[รีวิว] Hunter Killer: สงครามใต้น้ำ มันอย่างกับการ์ตูน

82

สนับสนุนข้อมูลโดย Major Cineplex

เรื่องย่อ

เตรียมพบกับอุบัติการณ์ความระทึกครั้งใหม่เมื่อกัปตันเรือดำน้ำที่ไม่เคยออกศึกมาก่อนต้องร่วมมือกับหน่วยซีลเพื่อช่วยเหลือประธานาธิบดีรัสเซียที่ถูกจับเป็นเชลย หลังจากเกิดการปฏิวัติโดยทหารที่มีผู้นำคืออดีตนายพลรัสเซียที่แปรพักตร์เพื่อหวังจะจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่สาม นำแสดงโดยตัวพ่อหนังแอคชั่น เจอร์ราร์ด บัตเลอร์ และผู้คว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมปีล่าสุดอย่าง แกรี่ โอลด์แมน

ว่าด้วยชื่อชั้นสำหรับหนังแอ๊กชั่นแนวการเมือง เจอร์ราร์ด บัตเลอร์ ที่ผ่านงานอย่าง Olympus Has Fallen (2013) และ Den of Thieves (2018) นับว่ามีชื่ออยู่ในระดับที่เราไว้วางใจได้ ยิ่งสมทบกับดารามากฝีมือรุ่นเก๋าอย่าง แกรี่ โอลด์แมน ที่เพิ่งได้ออสการ์นำชายยอดเยี่ยมปีล่าสุดจากการสวมบท วินสตัน เชอร์ชิลล์ ใน Darkest Hour (2017)  ก็หายห่วงในเรื่องความเข้มข้นในทางดราม่าการเมือง ที่น่าลุ้นหน่อยคือฝีมือของผู้กำกับ โดโนแวน มาร์ช ที่ทำหนังสร้างชื่ออยู่ฝั่งแอฟริกาใต้มาตลอดแถมยังไม่มีหนังใหญ่ระดับสงครามข้ามชาติอย่างเรื่องนี้เป็นการันตีด้วย แต่หนังก็ยังได้ทีมระดับบิ๊กอีกหลายคนมาร่วมกัน เช่น อาร์น ชมิดต์ ที่เคยโปรดิวซ์ให้หนังอย่าง RoboCop (1987) และ xXx (2002) มาแล้ว และนี่ยังได้โปรดิวเซอร์จาก Olympus Has Fallen มาคุมอีก จึงเป็นหนังที่ตั้งใจจัดเต็มมาเพื่อสร้างชื่อของผู้กำกับฝากในฮอลลีวู้ดที่ต้องเอาใจช่วยเลย

หนังใช้โครงเรื่องที่เข้าใจง่ายจนดูไม่มีอะไรใหม่มากอย่างการช่วยประธานาธิบดีฝั่งตรงข้ามจากกลุ่มกบฏ เพื่อป้องกันสงครามโลกครั้งใหม่ แต่ก็ใช้ยุทธวิธีการรบที่หลากหลายผสมทั้งใต้น้ำและบนบก ทั้งยุทธวิธีของเรือดำน้ำทั้งปฏิบัติการหน่วยซีล หนังเรื่องนี้จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกมองเทียบกับหนังแนวเรือดำน้ำที่เราไม่ได้ชมกันมานานแล้วด้วยกัน อย่างชั้นยอดก็ตั้งแต่สมัย Crimson Tide (1995) นู่น ส่วนสมัยใหม่หน่อยก็ยังต้องย้อนไปหลายปีอย่าง U-571(2000) หนังเรื่องนี้จึงทั้งได้เปรียบในแง่คนโหยหาหนังแนวสงครามใต้น้ำมานาน และเสียเปรียบที่มีหนังทำได้สนุก ๆ มาก่อนหลายเรื่องแล้วเช่นกัน

และตัวหนังก็ทำได้สนุกมาก ใส่อัดสถานการณ์ให้ต้องลุ้นตลอด โดยภาพใหญ่คือต่างฝ่ายต่างไม่รู้เจตนาของกัน ซึ่งเสี่ยงจะเกิดสงครามโลกได้ตลอดเวลา ทางอเมริกาก็ไม่รู้ว่ารัสเซียจะเล่นอะไร ฝั่งรัสเซียก็ไม่รู้ว่ามีการยึดอำนาจจับผู้นำเป็นตัวประกัน แล้วฝั่งพระเอกทั้งหน่วยซีล ทั้งเรือดำน้ำ ก็เลยต้องปฏิบัติการลับเหนือโลกเข้าไปช่วยแบบไม่ให้โลกล่วงรู้ คือหน้าหนังอาจเหมือนหนังเรือดำน้ำสู้กัน แต่เอาจริง ๆ แล้วมันคือหนังสงครามที่มีเรือดำน้ำเป็นตัวหลักหนึ่งในภารกิจเท่านั้นครับ เพราะฝั่งพระเอกที่เราต้องเอาใจช่วยนี่คือทั้งหมดเลย ตั้งแต่ฝ่ายยุทธการในเพนตากอน ทั้งหน่วยซีล ทั้งเรือดำน้ำ ตลอดจนฝั่งรัสเซียฝ่ายที่เข้าข้างประธานาธิบดีเองด้วย เพื่อผลลัพธ์เดียวกันคือเลี่ยงสงครามโลกครั้งใหม่ให้ได้ ซึ่งมันคือความสำเร็จในการเล่าเลยนะ ขนาดว่าไม่ได้รู้จักอะไรตัวละครกลุ่มนี้มาก่อนมากมาย เราก็ลุ้นฉิบหายวายป่วงไปกับพวกเขาตลอดเลย

ข้อเด่นและด้อยของหนังคือสิ่งเดียวกันเลย คือความไม่สมจริงของมัน คือสายสงครามจริงจังคงมองว่าเพ้อเจ้อและมีความไม่สมเหตุสมผลหลายจุด แต่ความที่มันโม้เว่อแบบการ์ตูนระดับหนึ่งก็ทำให้หนังโคตรสนุกขึ้นมาเลย ไหนจะการที่เปิดโอกาสให้ได้โชว์เทคโนโลยีทางทหารใหม่ ๆ สารพัดนั่นอีก คือดูแล้วถึงจะไม่ได้รู้สึกว่าหนังดีเกรดเออะไร แต่มันเป็นหนังบีบวกที่คุ้มค่าเวลาการชมแบบระเบิดระเบ้อเลย ทั้งต้องลุ้นภารกิจฝั่งการเมืองที่จะเปิดหน้าวอร์กันตลอด ลุ้นทั้งภารกิจในพื้นที่ที่ต้องจัดการปัญหาสารพัดแบบไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่ใช่อะไร ๆ ก็เดินหน้าลุยบ้าเลือดกัน ซึ่งเป็นความลุ้นที่สร้างรสชาติแตกต่างให้หนังแนวสงครามอย่างดีเลยครับ

เอาเป็นว่าเป็นหนังบู๊ที่เซอร์ไพรส์มากพอสมควร เพราะเอาจริง ๆ คิดว่าจะไม่สนุกมากหรือก็เดิม ๆ ประมาณหนังแผ่นหนังทีวี แต่กลายเป็นความสนุกเกินเบอร์ไปหลายเท่าตัวเลย น่าลองครับ

ตอร์ปิโดที่ว่าไว ยังไม่ไวเท่ากดรูปปุ๊ปซื้อตั๋วได้ปั๊บ ต้องจัดเลย
Hunter Killer สงครามอเมริกาผ่ารัสเซีย
คุณภาพงานสร้าง
75
เนื้อหา ตรรกะ ความสมบูรณ์ของบท
75
ความแปลกใหม่
85
ความสนุก
90
ความคุ้มค่าตั๋ว
85
จุดเด่น
เป็นหนังแนวสงครามเรือดำน้ำซึ่งไม่ได้ดูมานาน
มีทีมนักแสดงที่ดี
โม้อย่างมันเลย แถมมีของเล่นโชว์เพียบ
จุดสังเกต
เนื้อเรื่องเชยเดาง่าย
ซีจีบางฉากไม่เนียน
ตรรกะบางอย่างไม่สมจริงเท่าไหร่
82