[รีวิว] มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง: โจ๊ก โซคูล ตัวแบกหนัง
Our score
7.5

มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง

จุดเด่น

  1. โจ๊ก กับ รัศมีแข โคตรฮาเลย
  2. นน กับ เก้า ออร่าส่องสว่างมาก
  3. ฉากตลกเยอะ

จุดสังเกต

  1. บทเป็นจุดอ่อนเลย โครงเรื่องไม่ยาก แต่ทำตัวให้ยากจนทำลายตัวเอง
  2. นักแสดงเล่นแบบเด่นเป็นคน ๆ ไป ไม่ค่อยทำงานเป็นทีม
  • ความสมบูรณ์ของบท

    6.5

  • คุณภาพนักแสดง

    7.5

  • คุณภาพงานสร้าง

    7.0

  • ความสนุก ตลก บันเทิง

    9.0

  • คุ้มเวลา ค่าตั๋ว

    7.5

สนับสนุนข้อมูลโดย Major Cineplex

เรื่องย่อ ชานน สันตินธรกุล รับบทเป็น ดื้อ เด็กหนุ่มที่คอยกันท่าไม่ให้ใครมาจีบ หลิน (เก้า สุภัสสรา) น้าสาว เขาคอยกันท่ามาตั้งแต่หลินอยู่มัธยม จนหลินเข้ามาทำงานในโรงพยาบาล ที่นั่น ดื้อ จะต้องคอยรับมือกับคุณหมอ คนไข้ และหนุ่มสุดหล่อ ที่คอยเข้ามาจีบหลิน ภารกิจกันท่าสุดฮาจึงเกิดขึ้น

Play video

ผลงานจากค่าย รฤก ที่มีโต้โผใหญ่อย่าง ยอร์ช ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์ ดูแล แม้ผลงานฝีมือของยอร์ชโดยตรงจะนานมาแล้ว แต่ผลงานของค่ายเองก็ยังไม่ห่างหายเลิกราจากวงการหนังไทย และยังผลิตหนังอารมณ์ดีออกมาสู่ตลาดสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะ แสบสนิทศิษย์ส่ายหน้า หรือ สุดเขตเสลดเป็ด และล่าสุดที่เพิ่งออกโรงไปไม่นานอย่าง ไบค์แมนศักรินทร์ตูดหมึก ด้วย ดูผลงานก็พอจับทางได้เลยว่า มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง หนังเรื่องล่าสุดจะมาแบบเอาฮาเน้นตัวละคร เน้นพลอต เน้นสถานการณ์มากขนาดไหน และคงเป็นแนวซิตคอมที่แฝงดราม่าเรื่องราวความสัมพันธ์ ผ่านคนแปลก ๆ อีกเช่นเคย

ซึ่งในครั้งนี้ คนแปลก ๆ ของเรื่องก็คือ ดื้อ (นน – ชานน สันตินธรกุล ) เด็กที่หวงน้าสาวอย่าง หลิน (เก้า – สุภัสสรา ธนชาต) เกินปกติมนุษย์ ในขณะที่ฝั่งคนที่มาจีบน้าก็ทะยานความแปลกได้สูสีกับดื้อสุด ๆ เพราะได้ดาราหน้าทะเล้นอย่าง พี่แมน (โจ๊ก โซคูล – กรภพ จันทร์เจริญ) มาติดหนึบเกาะแกะไม่เลิกทีเดียว และก็ไม่ใช่แค่พี่แมนเท่านั้นเพราะยังมีทั้งหมอหนุ่มสุดเพียบพร้อมที่น้าหลินแอบปลื้ม ตลอดจน เกม (บลู – พงศ์ทิวัตถ์ ตั้งวันเจริญ) เด็กหนุ่มรุ่นน้องที่มาติดใจน้าสาวของดื้อจนออกนอกหน้าเข้าไปอีก

มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง

เก้า กับ บลู

งานนี้ยังเป็นผลงานกำกับของ เค – ไชยณรงค์ แต้มพงษ์ ผู้กำกับสายหวานที่เคยมีหนังอย่าง เลิฟ จุลินทรีย์ รักมันใหญ่มาก แต่ผลงานที่ผ่านตาทุกคนมากสุดคงเป็นการกำกับเอ็มวีเพลง คุกกี้เสี่ยงทาย (Koisuru Fortune Cookie) ของวง BNK48 นั่นเอง

จากที่ดูหนังตลอดเรื่องสิ่งที่รู้สึกแรง ๆ และยิ่งรู้สึกมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็คือ หนังคิดมาบนโจทย์ที่เน้นใส่สถานการณ์ตลกให้มากที่สุด โครงเรื่องวางไว้แบบไม่ต้องซับซ้อนมาก การบิ้วการคลี่คลายเรียกว่าคิดไว้ล่วงหน้าเรียบร้อย แทบไม่สนใจการขับดันจากตัวละครหรือกราฟอารมณ์เลย หนังจึงออกมาแบบไม่สุดไม่อิ่มเท่าไร

ส่วนที่ชอบของหนัง คือ ความฮานั่นล่ะ ฉากฮาแบบฮาเกิ้นฮาหัวสั่นท้องคัดท้องแข็งมีแน่นอน แป้กมีมั้ยก็มีล่ะ ธรรมดาหนังตลก แต่อันที่ฮามันก็ฮาจริง ๆ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าปัจจัยสำคัญในความฮาทั้งหลายที่เกิดขึ้นมาจากความสามารถเฉพาะตัวของนักแสดงอย่าง โจ๊ก โซคูล และ รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น ล้วน ๆ ที่ฮาจากสถานการณ์แบบซิตคอมนั้นก็มีส่วน แต่มันฮามากขึ้นเพราะสองคนนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับจริง ๆ การแสดงของนักแสดงต่าง ๆ ก็ต้องบอกว่าทำได้ไม่น่าเกลียด แม้บทจะไม่ได้ส่งไม่ได้ช่วยเลย แต่พวกเขาก็เอาตัวรอดในฉากที่ต้องชี้ขาดคะแนนให้ตัวเองได้ดี ไม่ว่าจะ นน เก้า ตลอดจนนักแสดงสมทบทั้งหลาย ฉากที่พีคทางอารมณ์จนเราพลิกผลให้ นน สอบผ่านเอาตัวรอดได้จากเรื่องนี้คือฉากที่สนามบินในช่วงท้ายของหนัง ฉากนี้ฉากเดียวจริง ๆ ที่รู้สึกว่าตัวละครนี้มีชีวิต เพราะตลอดเรื่องมันเล่นอยู่มิติเดียวแบบไร้เหตุผลด้วยสิ ในขณะที่เก้าเองก็พยายามช่วยหนัง ใส่พลังจนล้านซีน จากหวังดีลายเป็นส่งผลเสียไปแทน แต่สิ่งที่ชดเชยให้เธอสอบผ่านสบาย ๆ คือเสน่ห์ที่ฉายแสงมาก ๆ ของเธอ

มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทองมิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง

ส่วนที่ไม่ชอบเท่าไหร่ของหนัง มีตั้งแต่จังหวะการเล่นมุกตลกต่าง ๆ ที่เหมือนจับนักแสดงใส่ฉากเอาบทใส่ปาก ไม่ได้สนใจการปรับจูนเคมีนักแสดงให้เข้าขาพอดีกัน กลายเป็นต่างคนต่างเล่น ต่างคนต่างล้น จนคุมจังหวะไม่ได้ แล้วก็ต้องอาศัยฉากอินเสิร์ตมาปรับจังหวะช่วยเอา ซึ่งก็กลายเป็นว่าการตัดต่อไม่เป็นธรรมชาติดูขาด ๆ เกิน ๆ ไปหมดแทนด้วย ตรงนี้จึงเป็นจุดที่สงสารนักแสดงเก่ง ๆ หลายคนพอสมควร เพราะบทไม่ส่งไม่ช่วยไม่ว่า การกำกับการแสดงยังไม่ส่งเสริมอีก

มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง

เสียงซี้ดซ้าดจากฉากแบบนี้มีให้ได้ยินตลอดเรื่อง

ตรงนี้ยังสะท้อนไปเรื่องที่เกริ่นไปก่อนด้วยว่าหนังวางโครงไว้แบบไม่ได้สนใจว่าระหว่างทางหนังกระทำอะไรไปแล้วบ้าง ยังคงควรจบหรือพลิกแบบที่วางแผนไว้เดิมหรือไม่ เพราะมันไม่รอกราฟอารมณ์ใด ๆ เมื่อถึงเวลาตามบทมันก็จะเศร้าจะซึ้ง (โดยที่คนดูอาจยังไม่รู้สึก) ซ้ำไม่พอ เมื่อถึงเวลาสมควรมันก็หักอารมณ์เปลี่ยนความคิดตัวละครแบบไม่ต้องให้ที่มาที่ไปมากพออย่างที่ควรเป็น มันเลยเป็นโครงที่วางแบบคร่าว ๆแล้วหัวใจของหนังจริง ๆ ก็กลับหัวกลับหางไปเป็นเรื่องฉากตลกมุกตลกทั้งหลายเสียแทน คือถ้าคุณมาเพื่อเสพความตลกขบขันไม่สนอีร้าค้าอีรมใด ๆ ในเนื้อเรื่อง มันตอบโจทย์คุณมาก แต่ถ้าคุณเป็นพวกหงุดหงิดง่ายกับความไม่สมเหตุสมผลของเนื้อเรื่อง การเล่าแบบขอไปที เล่าแบบอยากเล่าอะไรก็เล่า แล้วล่ะก็ ให้มันตลกบันเทิงยังไงคุณก็จะตะหงิดใจ คาใจไปตลอดเรื่องจนไม่เอ็นจอยเท่าที่ควร ที่สำคัญที่สุดที่เป็นจุดอ่อนของหนังในเรื่องนี้ ก็คือเรื่องแรงจูงใจเป้าหมายของพระเอกที่ไม่มีฐานอะไรเลย จนเราไม่เข้าใจพระเอก แม้ในตอนท้ายจะพยายามยัดสถานการณ์ให้เข้าตามพลอตแบบโคตรไม่เนียนมาช่วย กระนั้นเราก็ยังรู้สึกว่าไม่อาจอินไปกับความคิดของพระเอกได้เลย และที่หนักกว่านั้นคือความคิดอ่านของนางเอกในตอนจบของหนังนั่นล่ะ อะไรของพวกคุณ งงว้อย!

มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง

สีหน้าผู้เขียนตอนที่รู้ว่าหนังจะเล่าเรื่องเอาแบบนี้เลย

เน้นฮาต้องมาเรื่องนี้เลย กดรูปด้านล่างสิ

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส