อันที่จริงแอดมินไปลองชิม GODIVA ช็อกโกแลตสัญชาติเบลเยี่ยมที่เพิ่งเปิดเมื่อปลายปีที่แล้วในไทยมาพักนึงแล้ว(ราวต้นปีที่ผ่านมา) แต่เพิ่งมีเวลามาเขียนรีวิว และเหมือนเดิมค่ะ… “จ่ายเอง เจ็บเอง” ไม่ต้องห่วงเรื่องขี้โม้โกหกมดเท็จ อร่อยบอกอร่อย ไม่อร่อยก็คงต้องพูดตรง ๆ มาค่ะ วันนี้จัดเต็มเกือบฟูลออปชั่นที่มนุษย์หวานน้อยจะมีปัญญาชิม แอดซื้อมาทั้ง Dark Chocolate Decadence และ Chocolate Truffle รวมไปถึง Chocolate Carré เอาล่ะชิมพร้อมกันเลยย !

แวะดูราคาตรงนี้ก่อนสิคะ

ป้ายเตือนก่อนเจ็บตัวค่ะ #ระวัง!เขตเพิ่มน้ำหนัก

**วันเกิดเหตุแอดมินไม่ได้ตั้งใจไปถ่ายรีวิวคือแค่เดินผ่านเฉย ๆ รู้อีกทีก็เสียทรัพย์ไปแล้ว แถมที่ตัวมีแต่เลนส์ซูมเพราะไปถ่ายงานแถลงข่าวที่ Central World ภาพอาจทุลักทุเลเล็กน้อย #อับอายมาก ส่วนเหล่า Chocolate Truffle ที่ Close-Up ได้เพราะใช้มือถือถ่ายที่บ้านค่ะ

Dark Chocolate Raspberry Decadence 230 THB – ดาร์กช็อกโกแลต ราสป์เบอร์รี่ ปั่น ราคา 230 บาท

Dark Chocolate Raspberry Decadence

โดยรวมคือหวานมาก หวานแบบ 9/10 หวานจนลืมไปเลยว่าที่อยู่ในมือคือ DARK CHOCOLATE แอดมินมีต่อมรับรสหวานเทียบเท่ามนุษย์ทั่วไปแอบรู้สึกแสบคอเบา ๆ แต่ก็จัดการจนหมดเพราะเสียดายเงินที่จ่ายไป (กระซิก ๆ) เอาเป็นว่าตั้งแต่ลอง GODIVA มาหลายประเทศกล้าพูดได้ว่าแอดมินได้เสียค่าช็อกโกแลตปั่นให้ GODIVA ทุกครั้งที่เจอค่ะ ซึ่งไทยแลนด์แดนสยามของเรามีเอกลักษณ์โดดเด่นมาก ๆ เพราะหวานแหลมดั่งเพิ่มน้ำตาลอ้อยอันทรงค่าลงไปให้เครื่องดื่มแก้วนี้อย่างจงใจ

ซอสราสป์เบอร์รี่แก้วนี้ยังกับบ๊วยแดง

  • ราสป์เบอร์รี่ซอส ไม่ได้เพิ่มความเปรี้ยวหรือหอมเท่าไหร่ กลับบั่นทอนรสชาติและกลิ่นของช็อกโกแลตเกรดพรีเมี่ยมที่ GODIVA สั่งสมชื่อเสียงไว้ยาวนานลงไปไม่สั่งซ้ำแน่นอน
  • วิปครีม ธรรมดาเหมือนร้านขายเครื่องดื่มพรีเมี่ยมทั่วไป ไม่ได้รู้สึกพิเศษเหมือนของสาขาฮอกไกโด
  • น้ำช็อคโกแลตปั่น ปกติเวลาเราสั่งเมนูนี้ก็ต้องทราบก่อนว่า GODIVA เอง จะปั่นช็อคโกแลตลงไปด้วย เพื่อให้เกิดสัมผัสที่เป็นเนื้อบ้างน้ำบ้างไม่เบื่อเวลาเราดื่มช้า ๆ แล้วละลายก็ยังไม่จืด ซึ่งตรงนี้ถือเป็นเอกลักษณ์และไม่สามารถสั่งให้ไม่ทำไม่ได้ด้วยค่ะ ชอบหรือไม่ชอบก็ต้องกินไปอยู่ดี (ฮา) ถ้าพูดถึงรสตัวน้ำแยกออกจากทุกสิ่งแอดมนิว่าไม่ได้เลวร้ายเลยค่ะ ก็เพียงแค่หวานกว่าที่ประเทศอื่น ๆ เพียง 2-3 เลเวล แอดมินก็อยากถามนะคะ.. ว่าทำไม ?
  • โดยรวมแอดมินว่าไม่ได้แย่ค่ะ คราวหน้าจะไปลองอีก อยากถามที่ร้านมากว่า ‘ลดหวานลงได้ไหม’ แล้วจะลองสั่งแค่ดาร์กช็อกโกแลตปั่นธรรมดา ไม่ใส่อะไรใด ๆ ทั้งสิ้น (แต่อีกใจก็อยากสั่ง Mint ทำไงดีอะฮือ)

เหล่าซอฟต์เสิร์ฟที่แอดมินยังไม่ได้ลองค่ะ ถ้าลองให้ครบก็กลัวจะต้องไปตรวจน้ำตาลในเลือดใหม่ 555

อ่าน ๆ ดูแล้วอาจคิดว่าแอดมินเรื่องมากหรืออะไรแบบนั้นนะคะ เอายังนี้ดีกว่าที่แอดมินชอบสุด ๆ มีสองรส คือ ดาร์กช็อกโกแลตเอิร์ลเกรย์ (สิงคโปร์) กับ มิลค์ช็อกโกแลต (ฮอกไกโด) แต่ถ้าใครยังไม่เคยลองชิมก็จะหวานและเข้มข้นกว่า ช็อกโกแลตคิทแคทปั่น ของ Coffee World มาก และ รสสัมผัสคล้ายแต่เข้มข้นและหวานกว่า ช็อกโกแลตปั่นจาวาชิป Starbucks ไม่มาก

(แผ่นสี่เหลี่ยมขวามือ) Chocolate Carré มี 4 แบบ 85% Cacao, 72% Cacao, 50% Cacao, Lait (Milk)

เหตุผลสำคัญว่าทำไมถึงชอบเครื่องดื่มของ GODIVA มากกว่าแบรนด์อื่นทั้ง ๆ ที่ราคาสูงกว่าเกือบสองเท่า นั่นเป็นเพราะตัวช็อกโกแลตของ GODIVA นี่แหละค่ะ ตรงนี้คงอธิบายเป็นคำพูดออกมาลำบาก แต่ยังไงแอดมินอยากให้ได้ลอง GODIVA ดูสักครั้งถ้าใครชอบช็อกโกแลตแบบแฟนพันธุ์แท้ ถ้าบอกว่าแพงมีของชิ้นละไม่เกิน 100 บาทอยู่ด้วย เป็นเหล่า GODIVA Chocolate Carré โดยปกติแล้วเวลาเราสั่ง HOT CHOCOLATE หรือว่าเครื่องดื่ม ช็อกโกแลตร้อน ทางร้านก็จะให้เราเลือก Carré 4 แผ่น ตามใจชอบว่าอยากได้เข้ม ๆ แบบดาร์กช็อกเน้น ๆ หรืออ่อนหน่อยก็ใส่มิลค์ช็อกลงไป

เมนู Chocolate Truffle ใส้ต่าง ๆ ค่ะ

เอาล่ะมาถึงแก๊ง Chocolate Truffle ที่ราคาเจ็บปวดรวดร้าว สนนราคาอยู่ที่ราว 900 กว่าบาท ต่อ 100 กรัม ค่ะ แอดมินซื้อมาทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน Speculoos, Amande an Miel, Praline Amande, Pitachio

ว่าด้วยเรื่องราวของรสชาติ

  1. Speculoos – คือคำตอบของแฟนมิลค์ช็อกโกแลต ด้านในมีไส้มิลค์ช็อกโกแลตรสกลมกล่อม ไม่หวานโดดแต่กลับมีรสนุ่มของนม และความหอมของบิสกิตป่นละเอียดที่คลุกอยู่ด้านนอก ผงสีกาแฟด้านนอกคือ คุกกี้ หรือบิสกิตป่น ช่วยทำให้เราทานเจ้า ทรัฟเฟิล ตัวนี้ได้มากขึ้นอีกหลายคำเลยค่ะ
  2. Amande an Miel – ช็อกโกแลตทรัฟเฟิล ที่ถูกโอบอุ้มด้วยอัลมอนด์บดหยาบ เป็นชิ้นที่ทานง่ายและรู้สึกอยากซื้อซ้ำมากที่สุดของเซ็ทนี้ ไม่ได้รู้สึกเหมือนทานอัลมอนด์เคลือบช็อกโกแลตทั่วไป แต่กลับได้ความหอมมันจากตัวครีมของชิ้นนี้ ตัดกับช็อกโกแลตรสเข้มชั้นกลางที่เคลือบครีมด้านในสุดเอาไว้ …เพลินจนแทบหยุดไม่อยู่ถ้าไม่ติดเรื่องราคาแอดมินก็คงจะกลับไปซื้ออีกซักโหล
  3. Praline Amande – แปลกใจที่ชิ้นนี้โคทด้านนอกด้วยดาร์กช็อกโกแลต แต่กลับเลี่ยนถึงใจทำไมหวานได้เบอร์นี้ อาจเป็นพลังงานแฝงจากคาราเมลที่เค้าบอกว่าเราจะได้กลิ่นหลังจากทานเข้าไป.. อืม ๆ แอดมินอาจจะปากไม่ถึงค่ะ แอดคิดว่าไม่ซื้อซ้ำแน่นอนอมน้ำตาลก้อนยังหวานน้อยกว่านี้
  4. Pistachio – อันนี้เรียกว่าผิดคาดดีกว่าค่ะ แอดมินคิดว่าสั่งอะไรถั่ว ๆ มาจะไม่เลี่ยน แต่ ! แต่ค่ะแต่ อันนี้ค่อนข้างเลี่ยนเพราะ ครีมพิสตาชิโอ สีเขียว ๆ ด้านในนี่แหละค่ะมีความครีมมี่มาก อันนี้คงต้องโทษตัวเองที่ไม่ถามเค้าให้ดีว่าด้านในเป็นอะไร มาศึกษาเอาทีหลังเพิ่งทราบว่าความครีมมี่ที่ได้มานั้นเกิดจากเจ้าไวท์ช็อกโกแลตนั่นเอง แต่โดยรวมโอเคนะคะไม่ขี้งกถั่วเลยครีมมี่แต่มีความหอมมันสูง

ถ้าเรียงลำดับจากความชอบมากไปน้อย (รวมถึงหวานมากไปน้อยด้วย) น่าจะได้ประมาณนี้ค่ะ >> Amande an Miel > Speculoos > Pistachio > Praline Amande

** ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นของแอดมินคนเดียวนะคะ ความชอบของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป

เอาล่ะครบถ้วนกระบวนท่าทุกสิ่งที่แอดมินไปจ่ายเงินมาขอปิดท้ายด้วยใบเสร็จอันทรงคุณค่าเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความปิติ

หากใครสนใจไปลองชิมสารพันสิ่งที่ GODIVA ตอนนี้มีทั้งหมด 3 สาขา สยามพารากอน, เซ็นทรัลชิดลม, เซ็นทรัลเวิลด์ หรือเข้าไปดูรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ทางเพจเฟซบุ๊ก GODIVA Thailand เลยค่า