[รีวิวละคร] ทิวาซ่อนดาว : ละครอารมณ์ดีที่บ๊องนิด ๆ ขำหน่อย ๆ

Our score

7.6

จุดเด่น

เป็นละครเบาสมองที่ดูได้ทั้งครอบครัว
บทเบา ๆ หลวม ๆ ซึ่งเทียบกับแนวละครแล้วก็เข้าใจได้
คอสตูมดี โดยเฉพาะเมคอัพดูเป็นธรรมชาติ สมบทบาท

จุดสังเกต

ขัดใจกับ CG ในแต่ละฉากที่หลอกตามาก ๆ

ความสมบูรณ์ของบท

6.5
คุณภาพนักแสดง

8.5
คุณภาพงานสร้าง

6.5
ความสนุก

8.0
คุ้มเวลาในการรับชม

8.5

หลังจากที่แฟน ๆ ละครต่างก็ฟินกับฉากจบของ ลิขิตแห่งจันทร์ กันไปแล้วในฉากเข้าพระเจ้านางของ เพื่อน–คณิน กับ น้ำตาล–พิจักขณา ช่อง 3 ก็ไม่ปล่อยให้แฟนคลับต้องคิดถึงเพื่อนคณินกันนานนัก ปล่อย ทิวาซ่อนดาว มาออนแอร์ต่อกันทันที ชนิดที่ไม่มีช่องว่างให้คิดถึงกันเลยเชียว

จากบทบาทของ “หลวงโอสถวรเวช” หมอหลวงที่สังกัดกรมหมอในโรงพระโอสถสมัยอยุธยา เปลี่ยนภาคมาเป็น “ทิวา” ทายาทเศรษฐีพลัดถิ่น ที่ไม่รู้มาก่อนว่าตนเองนั้นเป็นลูกคนรวย อาศัยอยู่ในถ้ำ ผมยาวอย่างกับลูกทาร์ซาน จับปลาเก่ง ดำน้ำอึดประหนึ่งมัจฉานุกลับชาติมาเกิด ไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับโลกภายนอก ชำนาญแต่เรื่องป่าเขาลำเนาถ้ำแถมยังคุยกับสัตว์รู้เรื่องเป็นตุเป็นตะ

ทิวา-เพื่อน คณิณ

อยู่ถ้ำก็ยังเท่ได้อีก

หน้าหนังโฆษณาไว้ว่า

“เรื่องราวผจญภัยสุดโรแมนติกของสาวสวยผู้ทะเยอทะยานกับหนุ่มทายาทเศรษฐีพลัดถิ่น ที่ชะตาชีวิตบันดาลให้มาพบกันบนเกาะกลางทะเล…”

ทิวาซ่อนดาว

แต่ผ่านมา 4ep แล้ว ก็ยังไม่เห็นการผจญภัยสุดโรแมนติกชัดเจนขนาดนั้น อาหารจานหลักที่ละครเสิร์ฟให้คนดูกลับเทน้ำหนักไปที่ความป่วนความฮาของตัวละครซะมากกว่า ถ้าจะถามว่าโครงเรื่องเป็นละครแนวไหน ก็โรแมนติก-คอมเมดี้ที่แอบผจญภัยไว้แนบท้ายนั่นแหละ แต่เป็นคอมเมดี้เล็ก ๆ ที่ขำเบา ๆ ได้ตลอดทั้งเรื่องกับแต่ละบทบาทของตัวละครแต่ละตัว มากกว่าจะเป็นคอมเมดี้ที่ขำก๊ากท้องคัดท้องแข็ง ส่วนไอ้เรื่องผจญภัยนั้นถือเป็นของแถมสร้างสีสันให้เห็นสภาพสะบักสะบอมของพระนางกับชะตาชีวิตที่ตลกร้าย

จากคุณหลวงมาเป็นหนุ่มชาวเกาะ

เพื่อน-คณิน พลิกบทบาทจากพี่หมอตาตี่มารับบทเป็น ทิวา ทายาทมหาเศรษฐีที่โชคชะตาเล่นตลกทำให้ต้องมาเป็นเด็กติดเกาะ นอนถ้ำ สะพายหน้าไม้ เติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูของชายปัญญานิ่มอย่างน้าเม่น (โก๊ะตี๋ อารามบอย)ที่สอนให้เขาอ่าน เขียน และรู้จักสิ่งสารพัดที่ในโลกนี้พึงมีจากหนังสือเพียงไม่กี่เล่ม

น้าเม่น-โก๊ะตี๋ อารามบอย

ทิวาเชื่อฟังคำสั่งสอนของน้าเม่นทุกอย่าง “ห้ามไปที่หมู่บ้านนะ ที่นั่นมีแต่คนใจร้าย”…….ต้องนอนเวลานี้ ต้องกินข้าวเวลานั้น ทิวาก็เชื่อฟังและทำตามที่น้าเม่นสั่งอย่างเคร่งครัด แต่แล้ววันหนึ่งน้าเม่นก็หายไป ทิวาไม่รู้หรอกน้าเม่นไปไหนทำไมไม่มาเหมือนเคย แต่คนดูรู้ค่ะเพราะเห็นกับตาเลยว่าหัวฟาดกาบเรือตกทะเลไป เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่ทราบได้ ซึ่งคาดว่าน่าจะซี้ม่องเท่งไปแล้วนั่นแหละ

น้าเม่นหายไปก็แลกกับการมาของหญิงสาวคนหนึ่งที่ทิวาไปช่วยชีวิตไว้นั่นก็คือนางเอกของเรื่อง ชิปปี้-ศิรินทร์ ปรีดียานนท์ รับบทเป็น ชมดาว สาวสวยผู้มีความทะเยอะทะยาน อยากรวย อยากเปลี่ยนชีวิตจากหลานสาวคนใช้ในบ้านของ คุณนายโนรี (อ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์) ไปมีชีวิตที่ดีของตัวเอง ซึ่งทิวาเรียกเธอว่า เจ้าหญิง

เรียนเก่ง ขยันทำงานทั้งงานในบ้านและเป็นแม่ค้าออนไลน์ ฉลาดมีไหวพริบ บทปูมาให้นางเอกเป็นคนที่ถึก อึด ทน จนทำให้เราเห็นฉากที่เธอลากพระเอกที่หมดสติไปบนเปลไม้ไผ่ได้อย่าง….ถูลู่ถูกัง

ถึกกว่านี้ก็วันเดอร์วูเมนแล้วละจ้ะ

ชิปปี้ สะเทินน้ำ -ทิวาซ่อนดาว

ชิปปี้ สะเทินบก -ทิวาซ่อนดาว

ไม่มีนะคะที่จะเป็นนางเอกหน่อมแน้ม ร้องกรี๊ดและหวาดกลัวจนเกินไปกับสิ่งที่พบเจออยู่ตรงหน้า เราจะเห็นแต่นางเอกที่รับมือกับปัญหาเฉพาะหน้าได้ทุกสถาณการณ์ ใจสู้และที่สำคัญมีความเพี้ยนเบา ๆ แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วสำหรับละครเรื่องนี้ ดิฉันว่าเพี้ยนกันทั้งเรื่องก็ว่าได้ ผู้นำความเพี้ยนก็เริ่มมาตั้งแต่ อ๋อม-สกาวใจ ในบท คุณนายโนรี คุณนายตกอับที่เอาเงินหลานคนใช้ไปใช้หนี้ที่ตัวเองก่อไว้หน้าตาเฉย โดยมีมือขวาช่วยขโมยเงินหลานไปให้คุณนาย คือป้าลัดดา (ขวัญฤดี กลมกล่อม) ป้าแท้ ๆ ของชมดาวเอง เป็นป้ายังไงมาเอาเงินหลานไปให้คนอื่นซะงั้นน่ะ …. ตามมาด้วยลูก ๆ ของคุณนายอีกสามคนที่ คนหนึ่งก็ไม่ฉลาด คนหนึ่งก็ขี้เกียจ อีกคนหนึ่งก็แก่แดดเกินเด็ก ไม่มีใครปกติสักคนนึงเลยอ่ะในครอบครัวนี้

ในความเพี้ยนมีความน่ากลัวซ่อนอยู่

วันหนึ่ง คุณนายโนรีอยากจะหาทางใช้หนี้ด้วยการยกลูกสาวคนโตของตัวเองให้แต่งงานกับลูกชายเพื่อน ทำให้ชมดาวต้องวางแผนช่วยเหลือจนทำให้ได้มาพบกับ ภราดา (แม็ค-วีรคณิศร์ กานต์วัฒนกุล)ลูกชายของพิศมร (พิม-พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) กับ คุณภากร (โด่ง-สิทธิพร นิยม) เจ้าของบ้านแสงตะวันและบริษัทนำเข้าเรือยอร์ชที่ภูเก็ต อีตาภารดานี่แหละ ตัวน่ากลัวเบอร์ต้น ๆ ของเรื่อง เพราะมีความเป็นซาดิสม์จนทำคนตายและเป็นสาเหตุที่ทำให้ดาวต้องพลัดตกหน้าผาจนเกือบจะเสียชีวิต โดยมีทรงภพ (น็อต-วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์) ผู้ดูแลผลประโยชน์ของตระกูลแสงตะวันเป็นคนเก็บกวาดเรื่องราวเลวร้ายให้โดยมี เสาร์ (ปู-นาตยา จันทร์รุ่ง) เป็นผู้ช่วยที่น่ากลัวอีกคน

กับบทของภารดา ถือว่าน้องแม็คนี่ฝีมือการแสดงใช้ได้เลยนะ เพราะมีความหื่น มีความโรคจิตส่งออกมาในแววตาท่าทาง ดูแล้วก็แอบกลัวอยู่นิด ๆ แต่ก็มีกระแสเข้าหูมาว่า สาว ๆ หลายคนก็อยากจะเป็นมาโซคิสม์ให้พ่อหนุ่มกล้ามแน่นนี่อยู่เหมือนกัน

ภราดา (แม็ค-วีรคณิศร์ กานต์วัฒนกุล)

แต่ภารดาก็มีความดีอยู่บ้างที่ทำให้พระเอกนางเอกเขาได้มาเจอกัน …. เพราะทิวาเป็นคนไปช่วยชมดาวขึ้นมาจากทะเล ตอนแรกชมดาวคิดว่าทิวาเป็นพวกเดียวกับภารดา ที่ถูกจ้างมาให้จับตัวเองไว้ แต่ทำไปทำมาความซื่อซะเหลือเกินของทิวาก็ทำให้ชมดาวรู้ว่าตัวเองนั้น คิดผิด ก็ถ้าจะซื่อซะจนตาหยีขนาดนี้ คงจะจับใครเป็นตัวประกันไม่ได้ละมั้ง

เพื่อน-ชิปปี้ ทิวาซ่อนดาว

นอกจากความซื่อเดียงสาที่ทิวามีแล้ว ทิวายังสามารถคุยกับลิงอย่าง พี่น้ำหวาน รู้เรื่องอีกด้วย

พี่น้ำหวาน-ทิวาซ่อนดาว

ชมดาวพยายามหาทางเกลี้ยกล่อมให้ทิวาพาออกจากเกาะ แต่ทิวาก็ยืนยันเสียงแข็งว่า “น้าเม่นไม่ให้ทิวาไปไหนครับ ถ้าทิวาไปไหนน้าเม่นจะโป้งครับ” จนปัญญาที่ชมดาวจะร้องขอ แต่ก็มาฮึดได้อีกครั้งเมื่อชมดาวมาพบความจริงที่ว่า ทิวาคือทายาทมหาเศรษฐีที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้วตั้งแต่ยังเด็ก นางก็คิดแผนการจะมอมทิวาด้วยเห็ดเมาเพื่อลากขึ้นแพออกไปจากเกาะ แต่ความเพี้ยนของละครทำให้ชมดาวกินเห็ดเมานั่นซะเอง ทำไปทำมาก็พาทิวาออกจากเกาะมาได้เพราะคนร้ายมาจับตัวนางไปแล้วทิวามาช่วยชีวิต (งานนี้ใครพาใครออกจากเกาะกันแน่ก็ยังงงอยู่)

แต่ที่แน่ ๆ ชมดาวมีแผนจะทำให้ทิวาได้กลับคืนสู่สถานะเดิม ไม่รู้ด้วยวิธีไหนแต่ก็คงจะทำได้สักวิธีหนึ่ง สิ่งที่ชมดาวคิดคือคิดว่านั่นเป็นหนทางที่ดีที่สุด ทิวาจะมีอนาคตที่ดีขึ้นไม่ต้องมาอยู่ถ้ำเป็นคนซื่อ เป็นนายทึ่มที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ เรื่องยุ่ง ๆ ที่น่าจะยุ่งมากขึ้นกำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้อีกแน่ ๆ เรื่องราวผจญภัยที่เข้มข้นขึ้นอาจจะมาจากเหตุการณ์หลังจากนี้ก็เป็นได้

พ่อแม่ของทิวาตายด้วยน้ำมือโจรที่ปล้นบ้านจริงหรือ?

นายภารดาจอมซาดิสม์จะก่อเรื่องอะไรอีก?

Play video

ทิวาซ่อนดาว ผลงานเรื่องแรกของผู้จัดสายเฮลท์ตี้ สตางค์–ดิษย์ลดา ดิษยนันทน์ กัลย์จาฤก ที่นอกจากจะเป็นเจ้าของ Tone Box ฟิตเนสหรูใจกลางกรุงเทพฯ แล้ว ก็ยังเป็นลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้นอีกด้วย

ดูได้ค่ะ ละครเบา ๆ เวลาเครียด ๆ มานั่งดูเลยไม่ต้องคิดอะไรค่ะ ปล่อยจิตปล่อยใจไปกับความป่วงของละครได้เลย เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี เพลิน ๆ ขำ ๆ ไม่หวือหวาแต่ก็ไม่น่าเบื่อ เหมาะกับวันพักผ่อน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์จริง ๆ เลย

ออกอากาศทุกวันศุกร์–อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3