ซีรีส์ออริจินัลของ Netflix ผลงานของ Mindy Kaling นักเขียนและนักแสดงตลก​สายเลือด​อินเดีย​​ เล่าเรื่องราวของ เดวี่ สาวน้อยอินเดียอเมริกันที่อยากเปลี่ยนชีวิตตัวเองหลังจากผ่านเรื่องราวโศกเศร้าให้กลายเป็นสาวเจ๋งสุดคูล เริด ๆ เชิด ๆ ด้วยความคิดที่อยากจะซั่มกับหนุ่มหล่อสุดฮอตของโรงเรียน เป็นภารกิจเสียตัวของเด็กเรียนเนิร์ด ๆ ที่ไม่เค้ยไม่เคยจะทำอะไรมากกว่าการเรียนและอ่านหนังสือ แต่ภารกิจนี้ช่างยากเย็น เพราะทั้งเพื่อน ครอบครัว และความรู้สึกในใจกลับกลายเป็นอุปสรรค

Never have i ever

Never have i ever

 

ถ้าอ่านจากเรื่องย่อสั้น ๆ หลายคนอาจคิดว่า นี่คงเป็นซีรีส์วัยรุ่นอเมริกันที่แซบเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดและมีมุกตลกเกลื่อนกลาดแบบซีรีส์อเมริกันทั่วไปละสิ ก็นางเอกดันมีเป้าหมายว่าอยากจะซั่มกับหนุ่มหล่อซะงั้นน่ะ แต่ไม่ใช่เลยค่ะ ซีรีส์เรื่องนี้กลับกลายเป็นดราม่าคอมเมดี้ที่ซ่อนดราม่าหนัก ๆ ไว้ภายในอย่างแนบเนียน แถมซ่อนได้น่ารักน่าดูซะด้วยสิ ซีรีส์มี 10 ตอนและเป็นตอนสั้น ๆ เพียงตอนละ 28-30 นาที ในแต่ละตอนจะขึ้นต้นด้วย Never Have I Ever …… ก็ฉันไม่เคย (ไม่เคยทำอะไรบ้างก็ว่ากันไป) 

เดวี่ วิศวกุมาร (Maitreyi Ramakrishnan)

เดวี่ วิศวกุมาร (Maitreyi Ramakrishnan)

ครอบครัวของ เดวี่ วิศวกุมาร (Maitreyi Ramakrishnan) ย้ายมาอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่ปี 2001 เดวี่จึงเป็นสาวน้อยอิเดียอเมริกันวัย 15 ที่มีความเป็นอเมริกันมากกว่าพ่อและแม่ ที่ยังยึดขนบแบบชาวฮินดูอย่างเหนียวแน่น ก็ธรรมดาอ่ะเนอะเพราะเธออยู่ที่นี่ตั้งแต่เด็ก ๆ คำพูดคำจาก็จะห่าม ๆ แบบเด็กวัยรุ่นอเมริกันทั่วไป เดวี่มีจุดบอดในใจอยู่เรื่องหนึ่งก็คือ พ่อของเธอเสียชีวิตกลางงานแสดงดนตรีของเธออย่างกะทันหัน เหตุการณ์นั้นทำให้เธอเสียใจหนักแบบไม่รู้ตัวจนเป็นเหตุให้อยู่ ๆ เธอก็เดินไม่ได้ไปซะงั้น แต่อยู่ ๆ ก็มีสิ่งหนึ่งทำให้เธอลุกขึ้นมายืนได้แบบไม่รู้ตัวและแน่นอนค่ะว่าสิ่งนั้นคือ ผู้ชาย (ซะงั้นน่ะ) ระหว่างนั่งรถเข็นอยู่สายตานางก็ไปเห็นผู้จ้ะและผู้คนนั้นคือ แพ็กตั้น (Darren Barnet) หนุ่มนักกีฬาสุดฮอตประจำโรงเรียน หลังจากที่กลับมาเดินได้เธอก็ตั้งเป้าว่า เอาละฉันจะเปลี่ยนตัวเองมาเป็นสาวสวยที่เฉิดฉายและมี sax กับผู้ชายแบบสาว ๆ คนอื่น ๆ เขามั่งแล้ว คิดไม่คิดเปล่าเดมี่ยังชวนเพื่อนซี้ต่างสัญชาติอย่าง อีลีเนอร์ หว่อง (Ramona Young) และ ฟาร์บิโอล่า(Lee Rodriguez )มาร่วมภารกิจนี้ด้วย “ขึ้นม.4. คราวนี้พวกเราจะมีแฟนกันทุกคน” เธอว่างี้

Never have i ever

Never have i ever

แพ็กตั้น (Darren Barnet )

แพ็กตั้น (Darren Barnet )

 

 

เนื้อหาของเรื่องซ่อนปมไว้อย่างแนบเนียนละลื่นไหล

ปมที่ว่าไม่ใช่ปมที่ต้องคาดเดาอะไรเลยแต่มันเป็นปมในใจที่ล้อไปกับเรื่องราวน่ารัก ๆ ของเด็กสาวอายุ 15 กับบรรดาแม่ ๆ และครอบครัวของแต่ละตัวละคร เนื้อเรื่องถูกคลุมไว้ด้วยความน่ารักสดใสของสาวแรกรุ่นที่อยากจะมีประสบการณ์รักแบบไร้การผูกมัดครั้งแรกกับหนุ่มที่ตัวเองแอบปิ๊ง ก็จะมีอุปสรรคนั่นนี่ มีเรื่องราวของการถูกเพื่อนล้อ มีบรรยากาศของมิตรภาพระหวางเพื่อนสนิทและเพื่อนที่ไม่อยากสนิทอย่าง เบน (Jaren Lewison) เพื่อนชายที่เป็นไม้เบื่อไม้เมา เป็นคู่แข่งทางวิชาการ ซึ่งแต่ละคนจะมีปัญหาของตัวเองและเป็นปัญหาของวัยรุ่นที่บางครั้งผู้ใหญ่อาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันไม่น้อยเลยสำหรับความรูสึกของเด็กวัยนี้

จริง ๆ แล้วดราม่าที่ซ่อนอยู่ในซีรีส์เรื่องนี้ถือเป็นดราม่าที่หนักนะคะ สามารถเอาพล็อตแบบนี้มาทำดราม่าหนัก ๆ ได้อีกเรื่องเลยแหละ เพราะเนื้อหาแท้ ๆ ของซีรีส์เล่นกับความรู้สึกภายในใจที่ไม่สามารถจัดการได้ด้วยตัวเองตามลำพัง ทุกคนจึงต้องมีเพื่อนและครอบครัวไว้จัดการกับปัญหาต่าง ๆ แต่การนำเสนอของซีรีส์กลับทำให้เรื่องเหล่านั้นเบาบางลงได้ด้วยบรรยากาศของคำว่า มิตรภาพใส ๆ ของเหล่าวัยรุ่น มุกตลกที่แทรกเข้ามาประปรายไม่ได้ฮาก๊าก แต่ทำให้ยิ้มเรื่อย ๆ กับความอยากจะเป็นสาวก๋ากั่นแต่เนื้อแท้เป็นสาวคงแก่เรียนของนางเอก

เบน (Jaren Lewison)

เบน (Jaren Lewison)

การดำเนินเรื่องด้วยเสียงบรรยายของนักกีฬาคนดัง

เราจะได้ยินเสียงของ จอห์น แม็กเอนโร นักเทนนิสชื่อดังในตำนาน มาบรรยายความเป็น เดวี่ อย่างที่เราน่าจะทราบกันดีว่า จอห์น แม็กเอนโร เป็นตัวพ่อหัวร้อน บ่อยครั้งที่เขามักมีปากเสียงกับกรรมการและคู่แข่งในการแข่งขันอยู่เรื่อย ๆ จนชื่อเสียของเกือบจะแซงหน้าชื่อเสียงไปแบบหวุดหวิด ซึ่งซีรีส์ก็เล่นกับสัญลักษณ์ทางด้านอุปนิสัยภายนอกเพราะ เดวี่ ก็เป็นวัยรุ่นหัวร้อนพอ ๆ กับจอห์นนี่แหละ ตลอดการดำเนินเรื่องเราจะได้ยินเสียงของจอห์นพูดถึงเดวี่ในลักษณะของการบรรยายแบบสารคดีชีวิต สลับไปกับการใช้ชีวิตและการตัดสินใจของเดวี่ในแต่ละฉาก ก็เป็นบรรยากาศที่แปลกไปอีกแบบค่ะที่ซีรีส์เลือกใช้สื่อสัญลักษณ์ทำนองนี้ ถึงจะไม่ได้แปลกใหม่อะไรนักแต่ในด้านของการแสดงตัวตนของตัวแสดงแล้ว ถือว่าเป็นสื่อสัญลักษณ์ที่น่ารักแล้วก็เข้าใจเล่นเอามาก ๆ ทำให้ซีรีส์มีความน่าสนใจและดึงคนดูให้ติดตามอย่างง่าย ๆ

เดวี่ สาวน้อยหัวร้อน

เดวี่ สาวน้อยหัวร้อน

เนื้อเรื่องไม่หวือหวาแต่มีความน่ารักแบบผสมผสาน

พล็อตเรื่องง่าย ๆ ไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องราวของก็วัยรุ่นอเมริกันทั่ว ๆ ไปที่เรามักจะเห็นจนชินตาอยู่แล้วในซีรีส์ทำนองเดียวกัน แต่ความแตกต่างของเรื่องนี้มันอยู่ที่ความซอฟต์และความผสมผสานสองวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน ซีรีส์เล่าถึงวิถีชีวิตของชาวฮินดูในอเมริกา ที่พวกเขายังไม่ทิ้งรากวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี เราจะได้เห็นความเป็นสาวสมัยใหม่ของ กมลา (Richa Moorjani ) ญาติสาวของเดวี่ที่ยอมให้พ่อ-แม่เลือกคู่ครองให้หรือก็คือคลุมถุงชนนั่นเอง เห็นการเลี้ยงดูของครอบครัวอินเดียที่แตกต่างจากครอบครัวอเมริกันทั่วไป ความเป็นหัวสมัยใหม่ของเดวี่กับความหัวเก่าของแม่ ความต่างของสตรีสองวัยที่ต้องรับมือกับการบาดเจ็บภายในใจจากการสูญเสียเสาหลักของครอบครัวเหมือน ๆ กัน

กมลากับแม่ของเดวี่

กมลากับแม่ของเดวี่

อยู่ต่างถิ่นแต่รากเหง้ายังคงเดิม

อยู่ต่างถิ่นแต่รากเหง้ายังคงเดิม

 

ถึงซีรีส์จะเน้นหนักไปที่ชีวิตของเดวี่และความสูญเสียที่เป็นแผลลึกภายในใจที่ปลดปล่อยไม่ได้ แต่การกระจายความสำคัญกลับสามารถทำได้เท่าเทียมทำให้ตัวละครอื่น ๆ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวละครสมทบ แต่ทุกตัวละครมีบทบาทของตัวเองแตกต่างกันไปอย่างน่าสนใจและน่าติดตาม ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่อง LGBT ที่ไม่ได้โฉ่งฉ่างแต่กลับเล่าให้กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ความฝันที่ต้องเอาชนะใจตนเองของเพื่อนสาวชาวจีน หรือการนำเสนอตัวละครที่เป็นดาวน์ซินโดรมอย่าง รีเบคก้า (Lily D. Moore ) น้องสาวของแพ็กตั้น บทนี้ลิลลี่เล่นได้ดีมาก ๆ สมแล้วที่เป็นนักแสดงดาวน์ซินโดรมที่มีผลงานมาแล้วหลายแขนง ทั้งเดินแบบ แสดงภาพยนตร์ มาเล่นเรื่องนี้ถึงจะออกมาไม่กี่ฉากแต่ก็ทำให้ยอมรับเลยว่าความดาวน์ไม่อาจหยุดพรสวรรค์ของเธอได้จริง ๆ

Lily D. Moore รับบท รีเบคก้า

Lily D. Moore รับบท รีเบคก้า

มีการจิกกัดเบา ๆ ตลอดการดำเนินเรื่อง

ตัวชูโรงของเรื่องนี้จะอยู่ที่เดวี่และเพื่อนสาวทั้งสองของเธอที่เป็นประชากรต่างเชื้อชาติในอเมริกา กับมุมที่ว่าเด็กพวกนี้เป็นคนรุ่นใหม่ที่ต่างไปจากวัยรุ่นอเมริกันปกติ เด็ก ๆ เป็นกลุ่มเด็กเนิร์ดที่ใช้ชีวิตอย่างอเมริกันชนทั่วไปและคิดว่าตนคืออเมริกันคนหนึ่ง แต่ครอบครัวกลับภูมิใจในชาติกำเนิด มีการจิกกัดสังคมผ่านความหัวร้อนและฝีปากที่จัดจ้านของเดวี่อยู่ตลอดเวลา เดวี่นี่วัน ๆ ก็มีแต่เรื่องนะคะ ไหนจะเรื่องตัวเองที่ออกจากโซนพ่อตายไม่ได้จนมีปัญหาทะเลาะกับแม่ เรื่องที่ต้องการเป็นที่ยอมรับแบบสาวอเมริกันจากชายหนุ่มจนทะเลาะกับเพื่อน ทะเลาะกับคู่ปรับ ถึงซีรีส์จะถูกฉาบไปด้วยเรื่องวุ่น ๆ ปนฮา แบบวัยรุ่นอเมริกันธรรมดาแต่ก็แฝงไปด้วยการเสียดสีเบา ๆ พอกล้อมแกล้มและยังมีมุมโรแมนติกตามแบบฉบับของซีรีส์วัยรุ่นใส ๆ ที่มีจูบแรกกับผู้ชายถึงสองคน ว้ายยยย เดวี่แอบเปรี้ยวรึเปล่านะ ก็ต้องไปดูกันเองค่ะ

Play video

เป็นซีรีส์ที่ดูได้เรื่อย ๆ หอมกลิ่นเครื่องเทศเบา ๆ ดูเพลิน ๆ ไปยาว ๆ เผลอแปปเดียว ก็มาถึงตอนสุดท้ายซะแล้วแถมยังเรียกน้ำตาซึ้ง ๆ ได้อีกแล้วก็ไม่รู้ซะด้วยว่าจะให้ใครเป็นพระเอกดีระหว่างแพ็กตั้น หนุ่มหล่อที่เดวี่แอบปิ๊ง กับ เบน คู่แข่งตลอดกาลที่ทำท่าไม่อยากจะเป็นคู่แข่งแล้วซะงั้น

Never have i ever ภารกิจสาวซน ก็คนมันไม่เคย

  • ผลิตโดย : Mindy Kaling , Lang Fisher
  • ผู้จัดจำหน่าย : Netflix
  • ช่องทางรับชม : Netflix

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส