หนังเรื่องนี้พี่ดูระบบไหนดี John Wick Chapter 3 Parabellum ระบบ IMAX
Our score
7.0

๋John Wick Chapter 3 Parabellum IMAX

จุดเด่น

  1. หนังแอ็คชั่นดูบนจอใหญ่ๆสะใจกว่าแน่นอน
  2. มีฉากแอ็คชั่นที่เหมาะมากกับการดูบน IMAX
  3. ระบบเสียงกระหึ่มเวอร์ เหมือนเปิดวอร์ไปกับเฮียจอห์น วิค

จุดสังเกต

  1. ไม่มีฉากขยาย
  2. ไม่ได้มิกซ์เสียงระบบของ IMAX
  • เหมาะมั้ยกับ IMAX

    7.0

  • จำนวนฉากขยาย

    0.0

  • ฉากเด็ดบนจอ IMAX

    9.0

  • ระบบเสียงกระหึ่มโรงไอแมกซ์ 

    9.0

  • ความคุ้มค่า

    10.0

หนังมหากาพย์นักฆ่าขายฉากต่อสู้อย่าง John Wick ก็ได้เดินทางมาถึงภาคที่ 3 แน่นอนว่าความสำเร็จจากหนังภาคที่ผ่านมาย่อมสร้างฐานะแฟนคลับไว้ได้เหนียวแน่นและกลายเป็นหนังที่ทุกคนรอคอย ซึ่งในภาค 3 ที่ใช้ชื่อ Parabellum ก็ขอระห่ำกันบนจอ IMAX ด้วย (แต่เป็นแบบ 2 มิติธรรมดานะจ๊ะไม่ใช่ 3 มิติทะลุจอ) หนังเรื่องนี้พี่ดูระบบไหนดีจึงขอร่วมพิสูจน์ความมันส์ว่าควรดูนาฏกรรมการฆ่าของเฮีย จอห์น วิค กันบนจอยักษ์หรือไม่ 

Play video

เหมาะมั้ยกับระบบ IMAX

จากข้อมูลด้านเทคนิคบนเว็บไซต์ IMDB ระบุว่าตัวหนังถูกถ่ายทำในอัตราส่วน 2.39:1 ซึ่งถือเป็นอัตราส่วนจอกว้างธรรมดา แถมยังมิกซ์เสียงแค่ระบบเดียวคือ ดอลบีดิจิทัล 7.1 ซึ่งเท่ากับว่าตัวหนังเองไม่ได้มีการออกแบบเพื่อฉายบนจอไอแมกซ์โดยเฉพาะแต่อย่างใด แต่เดี๋ยวก่อน! การจะดูแค่ข้อมูลเทคนิคธรรมดายังน้อยเกินกว่าจะสรุปว่าเราควรเมิน จอห์น วิค บนจอไอแมกซ์ เพราะหากเทียบในส่วนของประเภทหนังแล้ว การดูแอ็คชั่นบนจอใหญ่ๆหรือระบบเสียงดีๆก็ยังถือเป็นแต้มต่อที่ดีกว่าการดูโรงภาพยนตร์ธรรมดาอยู่ดี ดังนั้นในส่วนนี้ขอให้คะแนนอยู่ที่ 7 คะแนน

จำนวนฉากขยายบนจอ IMAX

น่าเสียดายที่จอห์น วิค ต้องเสียคะแนนในจุดนี้ไปแบบไม่มีแต้มเลย เพราะหนังไร้ซึ่งฉากขยายใดๆ เพราะถูกถ่ายมาในอัตราส่วน 2.39:1 เท่านั้นเอง จึงได้ไปแค่ 0 คะแนน

ฉากเด็ดบนจอ IMAX

แน่นอนล่ะว่าได้ชื่อว่าเป็นหนังตระกูลจอห์น วิค หลายคนย่อมคาดหวังถึงฉากแอ็คชั่นต่างๆ และภาคนี้ก็ต้องบอกว่าฉากแอ็คชั่นถูกออกแบบให้มีความยิ่งใหญ่มากขึ้น สเกลของซีนแต่ละซีนไม่ได้เริ่มง่ายๆจบง่ายๆทั้งฉากแอ็คชั่นมาเชียล อาร์ตประชิตตัวอย่างฉากในห้องกระจกท้ายเรื่องที่ถูกออกแบบมาให้เข้ากับสถาปัตยกรรมที่ดูซับซ้อนน่ากลัวจนชีวิตพี่จอห์น วิค ของเราดูแขวนบนเส้นด้ายพร้อมเผชิญความตายได้ทุกเมื่อ ผนวกกับฉากแอ็คชั่นแบบรบพุ่งกันด้วยอาวุธปืนดูยิ่งใหญ่ตระการตาทั้งฉากขี่ม้าถูกไล่ล่าบนมอเตอร์ไซค์หรือฉากการบุกวังนักฆ่าในคาซาบลังกาก็ดูยิ่งใหญ่สมค่าการรอคอยและการชมบนจอใหญ่ๆก็ย่อมให้ผลทางอารมณ์เหนือคำบรรยายจริงๆ อันนี้ขอให้ 9 คะแนนเลย โดนหักแค่ไม่มีฉากขยายเฉยๆ

ระบบเสียงกระหึ่มโรงไอแมกซ์

แม้หนังจะไม่ได้มิกซ์มาในระบบ 6 หรือ 12 แทร็กของไอแมกซ์ แต่ขอบอกว่าความกระหึ่มของเสียงนี่หายห่วงได้เลย ทั้งฉากบู๊แบบมาเชียลอาร์ตที่เสียงต่อยหรือเสียงกระดูกหักนี่คือฟังแล้วเจ็บแทน หรือฉากแอ็คชั่นที่เป็นการสู้รบด้วยอาวุธก็ประหนึ่งพาเราเข้าสู้สงครามที่เหมือนไม่มีวันจบสิ้นได้อย่างสะใจ รับรองว่าได้อรรถรสมากกว่าชมโรงภาพยนตร์ปกติแน่นอน ซึ่งหากหักลบคะแนนที่ไม่ได้มีการมิกซ์เสียงในระบบของไอแมกซ์ก็จะอยู่ที่ 9 คะแนน

ความคุ้มค่า

จากราคาค่าตั๋ว IMAX ที่เราสำรวจจากแอป Major Movie Plus พบว่าสาขาที่ราคาตั๋วถูกสุดคือที่ เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่โดยเริ่มต้นที่ 150 บาทเท่านั้น งานนี้ชาวเจี๋ยงใหม่ได้ ลำขนาดกันแบบประหยัดสุดๆ ส่วนสาขาชานเมืองอย่างเวสต์เกตซีนีเพล็กซ์และเมเจอร์ รัชโยธินก็เริ่มต้นแค่ 200 บาทเท่านั้น ขยับมาสาขาในเมืองทั้ง ไอคอน ซีนีเพล็กซ์และควอเทียร์ ซีเนอาร์ตก็เริ่มต้นที่ 250 บาท ส่วนสาขาพารากอน ซีนีเพล็กซ์ที่ผมชมก็ราคาเริ่มต้นที่ 300 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าราคาตั๋วไม่ได้สูงกว่าราคาตั๋วหนังโรงธรรมดานักเราจึงกล้าให้คะแนนความคุ้มค่ากันที่ 10 คะแนนเต็มไปเลยจ้า