[รีวิวซีรีส์] Curon: ซีรีส์แนวลึกลับตัวแทนทีมชาติอิตาลี

Release Date

10/06/2020

สัญชาติ

อิตาลี

ความยาว

1 ซีซัน 7 ตอน

ปี

2020

[รีวิวซีรีส์] Curon: ซีรีส์แนวลึกลับตัวแทนทีมชาติอิตาลี
Our score
8.5

Curon

จุดเด่น

  1. สนุก ดูไม่ยากมาก มีความตื่นเต้นผสมปริศนากำลังดี บรรยากาศคุมโทนต่าง ๆ ของเรื่องได้ดี นักแสดงเก่ง บทสร้างความลึกของตัวละครและเรื่องราวได้ดี

จุดสังเกต

  1. จังหวะการเล่าในช่วงท้ายซีซันเหมือนจะรีบปิดบางประเด็นความสัมพันธ์ที่ปูมานานได้ไวไปหน่อย และทำให้การขยี้บางอารมณ์น้อยไป
  • บท

    8.0

  • นักแสดง

    8.5

  • โพรดักชัน

    9.0

  • ความสนุกตื่นเต้นลุ้นระทึก

    8.5

  • ความคุ้มค่าการรับชม

    8.5

เหมือนว่าทุกประเทศจะต้องมีซีรีส์แนวลึกลับซับซ้อนเป็นของตัวเองทางเน็ตฟลิกซ์ไปเสียแล้ว เพราะอะไรที่ขึ้นชื่อว่า ลึกลับ มักดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้โดยไม่ต้องทำอะไรมากเลย ไม่ว่าจะ Dark ของเยอรมัน Into the Night ของฝรั่งเศส หรือแม้แต่ซีรีส์เน็ตฟลิกซ์ไทยเรื่องดังอย่าง เคว้ง เองก็ตาม แล้วยิ่งไม่ต้องนับซีรีส์จากอังกฤษ อเมริกา หรือเกาหลีที่มีสไตล์ลึกลับหลากหลายเรื่องด้วย และสำหรับ Curon ก็เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่บรรยากาศลึกลับแบบตะวันตก มีดาราวัยรุ่นเป็นตัวนำ ทั้งมีฉากในถ้ำที่กลาย ๆ จะเป็นเอกลักษณ์ซีรีส์เน็ตฟลิกซ์แนว ๆ นี้ไปเสียแล้ว (ฮา) และอาจถือว่าเป็นตัวแทนจากฝั่งอิตาลีในหนังขนบเดียวกันด้วย

Curon พูดถึง คูรอน เมืองชนบทแห่งหนึ่งที่รายล้อมด้วยหุบเขาและมีทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่เบื้องหน้า ในทะเลสาบนั้นมีหอระฆังเก่าตั้งแต่ก่อนสงครามโลกยืนสงบโผล่พื้นน้ำขึ้นมาเพียงลำพัง ด้วยว่าในอดีตพื้นที่ด้านล่างนั้นเคยเป็นหมู่บ้าน แต่เพราะตระกูลผู้ปกครองอย่าง ไรน่า ได้ตัดสินใจให้ทำเขื่อนและใช้หมู่บ้านเป็นที่รับน้ำ จึงมีชาวบ้านแต่ดั้งเดิมไม่พอใจแอบเรียกพวกคนของไรน่าว่า คนบาปแห่งคูรอน และเช่นเดียวกับเมืองชนบทในหนังสยองขวัญอื่น ๆ คูรอนเต็มไปด้วยความเชื่อและพิธีกรรม เช่นการประดับเทียนและกางเขนทั่วหมู่บ้านเพื่อขับไล่เงา ประเพณีเผาแม่มดประจำปี หรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับหอระฆังที่แม้ไม่มีตัวระฆังแล้ว แต่หากผู้ใดได้ยินเสียงระฆังผู้นั้นจะต้องพบกับความตาย

เรื่องราวจะจับที่ครอบครัวตระกูลไรน่าในรุ่นปัจจุบัน เมื่อ แอนนา ที่หนีตามผู้ชายออกจากเมืองตั้งแต่สาวได้หนีสามีอารมณ์ร้อน หอบลูกแฝดไข่คนละใบที่โตเป็นวัยรุ่นอย่าง ดาเรีย และ เมาโร กลับมาขอพักพิงพ่ออย่าง โธมัส ที่ดูแลกิจการโรงแรมของตระกูลต่อเพียงลำพังหลังเสียภรรยาไป ทว่าโธมัสกลับไม่มีอาการดีใจที่ได้พบกับลูกสาวที่จากไปนาน เขารีบขับไล่ไสส่งห้ามครอบครัวของแอนนาอยู่ในคูรอนโดยปิดบังเหตุผลไว้ แต่แอนนาดื้อดึงจะอยู่ต่อ และการกลับมาครั้งนี้ก็ทำให้ฝันร้ายเกี่ยวกับวัยเด็กของแอนนาที่ไม่ปะติดปะต่อนักกลับมาชัดเจนอีกครั้ง ภาพของคนที่ยิงแม่ของเธอตายที่ค่อย ๆ หันกลับมามองเธอเป็นใบหน้าที่คุ้นเคย นั่นคือตัวเธอเองอีกคน แต่เป็นไปได้อย่างไรล่ะ!

แม้ปมปริศนาใหญ่ ๆ ของซีรีส์จะอยู่ในช่วงวัยเด็กของแอนนา แต่การขับเดินเรื่องในยุคปัจจุบันจะอยู่ที่ ดาเรีย และ เมาโร คนนอกของคูรอนโดยสมบูรณ์ที่แทนสายตาของผู้ชมด้วย พวกเขาจะเข้าไปพัวพันกับความวุ่นวายของกลุ่มเด็กไฮสคูลพร้อม ๆ กับที่ค่อย ๆ รับรู้ความแปลกประหลาดหลาย ๆ อย่างที่เข้ามาคุกคามผู้คนในคูรอนอีกครั้งหลังจากไม่มีเรื่องราวใหญ่อะไรนับตั้งแต่ครั้งที่แม่ของแอนนาตาย ในระลอกนี้ดูเหมือนทุกอย่างจะซับซ้อนและรุนแรงกว่าเดิมด้วย เมื่อเพื่อนบางคนได้ยินเสียงระฆัง และหลังจากนั้นก็เล่าว่าเริ่มเห็นตัวตนอีกร่างของตัวเองตามหลอกหลอน ก่อนจะนิสัยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ถ้านับความดูยากง่าย ต้องบอกว่า Curon เป็นซีรีส์ที่ดูไม่ยากมาก มีความซับซ้อนกำลังพอดี ปริศนาใหญ่ที่ต้องสนใจคือเรื่องราวทั้งหลายเกิดขึ้นได้อย่างไร และร่างแฝดที่ตามหลอกหลอนนั้นได้เข้ามาฆ่าและแทนที่เจ้าตัวไปแล้วหรือยัง ทำให้หลัก ๆ เราจะต้องคอยสังเกตตัวละครที่ซีรีส์ไม่ได้เล่าออกมาตรง ๆ ว่าถูกสับเปลี่ยนแล้วว่าใครคือตัวจริง ใครคือตัวเงา เป็นความสนุกและท้าทาย โดยที่ซีรีส์ก็ให้วิธีสังเกตมาใบ้อยู่หนึ่งอย่างด้วยนั่นคือ หมาป่าจะกลัวร่างเงามาก แต่หมาป่าก็ไม่ได้อยู่ทั่วไปในหมู่บ้านให้เป็นเครื่องมือได้ ตรงนี้ทำให้ภาพรวมของซีรีส์เต็มไปด้วยความลึกลับแม้ปริศนาเกี่ยวกับที่มาของร่างเงาจะคลี่คลายลงไปแล้วก็ตาม

ด้านดารานักแสดงต้องบอกว่าเป็นอีกซีรีส์ที่คัดสรรได้น่าสนใจมาก ตัวชูโรงคงเป็นการมาปรากฏตัวของ ลูกา ไลโอเนลโล ดารารุ่นใหญ่ที่เคยผ่านบท ยูดาส ในหนัง The Passion of the Christ (2004) ของ เมล กิบสัน มาแล้ว การรับบทโมัสของเขาทำให้หนังมีน้ำหนักขึ้นด้วยภาระที่ตัวละครต้องแบกรับความขมขื่นในอดีตและเก็บงำความลับในปัจจุบันเพื่อปกป้องครอบครัวของตนเอง ในขณะที่บทแอนนาก็ได้ วาเลเรีย บิเลลโล นักแสดงสาวจากซีรีส์ Sense8 ทางเน็ตฟลิกซ์ของพี่น้องวาชอวสกีที่มีแฟน ๆ ชื่นชอบมากเช่นกัน ฝั่งดาราวัยรุ่นเองก็สามารถแสดงได้เก่งมาก ๆ ไม่เป็นรองรุ่นพ่อรุ่นพี่กันเลย นับเป็นซีรีส์ที่นักแสดงลงตัวและกำกับการแสดงได้พอดีกับบทมากเรื่องหนึ่ง

และนอกจากบทที่ทำการบ้านมาดี มีการใช้ตัวละคร เรื่องเล่า ปริศนา และบรรยากาศ ผสมสร้างซีนต่าง ๆ ได้น่าสนใจน่าติดตามโดยตลอดแล้ว การเปิดมิติความลึกของเรื่องในช่วงกลางค่อนท้ายว่า เงาก็อาจไม่ใช่สิ่งชั่วร้ายเสมอไป เงาก็มีความรักมีความต้องการเช่นเดียวกับร่างต้นหากแต่การแสดงออกบางทีที่รุนแรงมากกว่า และในบางทีเงาก็อาจใช้ชีวิตได้ดีกว่าเจ้าตัวก็ได้ ก็ทำให้ซีรีส์คมและลึกขึ้นด้วย จากขาว-ดำเปลี่ยนเป็นเทาเข้มให้ผู้ชมต้องครุ่นคิดกันหนักเลยทีเดียว

ข้อเสียอย่างเดียวที่รู้สึกตอนดูคือ จังหวะการเล่าในช่วงท้ายซีซันเหมือนจะรีบปิดบางประเด็นความสัมพันธ์ที่ปูมานานได้ไวไปหน่อย และทำให้การขยี้บางอารมณ์มันน้อยไปทั้งที่มันก็เป็นซับพลอตที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว

สรุป เป็นซีรีส์ที่สนุก ดูไม่ยาก มีความตื่นเต้นผสมปริศนากำลังดี บรรยากาศคุมโทนต่าง ๆ ของเรื่องได้ดี นักแสดงเก่ง บทไม่ค่อยมีที่หลุดใหญ่ ๆ คือทำการบ้านมาดี มีศักยภาพในการทำซีซันต่อสูง (ฉากหมาป่ามองตอนสุดท้ายอาจทำให้ต้องกลับไปนั่งคิดว่าทั้งซีรีส์มีฉากไหนที่ตัวละครอาจถูกสับเปลี่ยนไปแล้วมั้ยนะด้วย – สนุกมาก) และถ้าจัดอันดับก็น่าจะเป็นรองแค่ Dark ในสายลักษณะเดียวกัน แต่ข้อดีคือดูง่ายกว่ามาก และความยาวกับจำนวนตอนก็พอดีแก่การรับชมด้วย

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส