ตื้ดดด ตื้ดดด …!!
เสียงสมาร์ทโฟนเครื่องเก่ง ที่มีรอยหน้าจอแตกประปราย ปลุกบีให้ตื่นขึ้นในบ่ายวันเสาร์
บีกระพริบตาปริบๆ สองทีเพื่อพยุงหนังตาให้ขยับขึ้นมา เพื่อมองไปรอบๆ ตัว
มือขวาก็ควานหาสมาร์ทโฟนที่ยังดังอยู่อย่างนั้น
เป็นเสียงโทรเข้าของเพื่อนเก่าที่มหาวิทยาลัยนั่นเอง

“ฮาโหล ว่าไงเค้ก”
“บีวันนี้ว่างไหม ไปทำบุญกัน”

..ฟังดูพิลึก แต่เพื่อนต่างคณะคนนี้ มักจะไลน์ หรือโทรมาชวนไปทำบุญ หรือไม่ก็เดินเล่นหาอะไรกินตามประสาคนชอบตระเวนกินแถววังหลังบ่อยๆ

“ไม่ไหวอะเค้ก โทษทีน้า แฮ้งมากเลย เมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อย”

แล้วก็ร่ายยาวบ่นอาการแฮงให้เพื่อนฟัง ก่อนจะขอโทษ แล้ววางสายไป

เผลอเหลือบไปมองนาฬิกา ก็มีชะงักนิดนึงว่า นี่บ่าย 1 แล้วหรอ ? นี่เราหลับไปนานขนาดไหน ? เมื่อคืนกลับบ้านยังไงนะ ? เอ๊ะๆ อ๋อๆ เมื่อคืนกลับมาตอนตี 1 นั่ง Uber ชิลๆ กลับมานี่น่า เอ๊ะ.. แต่ก็ไม่ชิลนะ นั่งมากับพี่ที่ทำงาน นั่งหัวเราะกันตลอดทาง ไม่รู้ตลกอะไรกันนักกันหนา แต่เมาทีไร หัวเราะไม่หยุดทุกที…

เผลอคิดไปถึงข้อเสีย ของการเมาจากการสังสรรค์ในเย็นวันศุกร์ขึ้นมาทันที เพราะถึงจะสนุกจนหยดสุดท้าย แต่ก็อดคิดถึงข้อเสียมากมายไม่ได้เลย

นึกถึงข้อเสียของการเมา

อย่างแรกเลย การเมาในค่ำวันศุกร์ ทำให้วันเสาร์ของเรา TERRIBLE ขึ้นมาทันที

เพราะคุณจะตื่นขึ้นมาในบ่ายวันเสาร์ ด้วยอาการงัวเงีย ไม่ก็ปวดหัวสุดขีด จนไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลย นอกจากนอนโง่ๆ บนเตียง แล้วก็เปิดทีวีเสียงดังๆ ฆ่าเวลา

จะทำความสะอาดบ้านในวันเสาร์หรือโยคะคลาสบ่าย ก็ดูจะเป็นไปไม่ได้ เพราะแค่ยืนก็รู้สึกเซๆ แล้ว

ส่วนเรื่องไปทำบุญกับเค้กอะหรอ.. ลืมไปได้เลย
“สูญเสียเวลาวันเสาร์ไป แบบไร้ประโยชน์”

อย่างต่อมาที่รู้สึกสูญเสีย ไม่ต่างจากเวลาในวันเสาร์ ก็คือเงินในกระเป๋านั่นเอง
รู้ตัวอีกที ก็ตอนที่เดินลงมาเซเว่นหน้าปากซอย
“อ้าว  ตายๆ เงินหายไปไหน ”

 

Where have my money gone? วันรุ่นเซ็ง วัยรุ่นไม่มีเงินใช้..

เพราะไปเที่ยวในคืนวันศุกร์ทีไร เงินต้องหายไป แบบมีร่องรอยทุกที อย่างน้อยพันนึงต่อครั้ง ไหนคำณวนสิ! 1 พัน X 4 เดือนนึงตก 4,000 บาทแน่ๆ

4 พันบาทนี้ มันควรจะเป็น ส่วนหนึ่งในค่าตั๋วเครื่องบิน บินไปกลับที่ไหนสักที่ตอนปลายปีเนอะ..

Filkow Law

อืม.. อีกเรื่องที่อดบ่นไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าเป็นเด็กอนามัยเกินไปรึเปล่า เพราะทุกวันนี้ก็กินวิตามินซีทุกวัน เพราะกังวลเรื่องสุขภาพมากๆ

ฉลองวันศุกร์บ่อย ตับไตพัง ไม่รู้ตัว.. องค์การอนามัยโลกเองก็เคยกระซิบมาว่า ประชากรโลก 38% ที่ยกเหล้าเข้าปาก เสียชีวิตไป 3.3 ล้านรายแล้ว

3.3 ล้ายราย นี่ตายแบบไหนบ้างนะ ขอจินตนาการหน่อย

 

1.ตับพังตาย เหล้าลงตับ

2.อุบัติเหตุบนถนน ชนตู้มมม

3.กินเหล้าแล้วเฟี้ยว เลี้ยวไปหาเรื่องโต๊ะข้างๆ

…อันนี้ก็ตายได้เหมือนกัน

พอ พ๊อ พอ เลิกคิดดีกว่า

ตายเพราะเหล้าก็แย่แล้ว แต่หุ่นพังเพราะเหล้าดูจะเศร้ากว่า น้ำหนักก็ขึ้นเอาๆ เห้อ.. ถ้าจะต้องอ้วนเพราะเบียร์ เพราะอาหารแคลอรี่สูงๆ เบคอนมันๆ ในค่ำวันศุกร์ นี่มันเศร้านะ…

นี่ยังไม่รวมเรื่อง ความปลอดภัยนะ

ผู้หญิงสวยๆ ชิคๆ แบบเรา เมาแล้วไม่ปลอดภัยแน่ๆ เพราะโลกนี้อันตรายกว่าที่คิดนะเห้ยยย ..คิดไม่ออกเลยว่า ถ้าพี่ที่ทำงาน บ้านไม่ได้อยู่ใกล้เรา แล้วเราไม่ได้กลับบ้านพร้อมกัน ชีวิตจะยากขนาดไหน

 

ก็ตอนเด็ก แม่ชอบสอนว่า
“อย่าไว้ใจใครมากไป ทำอะไรคิดถึงความปลอดภัยของตัวเองหน่อยนะหล่อน”

 

คิดไปคิดมา ทำไมการสังสรรค์ในค่ำวันศุกร์ ดูจะมีพิษต่อชีวิตขนาดนี้ ยอมแล้ว ยอมแล้วจ้า เลิกเมาในวันศุกร์ดีกว่า

แต่เอ๊ะ.. ข้อดีก็มีมหาศาลเหมือนกันนะ ได้เพิ่มความสนิทชิดเชื้อกับเพื่อนๆ และก๊วนเราไง หยุดไม่ได้หรอก.. ความสนุกในวงเหล้า หยุดใจไม่ได้เลย งั้นงดเหลือเดือนละครั้งดีกว่า

ว่าแต่ศุกร์หน้าไปไหนดี แนะนำบีหน่อย