฯ สุดสัปดาห์แรก (16 – 18 ธันวาคม 2022) ไปได้ราว 180 – 200 ล้านเหรียญ (ประมาณ 6,300 – 7,000 ล้านบาท) และอาจทำรายได้เปิดตัวทั่วโลกสุดสัปดาห์แรกไปถึง 500 – 600 ล้านเหรียญ (ประมาณ 17,400 – 20,900 ล้านบาท) และคาดว่าจะทำรายได้ทั่วโลกผ่านหลัก 1,000 ล้านเหรียญ ได้อย่างรวดเร็ว

Avatar: The Way of Water

อย่างไรก็ดี ‘Avatar: The Way of Water’ อาจยังต้องการเวลายืนระยะบนตารางบ็อกออฟฟิศในระยะยาว เนื่องจากตัวภาพยนตร์อาจยังไม่ถูกใจผู้ชมทุกกลุ่ม จึงต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์คูณภาพและกระแสปากต่อปาก เช่นเดียวกับผลงานเรื่องก่อน ๆ ของคาเมรอนอย่าง The Terminator (1984), Aliens (1986), Titanic (1997) และ Avatar (2009) ที่เคยทำได้มาแล้ว รวมถึงตัวอย่างที่ดีก่อนหน้านี้ก็คือ ‘Top Gun: Maverick’ ที่สามารถทำรายได้ทะลุหลัก 1,000 ล้านเหรียญ ได้อย่างน่าเซอร์ไพรส์มาก ๆ

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ได้กล่าวว่า ‘Avatar: The Way of Water’ อาจต้องทำรายได้ถึงหลัก 2,000 ล้านเหรียญ จึงจะถึงจุดคุ้มทุน โดยวิเคราะห์บนพื้นฐานของการใช้ระยะเวลาในการสร้างนานถึง 13 ปี และต้องทุ่มงบประมาณอย่างมหาศาลในการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีความล้ำหน้าสูงเพื่อสร้างภาพยนตร์สุดทะเยอทะยานเรื่องนี้

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส