หลังจากทิ้งผลงานอัลบั้มที่ 8 ซึ่งใช้ชื่อว่า “8” ไว้ในปี 2017 และมาสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆชาวไทยใน ‘Incubus Live in Bangkok 2018’ ไปเมื่อปีก่อน คราวนี้ 5 หนุ่มร็อกจากแคลิฟอร์เนีย Brandon Boyd (ร้องนำ), Mike Einziger (กีตาร์), Ben Kenney (เบส), Jose Pasillas (กลอง) และ Chris Kilmore หรือ DJ Kilmore (เทิร์นเทเบิ้ล) เจ้าของเพลงฮิต “Drive “ และ “Are You In?” ก็ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมซิงเกิลใหม่ที่ใช้ชื่อว่า “Into the Summer” บทเพลงที่มาพร้อมกีตาร์แบบฟังกี้สไตล์ของ Einziger ลูกสแลปเบสสุดหนึบเหนียวจาก Kenney เสียงกลองที่ไปเรื่อยๆแต่แน่นและแน่นอนของ Pasillas เรโทรซาวด์ซินธ์จาก Kilmore และเสียงร้องที่เราคิดถึงของ Brandon Boyd รวมถึง MV ที่เล่าเรื่องของแวมไพร์ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลล้วนแล้วแต่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานในยุค 80

เนื้อหาของเพลง “Into The Summer”  เป็นความรู้สึกโหยหาถึงความงดงามในอดีต ทั้งความทรงจำ ช่วงเวลาดีๆและความสัมพันธ์ที่เรามีกับใครคนนั้น แต่ก็ทำได้แค่ย้อนกลับไปเสียดายและคิดถึงมัน  ซึ่งเพลงนี้ทั้งตัวเนื้อหา ดนตรี และ MV เหมือนจะไปทางเดียวกันเลย เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่เดี๋ยวนี้ใครๆก็พากันคิดถึงอดีต อาจเพราะว่ามันเป็นช่วงเวลาที่สวยงามในแบบที่เราอาจจะมองไม่เห็นในปัจจุบันนี้ก็เป็นได้

 

Shouldn’t have let you go

Into the summer alone

Pretty and built to spill

A cup ready to overflow

 

ฉันไม่ควรปล่อยให้เธอไป

สู่ห้วงแห่งฤดูร้อนเพียงลำพัง

ช่างงามและเอ่อล้น

ของเหลวในถ้วยใบนี้พร้อมที่จะหลั่งล้นออกมาแล้ว

 

Why do I piss and moan

Over the ashes of us

Guess I am smitten, still

Don’t leave me here on my own

 

ทำไมฉันจะต้องโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง

กับความทรงจำของเราที่กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว

เดาว่าเพราะฉันยังคงหลงรักมันอยู่

อย่าปล่อยฉันให้ต้องอยู่คนเดียวเลย

 

I remember the way that it was

It’s been calling out to me forever

But I shouldn’t have let you go

Into the summer alone

 

ฉันยังคงจำสิ่งที่เคยเป็นมาได้ดี

มันเรียกร้องหาฉันอยู่ตลอดเวลา

ฉันไม่ควรปล่อยให้เธอไป

สู่ห้วงแห่งฤดูร้อนเพียงลำพัง

 

Into the summer alone

สู่ห้วงแห่งฤดูร้อนเพียงลำพัง

 

 

Love is like a coiling vine

It breaks through the cracks in my wall

The fruits of it we distilled

Until you stepped over the line

 

ความรักนั้นเหมือนเถาองุ่น

ที่เลื้อยทะลุรอยแตกแยกบนกำแพง

และเราดื่มด่ำน้ำจากผลของมัน

จนกระทั่งวันที่เธอเดินจากไป

 

I remember the way that it was

Been calling out to me forever

But I shouldn’t have let you go

Into the summer alone

 

ฉันยังคงจำสิ่งที่เคยเป็นมาได้ดี

มันเรียกร้องหาฉันอยู่ตลอดเวลา

แต่ฉันไม่ควรปล่อยให้เธอไป

สู่ห้วงแห่งฤดูร้อนเพียงลำพัง

 

 

I remember the way that it was

It’s been calling out to me forever

I remember it ending because

I was blind

 

ฉันยังคงจำสิ่งที่เคยเป็นมาได้ดี

มันเรียกร้องหาฉันอยู่ตลอดเวลา

ฉันจำได้แล้วว่ามันจบลงไปเพราะ

ความบอดใบ้ของฉันเอง

 

Shouldn’t have let you go

Into the summer alone

Shouldn’t have let you go

Into the summer alone

Shouldn’t have let you go

Into the summer alone

 

ฉันไม่ควรปล่อยเธอไป

สู่ห้วงแห่งฤดูร้อนเพียงลำพัง

ฉันไม่ควรปล่อยเธอไป

สู่ห้วงแห่งฤดูร้อนเพียงลำพัง

ฉันไม่ควรปล่อยเธอไป

สู่ห้วงแห่งฤดูร้อนเพียงลำพัง

 

Into the summer alone

สู่ห้วงแห่งฤดูร้อนเพียงลำพัง

 

 

I remember the way that it was

It’s been calling out to me forever

But I shouldn’t have let you go

Into the summer alone

 

ฉันยังคงจำสิ่งที่เคยเป็นมาได้ดี

มันเรียกร้องหาฉันอยู่ตลอดเวลา

แต่ฉันไม่ควรปล่อยให้เธอไป

สู่ห้วงแห่งฤดูร้อนเพียงลำพัง

 

I remember the way that it was

It’s been calling out to me forever

I remember it ending because

I was blind

 

ฉันยังคงจำสิ่งที่เคยเป็นมาได้ดี

มันเรียกร้องหาฉันอยู่ตลอดเวลา

ฉันจำได้แล้วว่ามันจบลงไปเพราะ

ความบอดใบ้ของฉันเอง

 

 

ในตัว MV ของเพลงนี้ที่กำกับโดย แฟรงก์ บอริน ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ตลกผสมสยองขวัญสไตล์แวมไพร์ในปี 1987 เรื่อง “The Lost Boys” (อันมีชื่อไทยว่า “ตื่นแล้วตายยาก”) กำกับโดย โจเอล ชูมาเกอร์ และนำแสดงโดย โครีย์ เฮม, เจสัน แพทริก และ คีเฟอร์ ซูเธอร์แลนด์ เล่าเรื่องของ สองพี่น้องวัยรุ่น แซม (โครีย์ เฮม) และไมเคิล (เจสัน แพทริก) ที่ตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่เมืองเล็กๆอย่างซานตาคลาราในแคลิฟอร์เนีย (ถิ่นเดียวกันกับ Incubus) ทุกอย่างดูเหมือนจะปกติ จนกระทั่งไมเคิลไปเจอและผูกมิตรกับแก๊งวัยรุ่นสุดเท่ในเมืองเพื่อขอเป็นเพื่อน โดยหารู้ไม่ว่า พวกเขาคือบรรดาแวมไพร์ที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้มานานแสนนาน !!!

นอกจากปล่อยซิงเกิลนี้แล้ว Incubus ยังเตรียมตัวที่จะออกทัวร์ฉลองครบรอบ 20 ปีอัลบั้ม “Make Yourself” สตูดิโออัลบั้มลำดับที่สามที่ออกในปี 1999 ที่มีซิงเกิลฮิตอย่าง “Drive,” “Pardon Me” และ “Stellar” ที่ทำให้พวกเขาเป็นที่จดจำมาจนถึงทุกวันนี้ โดยคอนเสิร์ตจะมีขึ้นในหลายเมืองทั่วอเมริกายาวไปตั้งแต่เดือนกันยาจนถึงธันวา ส่วนปีหน้าจะมีเวิลด์ทัวร์มั้ย และจะมาเล่นที่ไทยอีกหรือเปล่า ก็เตรียมรอลุ้นกันไว้เลยครับ

Play video

 

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส