เราน่าจะเห็นการสร้างชื่อในวงการต่าง ๆ มามากมาย แต่หลายคนย่อมรู้ดีว่าการรักษาชื่อไว้นั้นยากยิ่งกว่า ตัวอย่างล่าสุดของอดีตโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์มือทองและผันตัวมาสู่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่าง ไนล์ เนียมี (Nile Niami) กำลังตกที่นั่งลำบาก เนื่องจากบ้านที่แพงที่สุดในอเมริกาของเขา ที่มีมูลค่าสูงกว่า 500 ล้านเหรียญ กำลังจะถูกธนาคารยึด!

ไนล์ เนียมี ผู้สร้างบ้านหลังโต ๆ และปล่อยทอดตลาดทำกำไรเข้าตัว รวมถึงบ้านหลังโตหลังนี้อย่าง ‘The One’ บ้านที่มีขนาดใหญ่กว่า 105,000 ตารางฟุต ตีเป็นมูลค่าราวๆ 500 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 17,000 ล้านบาท เรียกได้ว่าเป็นบ้านที่แพงที่สุดในอเมริกาก็ว่าได้

‘The One’ ตั้งอยู่ในเมืองลอสแอนเจลิส ใช้เวลาก่อสร้างและตกแต่งนานกว่า 10 ปี ภายในประกอบด้วย 21 ห้องนอน 42 ห้องน้ำ และห้องมาสเตอร์สวีทขนาด 5,500 ตารางฟุต (แค่ห้องนอนห้องเดียวก็เทียบเท่ากับพูลวิลล่าหลังโตแล้ว) รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ลานโบว์ลิ่ง 4 เลน, สนามเทนนิส, ห้องเก็บไวน์ความจุ 10,000 ขวด, สระว่ายน้ำ 7 สระ, สปาเต็มรูปแบบ, ลู่วิ่ง, โรงหนังขนาด 32 ที่นั่ง, โรงจอดรถ 50 คัน และห้องสำหรับจัดปาร์ตี้ขนาดใหญ่อีกด้วย

เครดิตรูปภาพจาก Hypebeast

อย่างไรก็ตามการเป็นบ้านหลังที่แพงที่สุดในอเมริกาก็ไม่ง่าย เนื่องจากราคาที่สูงเกินไปทำให้กลายเป็นทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลที่นักพัฒนาต้องถือความเสี่ยงไว้ในมือ เพราะโครงการนี้ ไนล์ เนียมี ต้องกู้เงินธนาคารออกมาถึง 83 ล้านเหรียญ และเจ้าตัวผิดนัดเงินกู้ไปหลายงวด รวมถึงเป็นหนี้สินมากกว่า 165 ล้านเหรียญ ซึ่งตามคำฟ้องของศาลอาจเป็นไปได้ว่า หากเจ้าตัวยังขาย ‘The One’ ไม่ได้ ชะตากรรมของบ้านหลังนี้จะอยู่ในมือของธนาคารหรือมหาเศรษฐีคนใดคนหนึ่งทันที

ปัจจุบัน ‘The One’ ปรับราคาลงมาเหลือ 350 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 12,000 ล้านบาทแล้ว ใครสนใจไปตามซื้อกันได้นะ

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส