เป็นหนังที่เอาใจตลาดและดูง่ายที่สุดในรายชื่อหนังของอเล็กซานเดอร์ เพย์นแล้ว แม้ยังคงแฝงแง่คิดมุมมองในการใช้ชีวิตไว้เช่นเคย แต่ใน Downsizing เลือกเล่าในแนวทางที่บันเทิง มีสีสัน และเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขันที่มากขึ้น และด้วยเหตุที่ผิดแนวจากที่เคยนี้ เลยทำให้แฟน ๆ ประจำของเพย์นน่าจะรู้สึกผิดหวัง ทำให้คะแนนหนังทั้งใน IMDB และ Rottentomatoes ออกมาดูย่ำแย่ แต่ถ้ามองในแง่การเสพเพื่อความบันเทิงหนังก็ตอบสนองได้ดี บทที่เพยน์ เขียนร่วมกับ จิม เทย์เลอร์ คู่หูของเขาที่ทำงานร่วมกันมาใน Sideways , About Schmidt , Election ลื่นไหลและลงลึกในรายละเอียดได้อย่างสมจริงและน่าติดตาม

 

แม้ว่าพลอตที่ว่าด้วยมนุษย์จิ๋วจะถูกสร้างมาหลายต่อหลายครั้งในประวัติศาสตร์ฮอลลีวู้ด แต่อเล็กซานเดอร์ เพย์น กลับเลือกเล่าในทิศทางที่แตกต่างได้อย่างน่าสนใจ กับแนวคิดที่ว่าเหล่านักวิทยาศาสตร์หาทางแก้วิกฤตการณ์ประชากรล้นโลกและมลภาวะที่ก่อปัญหาปฏิกิริยาเรือนกระจกด้วยการย่อส่วนมนุษย์โลกได้สำเร็จ เมื่อมนุษย์ตัวเล็กลงก็บริโภคน้อยลง ปริมาณขยะก็น้อยลงเช่นกัน รัฐบาลแต่ละประเทศสนับสนุนให้ประชาชนย่อส่วนและลงไปอยู่ในเมืองคนจิ๋ว 7 แห่งทั่วโลก หนังลงลึกในขั้นตอนการย่อส่วนแบบละเอียด อธิบายถึงค่าเงินในเมืองจิ๋ว ที่แปลค่าเงินได้มหาศาล สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเศรษฐีมีคฤหาสน์ใหญ่โต สามารถดำรงชีพได้จนตายโดยไม่ต้องทำงาน เล่นเอาอยากย่อส่วนไปใช้ชีวิตแบบนั้นจริง ๆ ด้วยเลย

ครึ่งแรกของหนังหมดไปกับการพาคนดูไปรู้จักโลกตัวจิ๋วผ่านสายตาของพอล ซัฟฟรานิค บทของแมตต์ เดมอน ที่สภาวะการเงินกำลังฝืดเคืองเลยตัดสินใจเป็นหนึ่งในประชากรตัวจิ๋ว หนังเดินหน้าไปอย่างมีสีสันแต่ด้วยความที่เป็นหนังของเพย์นก็ไม่ลืมที่จะวิพากษ์สถานะความเสมอภาคของประชากรจิ๋ว และความเหลื่อมล้ำทางสังคมทั้งในโลกของคนขนาดปกติและในโลกของคนจิ๋ว ครึ่งหลังของหนังก็เปิดตัว 2 ตัวละครสำคัญ ดูชาน เพลย์บอยชาวเซอร์เบีย และ หง็อค ลัน สาวเวียตนาม อดีตผู้นำการประท้วงในเวียตนามโดนลงโทษด้วยการจับย่อส่วน , คริสทอฟ วอลตซ์ ในบทดูชาน มาในบุคลิกใหม่ที่ไม่เคยผ่านตา กับหนุ่มเสเพลอารมณ์ดีพูดจาติดหัวเราะตลอดเวลาเป็นตัวปล่อยมุกอย่างได้ผลเสมอ และ ฮอง เชา สาวเวียตนามโดยกำเนิด เธอเล่นทีวีซีรีส์มาหลายเรื่องมาก เพิ่งได้บทหง็อค ลัน ถือว่าเป็นบทสำคัญและเป็นบทแจ้งเกิดอย่างแท้จริง บทหง็อค ลัน เป็นสีสันหลักของเรื่องเลยก็ว่าได้ เป็นตัวละครที่มีความลึก เบื้องหน้าคือหญิงโผงผางแต่พอได้รู้จักเธอ เบื้องหลังเธอคือหญิงจิตใจงามที่ช่วยเหลือเพื่อนผู้ยากไร้รอบตัวไปหมด ชอบภาษาอังกฤษแบบโบรคเค็นอิง
ลิชของเธอมาก ภาษาแบบตรงไปตรงมาแต่สื่อสารได้แบบโคตรมันส์ สมควรแล้วที่ ฮอง เชา ได้เข้าชิงสมทบหญิงจากบทนี้ใน 8 เวทีเล็ก แล้วก็คว้าไปได้ 1 เวที

ที่ชอบมากคือหนังไม่ได้เล่นเรื่องราวความสัมพันธ์ของคนตัวใหญ่กับคนตัวเล็ก หรือต้องไปหนีนกหนูแมลงแบบหนังคนโดนย่อส่วนหลาย ๆ เรื่องก่อนหน้านี้ แต่เดินหน้าไปกับการผจญภัยของพอลในสังคมเมืองคนตัวเล็ก ได้เจอกับเพื่อนใหม่ที่แต่ละคนก็มีพฤติกรรมประหลาด ได้เยี่ยมชมแง่มุมต่าง ๆ ของเมืองคนจิ๋ว และเดินทางไปเยี่ยมชมเมืองคนจิ๋วในนอร์เวย์ ได้เห็นรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่าง บทของเพย์น และ เทย์เลอร์ เก่งมากที่เล่าเรื่องให้น่าติดตามได้โดยไม่ต้องมีวิกฤตการณ์เกิดขึ้นกับตัวละคร ไม่มีปริศนารอการคลี่คลาย เราสามารถสนุกไปได้กับการผจญภัยของพอล โดยไม่ต้องรู้ว่าเรื่องราวจะเดินหน้าไปในทิศทางใดและจะลงเอยอย่างใด และที่สำคัญการเล่าเรื่องแบบนี้ไม่ต้องเทงบไปกับงานสเปเชียลเอฟเฟกต์ทำภาพคน 2 ขนาดบ่อย ๆ ด้วย

ด้วยเครดิตที่สั่งสมมาของอเล็กซานเดอร์ เพย์น ทำให้มีดารามากชื่ออยากร่วมงานด้วย สักนิดสักหน่อยก็ยังดี เราเลยได้เห็นดาราเบอร์กลาง ๆ หลายคน โผล่หน้ามาคนละ 1 นาที 2 นาทีก็เอา มีทั้ง นีล แพททริค แฮร์ริส , เจมส์ แวนเดอบีค , เจสัน ซูเดคิส , ลอร่า เดิร์น ,และ คริสเต็น วิค ที่แม้ได้ชื่อเป็นบทนำแต่เธอก็เล่นอยู่แค่ครึ่งแรกเท่านั้น และไม่ใช่นางเอกของเรื่องด้วย สรุปอีกที Downsing เป็นหนังที่สนุก ได้หัวเราะเสียงดัง ๆ ได้เห็นงานแสดงดี ๆ น่าประทับใจ และแฝงสาระให้ชวนคิดแบบไม่ยัดเยียดจนหนักเกินไป จะมีติก็ที่ความยาวของหนังที่ 2 ชั่วโมง 15 นาที กับช่วงท้ายของชั่วโมงที่ 2 ที่เริ่มรู้สึกว่าชักเนือยแล้วล่ะ สมควรจบได้แล้ว

 

Play video