งง คือคำนิยามการดูรอบแรกสำหรับหนังแห่งปีอย่าง TENET สำหรับใครหลาย ๆ คน บางคนหลุดข้อมูลสำคัญเพียงคลาดไปบางบทสนทนา บางคนงงหนักไม่เข้าใจเส้นเรื่องเลย บางคนก็ไม่เข้าใจแค่ศัพท์แสงเฉพาะบางคำ บางคนก็งงในต้นสายปลายเหตุ เพราะต้องยอมรับว่าหนังหยิบช่วงตรงกลางของสถานการณ์วิกฤตล้างโลกมาเล่า ตัดตอนช่วงต้น (ซึ่งผูกกับการเกิดเทเน็ต และเรื่องราวในอนาคต) และตอนปลาย (หลังจากตอนจบชะตากรรมของเหล่าตัวเอกที่ไม่ได้พูดถึงแต่มีความสำคัญกระทบกับอดีต) ทิ้งไป ใด ๆ ก็ตาม นี่คือการรวมคำถาม ที่มีคำตอบแล้ว สำหรับคนที่ยังงงงวยอยู่

สปอยล์แน่ ๆ เหมาะสำหรับคนดูแล้ว หรือคนที่อยากทำการบ้านก่อนชมและไม่แคร์เรื่องโดนสปอยล์ก่อน

หลักการย้อนกลับของเวลาในหนังเรื่องนี้เป็นอย่างไร?

ตอบ การย้อนกลับของเวลาในเรื่อง เกิดจากเทคโนโลยีที่คนในโลกอนาคตส่งกลับมายังอดีต โดยเครื่องที่ว่านี้ในหนังมีชื่อว่า โรทาส มีลักษณะคล้ายประตูหมุน 2 ทางออก และก็ไม่ได้ทำให้เวลาไหลกลับแบบพวกไทม์แมชชีน แต่เป็นการทำให้ เอนโทรปี (Entropy) ของสสารย้อนกลับแทน

ประตูโรทาสขององค์กรเทเน็ต

สำหรับเอนโทรปีเป็นแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการอธิบายการเปลี่ยนแปลงเชิงกายภาพตามธรรมชาติของสิ่งต่าง ๆ ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ว่าโดยปกติเอนโทรปีของสิ่งต่าง ๆ จะมีค่าเพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทำให้มันถูกเอาไปใช้ระบุทิศทางของเวลาได้ด้วย (เพราะค่ามันเพิ่มอย่างเดียว ยิ่งค่ามากก็แสดงว่าผ่านการเปลี่ยนแปลงมามาก) แต่ทั้งนี้ในภาวะเฉพาะบางอย่างเอนโทรปีก็สามารถมีค่าลดลงได้เช่นกัน

ตรงนี้น่าจะจุดประกายโนแลน 2 เรื่องคือ เราสามารถเอาเอนโทรปีมาบ่งบอกทิศทางของเวลาได้ว่าไหลไปแบบใด เกิดเป็นคำอธิบายการเดินหน้าและการถอยกลับ และอีกประการคือเมื่อตัวบ่งทิศของเวลาอย่างเอนโทรปีสามารถมีค่าลบได้ในบางสภาวะ (เครื่องย้อนเวลาในหนังสร้างสภาวะนี้ขึ้นได้) การรับรู้ว่าเวลาไหลย้อนกลับก็จะเกิดขึ้นด้วย

ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วในทางวิทยาศาสตร์ เอนโทรปี กับ เวลา เป็นคนละเรื่องกัน การย้อนเอนโทรปีไม่ได้ทำให้เวลาจริง ๆ ย้อนกลับตามไปด้วย กล่าวคือเรายังคงจะแก่มากขึ้นต่อไปนั่นเอง

มีจุดสังเกตว่าเหตุการณ์ไหนเดินหน้า-เหตุการณ์ไหนถอยกลับอย่างไร?

โนแลนใส่เงื่อนไขว่า มนุษย์ถ้าจะย้อนเอนโทรปีจะทำให้หายใจแบบปกติไม่ได้ เพราะอากาศของสิ่งแวดล้อมนอกตัวจะไม่สามารถผ่านปอดที่ย้อนเอนโทรปี จึงจำเป็นต้องมีอากาศเฉพาะของตนเอง (สวมหน้ากากอ็อกซิเจนเอาไว้ หรืออยู่ในห้องปิดควบคุมอากาศ) ดังนั้นถ้าตัวละครไหนใส่หน้ากากอ็อกซิเจน หรืออยู่ในห้องปิดควบคุมอากาศ ก็แสดงว่าเขาอยู่ในการย้อนกลับของเอนโทรปีนั่นเอง

นอกจากนี้โนแลนยังจะช่วยไกด์ผู้ชมในบางฉากที่สังเกตยาก ผ่านสีแดงและสีน้ำเงินด้วย โดยเริ่มจากฉากที่ตัวละครเอก (จอห์น เดวิด วอชิงตัน) โดนจับได้และถูกบังคับให้เผยที่ซ่อนของสำคัญ ห้องฝั่งตัวเอกจะถูกฉายด้วยแสงสีน้ำเงิน เป็นการเดินไปของเหตุการณ์ตามปกติ ส่วนอีกฝั่งห้องเป็นแสงสีแดงคือฝั่งที่ผ่านการย้อนเอนโทรปี

ซึ่งการใบ้ด้วยสีที่ว่าถูกเอามาใช้ช่วยในฉากสงครามใหญ่ท้ายเรื่อง เมื่อฝั่งพระเอกจะทำการปิดล้อมด้วยการโจมตีแบบทีมคือมีทั้งทีมของตัวเอกที่โจมตีจากอดีตไปอนาคต (ทีมแท็กสีแดง) และทีมของ นีล ที่โจมตีจากอนาคตย้อนไปอดีต (ทีมแท็กสีน้ำเงิน) ด้วยนั่นเอง

อัลกอริทึม คืออะไร?

ในเรื่องเจ้าอัลกอริทึมปรากฏมาตั้งแต่ฉากแรกอย่าง โรงโอเปร่า ที่ตัวเอกไปเอามาจากที่เก็บเสื้อผ้า แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร และถูกกล่าวอ้างถึงในชื่ออื่นด้วยในช่วงเวลาต่อมา เช่น 241 ที่พลางให้เข้าใจว่าคือพลูโตเนียมหรืออาวุธนิวเคลียร์สักอย่าง แล้วจึงปรากฏคำว่าอัลกอริทึมในภายหลัง

โดยอัลกอริทึมประกอบด้วยอุปกรณ์จำนวน 9 ชิ้น ที่นักวิทยาศาสตร์หญิงไม่ปรากฏชื่อในอนาคตสร้างขึ้นมา แต่เกิดกลัวพลังอำนาจของมันจึงส่งมันมาซ่อนยังอดีตในสถานที่เก็บอาวุธนิวเคลียร์ต่าง ๆ ซึ่งมองว่าปลอดภัยยากที่คนอื่นจะเข้าถึง

โดยพลังของอัลกอริทึมที่สมบูรณ์ครบจะสามารถย้อนเอนโทรปีของโลกทั้งใบได้ ผลพวงคือมนุษยชาติจะตายหมดจากการที่ไม่สามารถหายใจปกติได้ สิ่งแวดล้อมจะได้รับการฟื้นตัวส่งให้ความเป็นจริงในโลกอนาคตที่ใกล้ล่มสลายเพราะน้ำทะเลขึ้นสูงจากภาวะโลกร้อน ก็จะดีขึ้นด้วย โดยคนในอนาคตเชื่อ (อย่างไม่มีทางเลือกอื่นเพราะโลกใกล้ล่มสลาย) ว่าการฆ่าล้างบางบรรพบุรุษในอดีตจะไม่กระทบกับการมีตัวตนอยู่ของพวกเขาในอนาคต (จากบทสนทนาเรื่องความย้อนแย้งในการฆ่ารุ่นปู่ระหว่างนีลกับตัวเอก) หน่วยงานลับในอนาคตจึงทำการติดต่อคนในอดีตให้ตามหาอัลกอริทึมและใช้งานมันย้อนเอนโทรปีโลก ซึ่งคนนั้นก็คือพ่อค้าอาวุธรัสเซียอย่าง เซเทอร์ (เคนเน็ธ บรานาห์)

ทำไมคนในอนาคตถึงเลือกเซเทอร์ให้ใช้อัลกอริทึมรีเซ็ตโลก?

เพราะเขาอยู่ถูกที่ถูกเวลาพอดี ในวัยเด็กเซเทอร์อยู่ในเมือง สตรัคส์-12 ในไซบีเรียที่เป็นสถานที่เก็บนิวเคลียร์ (ซึ่งเป็นที่หนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์จากอนาคตเลือกซ่อนอัลกอริทึมไว้) เขาขุดพลูโตเนียมหาเลี้ยงชีพ แต่ว่าวันหนึ่งเขาก็ขุดพบข้อความติดต่อจากองค์กรลับในอนาคต หลังจากนั้นเขาก็ติดต่อกับองค์กรลับจากอนาคตเพื่อรวมรวมอัลกอริทึมให้เรื่อยมา โดยได้รับค่าจ้างเป็นแท่งทองคำที่ผ่านการย้อนเอนโทรปี (คำบอกเล่าชีวิตวัยเด็กที่เซเทอร์นำมาขู่ตัวเอก)

แรงจูงใจในวัยผู้ใหญ่ที่ทำให้เซเทอร์ต้องการย้อนเอนโทรปีโลก เกิดจากนิสัย ถ้าฉันไม่ได้ คนอื่นก็อย่าหวังจะได้ ซึ่งนอกจากเรื่องความหึงหวงต่อภรรยาสาวคนสวยอย่าง แคท (อลิซาเบธ เดบิกกี) ที่ทำให้เขาต้องคอยส่งลูกน้องยำทีนใส่ผู้ชายทุกคนที่เข้ามาเกาะแกะแล้ว เมื่อเขารู้ตัวว่าเขาเป็นมะเร็งตับและกำลังจะต้องตาย เขาจึงคิดว่าจะลากโลกทั้งใบตายไปพร้อมเขาด้วย ถ้าฉันไม่ได้มีชีวิตอยู่ในโลก โลกก็ต้องตายไปพร้อมกับฉัน

เซเทอร์วางแผนอย่างไรไว้ในวันล้างโลก?

เมื่อรวบรวมอัลกอริทึมได้ครบ เขาได้ทำการติดตั้งสวิตช์ให้อัลกอริทึมทำงานผูกเข้ากับชีพจรของเขาเอง เมื่อเขาตายโลกก็จะดับสูญไปพร้อมกัน เขาส่งลูกน้องไปติดตั้งอัลกอริทึมในฐานทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ ส่วนตัวเขาย้อนเอนโทรปีกลับไปวันที่ 14 ที่เวียดนาม ซึ่งเขาพักผ่อนอยู่กับแคทและแม็กซ์ลูกชายของพวกเขา อันเป็นวันที่เซเทอร์จดจำได้ว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่เขามีความสุข เขาตั้งใจชมดวงอาทิตย์ตกและทานยาพิษของซีไอเอเพื่อจบชีวิตตนเองพร้อมโลกทั้งใบ

ทำไมตัวเอกและนีลต้องช่วยแคทด้วยการพากลับไปออสโล?

เพราะแคทถูกยิงในขณะที่อยู่ในการย้อนเอนโทรปี ทำให้บาดแผลของเธอไม่สามารถหายเองได้ ไม่ต่างจากการถูกยิงด้วยกระสุนย้อนเอนโทรปีที่มีความรุนแรงกว่าปกติมาก มีทางเดียวคือต้องพากลับไปเข้าประตูโรทาสเพื่อให้เอนโทรปีกลับเป็นปกติและรักษาแผลให้หายได้ ซึ่งในขณะนั้นประตูโรทาสยังเหลืออยู่ที่ฟรีพอร์ตของสนามบินในออสโลที่ตัวเอกเข้าไปโจรกรรมตอนกลางเรื่อง

(อ่านต่อหน้า 2 กับคำถาม เทเน็ตคืออะไร และชะตากรรมของแต่ละตัวละคร)

เทเน็ตคืออะไร?

เทเน็ต คือชื่อองค์กรลับที่มีเป้าหมายในการหยุดยั้งการใช้อัลกอริทึมทำลายโลกในปัจจุบัน โดยมีสมาชิกมากมายทั้งคนในหน่วยงานซีไอเอที่ช่วยชีวิตตัวเอกจากโรงโอเปร่า นักวิจัยเอนโทรปีสาวที่สอนกฎเบื้องต้นให้ตัวเอก เซอร์ไมเคิลที่อนุมานว่าคือเอ็มไอ-6 ของอังกฤษ ทั้งนักค้าอาวุธในมุมไบอย่างพรียาและซานเจย์ ซิงห์ที่เป็นผู้บริหารองค์กร มีนักปฏิบัติงานภาคสนามอย่างมาเฮอร์คอยสนับสนุนพาหนะ หรือแม้แต่กองทัพติดอาวุธที่มีหัวหน้าหน่วยอย่างไอวาสและวีลเลอร์นำทีม นอกจากนี้ยังมีสายลับที่ผลุบโผล่ไปทุกที่อย่าง นีล เป็นหมากสำคัญด้วย

นอกจากนี้เทเน็ตยังมีเทคโนโลยีย้อนเอนโทรปีเช่นเดียวกับเซเทอร์ด้วย อันจะเห็นได้จากฉากเตรียมตัวทีมสีน้ำเงินก่อนไปรบในเมืองร้างที่มีฐานทดสอบระเบิดนั่นเอง

แผนของเทเน็ตในวันล้างโลกคืออย่างไร? แล้วเกิดอะไรขึ้น?

เทเน็ตแบ่งทีมเป็น 2 ทีมคือสีแดงและสีน้ำเงิน โดยโจมตีแบบคีมขนาบข้างพร้อมกัน กล่าวคือทีมแดงบุกไปตามเอนโทรปีปกติ แต่ทีมสีน้ำเงินจะย้อนเอนโทรปีไปดึงความสนใจจากพวกลูกน้องของเซเทอร์ เปิดโอกาสให้ตัวเอกและไอวาสลงไปใต้ฐานเพื่อชิงอัลกอริทึมก่อนที่เซเทอร์จะจบชีวิตตัวเอง

ในอีกด้านหนึ่งแคทจากอนาคตและมาเฮอร์จะลอบขึ้นเรือของเซเทอร์ที่เวียดนามในวันที่ 14 ซึ่งคาดเดาว่าเซเทอร์จะเลือกจบชีวิตตัวเองในวันนี้ โดยแคทต้องยื้อเวลาไม่ให้เซเทอร์ฆ่าตัวตาย จนกว่าตัวเอกกับไอวาสแย่งอัลกอริทึมมาได้เสียก่อน

แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือเมื่อตัวเอกกับไอวาสลงไปใต้ฐานก็ถูกกับดักระเบิดของลูกน้องเซเทอร์ถล่มปิดทางออก และเมื่อไล่มาถึงจุดที่อัลกอริทึมอยู่มันก็ดันมีกรงประตูเหล็กล็อกขวางไว้ โดยในห้องนั้นมีลูกน้องของเซเทอร์กำลังประกอบอัลกอริทึม และที่พื้นก็มีศพของทหารเทเน็ตนอนอยู่ แต่ทันใดนั้นที่ลูกน้องเซเทอร์กำลังหันมายิงตัวเอกตามคำสั่งเซเทอร์ ศพที่อยู่บนพื้นก็มีอาการเอนโทรปีไหลย้อนกลับลุกขึ้นมาขวางกระสุนไว้ แล้วย้อนไปปลดล็อกประตูก่อนวิ่งถอยหลังออกไป สบโอกาสให้ตัวเอกเข้าไปในห้องและแย่งอัลกอริทึมมาได้

ชะตากรรมของเซเทอร์?

อีกด้านหนึ่งที่เวียดนาม แคทเหลืออดในความอวดดีของเซเทอร์จึงเอาปืนยิงใส่กลางอกของเขาจนตาย โชคดีที่ฝั่งตัวเอกแย่งอัลกอริทึมมาได้ก่อนแล้ว ทำให้อัลกอริทึมยังไม่ทำงาน จากนั้นแคทจึงไถลศพเซเทอร์ไปบนพื้นที่ราดครีมกันแดดให้ลื่นไว้รอแล้วจนร่างเซเทอร์ร่วงลงทะเล ส่วนเธอก็กระโดดน้ำตามลงไป เป็นอันเฉลยว่าผู้หญิงที่เธอเห็นกระโดดจากเรือในอดีตนั้นไม่ใช่กิ๊กของเซเทอร์ หากแต่เป็นตัวเธอในอีกช่วงเวลานั่นอง

ชะตากรรมของนีล?

จริง ๆ เรื่องราวของนีลนั้นคือข้อเชื่อมโยงที่สำคัญที่สุดในเรื่องเลยทีเดียว เพราะเขาไปปรากฏตัวในช่วงเวลาต่าง ๆ หลายครามากทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผย ในตอนท้ายเขาสังเกตอันตรายที่ลูกน้องเซเทอร์วางกับดักระเบิดปิดทางหนีได้ จึงเข้าเครื่องย้อนเอนโทรปีให้เป็นปกติแล้วมาช่วยเส้นเวลาเดียวกับทีมสีแดงของตัวเอก เขาทิ้งห่วงเกี่ยวและช่วยลากตัวเอกกับไอวาสหนีจากการระเบิดและพื้นถล่มไปได้อย่างหวุดหวิด

ท้ายสุดไอวาสเสนอให้แบ่งอัลกอริทึมเป็นสามส่วน ให้นีลกับตัวเอกแยกย้ายกันไปซ่อน และฆ่าตัวตายเพื่อรักษาความลับนี้ไปตลอดกาลไม่ให้ใครเอาอัลกอริทึมมาใช้งานได้อีก ทว่านีลตัดสินใจไปร่วมกับเทเน็ตต่อโดยเขาบอกว่ายังมีความจำเป็นในฐานะนักไขล็อกประตู เมื่อพิจารณาว่าศพที่นอนอยู่บนพื้นห้องในฐานใต้ดินมีเชือกสีแดงห้อยที่เป้เหมือนกับของนีล จึงอนุมานได้ว่าเขากลับไปร่วมภารกิจกับทีมสีแดง และเป็นคนเข้าไปปลดล็อกประตูให้ตัวเอกเข้าไปแย่งอัลกอริทึม และรับกระสุนแทนตัวเอกจนตายนั่นเอง

ในขณะเดียวกันในช่วงเวลาอื่นเขายังเคยปรากฏตัวว่าช่วยชีวิตตัวเอกจากโรงโอเปร่าก่อนถูกเจ้าหน้าที่ยิง และได้เผยความลับกับตัวเอกว่าแท้จริงแล้ว เขากับตัวเอกในอนาคตรู้จักกันมานานหลายปีแล้ว และตัวเอกเป็นคนฝึกเขาเข้ามาในเทเน็ตเองนี่ล่ะ หลังจากนี้เขาจะได้ร่วมภารกิจกับตัวเอกอีกมากทีเดียว ทั้งนี้ไม่แน่ใจว่านีลรู้ชะตากรรมของตนเองว่าจะต้องตายในภารกิจวันนั้นหรือไม่ และอีกเรื่องที่ไม่รู้ว่าจริง ๆ นีลมีที่มาที่ไปอย่างไร จะเกี่ยวพันกับแม็กซ์ลูกชายของแคทหรือไม่ ก็น่ามโนอยู่ไม่น้อย

ชะตากรรมของตัวเอก?

ในฉากสุดท้าย ตัวเอกได้ย้อนเอนโทรปีมาช่วยแคทที่จะถูกพรียาเก็บเพื่อรักษาความลับเรื่องการย้อนเอนโทรปีไป โดยคำพูดของตัวเอกเข้าใจได้ว่าเขาในอนาคตคือผู้ก่อตั้งเทเน็ตขึ้นมาและใช้งานพรียากับตัวเขาเองในอดีตด้วย โดยภารกิจเขาคือการอุดช่องโหว่ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และปิดปากผู้รู้เรื่องอัลกอริทึมให้หมด จะมีก็เพียงแต่แคทเท่านั้นที่เขาไม่ลงมือสังหาร ด้วยเพราะความสัมพันธ์ที่ดีในอดีต

ความเป็นจริงในหนังมีเพียงหนึ่งเดียวหรือไม่?

น่าจะเป็นคำถามที่ชวนถกชวนคุยมากที่สุดเรื่องหนึ่ง เพราะคงต้องงำจุดสังเกตกันอีกมาก แต่ก็น่าสนใจว่าตลอดทางหนังชวนให้พิจารณาถึงความเป็นไปได้เรื่องการเกิดเหตุการณ์คู่ขนาน ไม่ว่าจะบทสนทนาระหว่างนีลกับตัวเอกบนเรือที่กำลังย้อนกลับไปที่สนามบินออสโล ซึ่งนีลมีการอ้างถึงเรื่องโลกคู่ขนานขึ้นมาในเรื่องของ ความขัดแย้งรุ่นปู่ ว่าองค์กรลับในอนาคตเชื่อว่าการฆ่าบรรพบุรุษจะไม่เป็นการลบตัวตนของลูกหลาน (เท่ากับว่าเส้นเวลาแตกออกและเกิดความจริงคู่ขนานที่แตกต่างกันไปแทน) เพราะสิ่งใดเกิดขึ้นแล้วย่อมเกิดขึ้น ดังนั้นรุ่นหลานที่มีตัวตนแล้วและเป็นผู้ทำให้เกิดการฆ่ารุ่นปู่ในอดีตย่อมไม่หายไปด้วย (ทั้งนี้ต้องพิจารณาว่าบทสนทนาทั้งหมดในช่วงนี้อาจเป็นอาการเมาความจริงจากการย้อนเอนโทรปีครั้งแรกของตัวเอกก็ได้)

ข้อสังเกตอีกเรื่องคือการใช้ประตูโรทาส ไอวาสจะเน้นย้ำว่าเราจำเป็นต้องเข้าประตูไปในช่วงเวลาเดียวกับที่ตัวเราอีกฝั่งเข้าประตูเช่นกัน อันนี้เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดเหตุการณ์คู่ขนานที่เราเข้าหรือไม่เข้าประตูใช่หรือไม่?

และการปรากฏตัวของนีลในหลายเหตุการณ์พร้อม ๆ กัน เช่นวันที่ 14 นั้นเขาปรากฏตัวที่โรงโอเปร่า ปรากฏตัวในชุดทีมสีน้ำเงินที่บุกฐาน และปรากฎตัวในฐานะศพทหารเทเน็ตที่มาปลดล็อกประตูให้ตัวเอก เป็นเพียงการเหลื่อมเวลาหรือเกิดตัวตนคู่ขนานของนีลขึ้นกันแน่ นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตเรื่องความหนุ่มแก่ของนีลที่ช่วงปรากฏตัวครั้งแรกที่มุมไบดูแก่กว่าตอนที่เข้าร่วมทีมสีน้ำเงินท้ายเรื่องเสียอีก ถ้าไม่คิดว่าเป็นเพียงเออเรอร์ของความต่อเนื่องของทีมงานสร้างหนัง ก็น่าคิดต่อเหมือนกันว่า ความเป็นจริง (Reality) ที่นีลพูดทิ้งท้ายเพื่อสื่อแทนชะตากรรมนั้นมันคืออะไรกันแน่

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส