‘Christmas’ เป็นภาษาอังกฤษโบราณของ ‘Christes Maesse’ ที่แปลว่า พิธีบูชามิสซาของพระคริสตเจ้า ซึ่งการร่วมพิธีมิสซาในวันคริสต์มาส ถือเป็นหนึ่งในประเพณีที่สำคัญที่สุดสำหรับชาวคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก เพราะเรียกได้ว่านี่คือวันที่พระเยซูเจ้าประสูตินั่นเอง

โดยคำว่า Christes Maesse ปรากฏครั้งแรกในเอกสารโบราณเมื่อปี 1038 ก่อนจะเพี้ยนเสียงมาเป็นคำว่า Christmas ในปัจจุบัน ส่วนคำว่า Merry จากประโยคอวยพรยอดฮิตอย่าง “Merry Christmas” นั้นมาจากภาษาอังกฤษโบราณที่แปลว่า สันติสุขและความสงบสุขทางใจ 

หากนึกถึงกิมมิกอื่น ๆ ประจำเทศกาลนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ‘ต้นคริสต์มาส’ ซึ่งในโบราณกาลเคยถูกเรียกว่า ‘ต้นไม้สวรรค์’ จากเรื่องราวของอดัมและเอวา มนุษย์คู่แรกบนโลกตามความเชื่อของศาสนาคริสต์ ที่ถูกลงโทษเพราะไปหยิบผลไม้ต้องห้ามมากิน 

ย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 11 ชาวคริสต์มักจะแสดงละครถึงความหมายของคริสต์มาส โดยการนำเอาต้นสนตั้งไว้ตรงกลาง และแสดงละครเกี่ยวกับบาปกำเนิดของอดัมและเอวา ซึ่งการแสดงนี้นิยมกันเป็นเวลาหลายร้อยปี จนในศตวรรษที่ 15 พระสังฆราชหลายแห่งได้ออกกฎห้ามแสดงเรื่องราวเหล่านี้ เพราะไม่อยากให้ผู้คนมองศาสนาคริสต์ในแง่ลบ

เมื่อชาวบ้านไม่มีโอกาสดูละครสนุก ๆ อย่างเช่นเคย หลายคนจึงหันไปสังสรรค์ที่บ้านของตัวเองแทน และมีการตั้งต้นคริสต์มาสไว้ พร้อมกับแขวนลูกแอปเปิ้ล ขนมและของขวัญไว้บนต้น โดยประเพณีนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากช่วงศตวรรษที่ 16 หลังชาวเยอรมันนิยมจุดเทียนหลายเล่มเป็นรูปพีระมิดไว้ตลอดคืนคริสต์มาส พร้อมกับติด ‘ดาวของเดวิด’ สัญลักษณ์ของชาวยิวติดไว้ที่ยอดพีระมิด ซึ่งต่อมามันได้แพร่หลายและกลายเป็นที่มาของการแขวนของขวัญ ไฟกะพริบ และติดดาวของเดวิดไว้บนยอดต้นคริสต์มาสในปัจจุบัน

หลายคนมักจะเรียกคริสต์มาสว่าเป็น ‘เทศกาลแห่งความสุข’ ซึ่งคำคำนี้ถูกตีความมาจากการเปรียบพระเยซูเจ้าเสมือนต้นไม้แห่งชีวิตที่เขียวสดเสมอในทุกฤดูกาล นอกจากนั้นยังหมายถึงแสงเทียนที่ส่องแสงในความมืด ความชื่นชมยินดีและความสามัคคีที่พระเยซูเจ้าประทานให้ เพราะต้นไม้นั้นนัยหนึ่งคือจุดรวมของครอบครัวในเทศกาลนั่นเอง

‘ซานตาคลอส’ ถือเป็นสัญลักษณ์ที่นิยมมากที่สุดในคริสต์มาส แต่รู้หรือไม่ว่า? จริง ๆ แล้วซานตาคลอสแทบจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเทศกาลนี้เลย!

ชื่อซานตาคลอสมาจากชื่อของนักบุญนิโคลาส ซึ่งเป็นนักบุญที่ชาวฮอลแลนด์นับถือ และเป็นองค์อุปถัมภ์ของเด็ก ๆ ในช่วงศตวรรษที่ 4 โดยนักบุญนิโคลาสเข้ามาเกี่ยวข้องกับเทศกาลคริสต์มาสหลังจากที่ ชาวฮอลแลนด์กลุ่มหนึ่งอพยพไปอยู่ในสหรัฐอเมริกาและเริ่มมีการฉลองนักบุญนิโคลาส ในทุกวันที่ 6 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งประเพณีดังกล่าวได้แรงบันดาลใจมาจาก สิ่งที่นักบุญนิโคลาสทำสมัยยังมีชีวิต นั่นก็คือการออกเยี่ยมเด็ก ๆ และเอาของขวัญไปให้เสมอ 

หลังจากที่ประเพณีนี้ได้แพร่หลายออกไปทั่วโลก นักบุญนิโคลาสก็ถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็นซานตาคลอส และถูกเปลี่ยนภาพจำให้กลายเป็นชายแก่อ้วนสวมชุดสีแดง อยู่ที่ขั้วโลกเหนือ มีเลื่อนเป็นพาหนะ มีกวางเรนเดียร์ลาก และจะมาเยี่ยมเด็กทุกคนทั่วโลกเฉพาะช่วงเทศกาลคริสต์มาส ผ่านของขวัญที่ลงมาทางปล่องไฟบ้านนั่นเอง

เครดิตภาพและอ้างอิง:

https://bit.ly/3sxeTPs

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส