เชื่อว่าหลายคนคงจะได้เคยอ่านบทความหรือเคยเห็นการพูดถึงตัวละครเพศที่ 3 ในโลกของอนิเมะไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งนับจากในอดีตมาจนถึงตอนนี้ก็ยังคงมีตัวละครเพศที่ 3 ในอนิเมะออกมาอีกเรื่อย ๆ และพวกเธอนั้นก็มีบทบาทที่เปลี่ยนไปจากในอดีต จากที่เคยถูกจัดเป็นตัวประกอบหรือตัวตลก แต่ในตอนนี้ตัวละครเหล่านี้เริ่มมีบทบาทมากขึ้น ขณะที่บางตัวละครที่จนถึงตอนนี้เราก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเขาหรือเธอนั้นอยู่ในเพศอะไร จนบางทีเราต้องอาศัยดูเสียงพากย์ของตัวละคร และเดาว่าตัวละครเหล่านั้นน่าจะเป็นเพศอะไร จนบางครั้งก็มีการถกเถียงกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ วันนี้เราเลยขอหยิบตัวละครเพศที่ 3 หรือที่ยังไม่สามารถระบุเพศได้มานำเสนอ จะมีตัวละครไหนที่น่าสนใจบ้างนั้นมาดูไปพร้อมกันเลย

Osana Najimi จาก Komi-san wa, Comyushou desu

Komi-san wa, Comyushou desu

เริ่มต้นตัวละครแรกที่มาจากอนิเมะเรื่องใหม่ที่เพิ่งฉายจบไปไม่นาน ที่จนถึงตอนนี้เราก็ไม่สามารถระบุเพศของ โอซานะ นาจิมิ (Osana Najimi) จากเรื่อง โฉมงามพูดไม่เก่งกับผองเพื่อนไม่เต็มเต็ง ‘Komi-san wa, Comyushou desu’ ได้ว่าเขาเป็นชายหรือหญิง  ซึ่งเมื่อมีคนไปถามนาจิมิว่าตนเองอยู่เพศอะไรกันแน่ เจ้าตัวก็จะตอบว่า “เพศนาจิมิ” หรือก็คือชื่อตัวเอง ซึ่งถ้าใครเคยดูหรือรู้จักอนิเมะเรื่องนี้จะบอกเล่าเรื่องราวของสาวสวยสมบูรณ์แบบอย่าง โคมิ โชโกะ (Komi Shouko) ที่เธอมักจะพูดต่อหน้าคนอื่นไม่เก่งแต่เธอก็อยากมีเพื่อน หนึ่งในเพื่อนคนแรกที่มาสนิทด้วยก็คือนาจิมิ ที่ดูจากภายนอกเขาจะสวมชุดนักเรียนชายท่อนบน แต่ท่อนล่างจะสวมกระโปรง (โรงเรียนไม่ห้ามเรื่องนี้เพราะที่นี่เปิดกว้างให้กับนักเรียนทุกคน) ซึ่งเมื่อดูจากสิ่งที่เพื่อนสมัยเด็กบอกในเรื่อง นาจิมิจะเป็นผู้ชายแต่มีจิตใจเป็นผู้หญิง เพราะในช่วงที่จะไปเที่ยวสระน้ำพระเอกได้ให้นาจิมิไปเปลี่ยนชุดที่ห้องแต่งตัวชาย แต่หลายคนก็ไม่ทราบว่านาจิมินั้นเป็นชายและคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงก็เยอะ และต่อให้รู้ว่าเขาเป็นชาย แต่ก็มีทั้งผู้ชายและผู้หญิงมาชอบนาจิมิ (สารภาพรัก) บ่อย ๆ แต่เห็นแบบนี้เจ้าตัวก็มีความเครียดและไม่ชอบในสิ่งที่ตนเป็น ที่แสดงออกจากคำพูดของเขาเกี่ยวกับเพศสภาพตนเองอยู่หลายครั้ง แต่เจ้าตัวก็พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกนั้น และพยายามหาเพื่อนมากลบความรู้สึกเศร้านั้นแทน นับเป็นตัวละครที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

Komi-san wa, Comyushou desu

Sailor Star Lights จาก Sailor Moon 

Sailor Moon 

ย้อนกลับไปในอดีตเชื่อว่าเด็ก ๆ หลายคนคงจะรู้สึกสับสนมึนงงเป็นอย่างมาก เมื่อได้เห็นกลุ่มนักสู้ที่มีชื่อว่า ‘Sailor Star Lights’ จากอนิเมะเรื่อง ‘Sailor Moon’ ที่ในตอนเวลาปกติพวกเขาทั้งสามคนจะเป็นผู้ชาย แต่พอแปลงร่างเป็น ‘Sailor Star Lights’ พวกเขาจะเปลี่ยนเพศสภาพเป็นผู้หญิง จนหลายคนรู้สึกสับสนว่าความจริงแล้วกลุ่ม ‘Sailor Star Lights’ พวกนี้เป็นเพศอะไรกันแน่ โดยที่ในอนิเมะบอกว่าพวกเขาไม่ใช่หญิงแต่งชาย แต่พวกเขาคือผู้ชายจริง ๆ และตอนแปลงร่างก็เป็นผู้หญิงแท้ ๆ ที่ยิ่งพูดแบบนี้ก็ยิ่งทำให้งงเข้าไปอีก ซึ่งจากข้อมูลบอกว่าทั้งสามคนนั้นเลือกที่จะใช้ร่างเพศชายเพื่อปลอมตัว (แฝงตัวร่วมกับมนุษย์โลก) แต่เมื่อต้องต่อสู้จะใช้ร่างที่เหมาะสำหรับการต่อสู้ ซึ่งเอาจริง ๆ ทฤษฎีก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับเพราะทางผู้เขียนก็ไม่ได้ออกมายืนยันเรื่องนี้ ว่าความจริงแล้วพวกเขา (เธอ) พวกนี้คือเพศอะไร หรือความจริงแล้วอาจจะไม่มีเพศ แต่เพื่อความกลมกลืนในการแฝงตัวจึงใช้เพศชาย แต่ปฏิบัติการจึงเปลี่ยนมาเป็นเพศหญิงเพราะเห็นพวก ‘Sailor Moon’ เป็นผู้หญิงเลยเลียนแบบสิ่งนั้นมาใช้ก็ได้ ซึ่งนั่นก็เป็นเพียงทฤษฎีที่แฟน ๆ คิดกัน แต่สิ่งที่เรารู้ก็คืออนิเมะ ‘Sailor Moon’ คือการ์ตูนเรื่องแรก ๆ ที่มีการพูดถึงเรื่องความหลากหลายทางเพศในยุคที่อนิเมะส่วนใหญ่ไม่พูดถึงเป็นเรื่องแรก ๆ ในวงการการ์ตูนญี่ปุ่น

Sailor Moon 

Ayukawa Ryuji จาก Blue Period

Blue Period

คราวนี้มาดูเรื่องราวความทุกข์ใจของเพศทางเลือกกันบ้าง ที่ในอนิเมะไม่ค่อยจะหยิบมาพูดถึงกับเรื่องราวของ อายูกาวะ ริวจิ (Ayukawa Ryuji) จากเรื่อง ‘Blue Period’ หรือในชื่อไทยอย่าง “เส้นสายลายชีวิต” ที่บอกเล่าเรื่องราวการตามฝันของเหล่าผู้คนที่รักในการวาดรูป ที่ต้องฝึกฝนตัวเองเพื่อสอบเข้าโรงเรียนศิลปะอันดับ 1 ของประเทศ ซึ่งสำหรับหลายคนในเรื่องนี้ต้องต่อสู้กับแค่ตัวเองในการพัฒนาการวาดรูป หรือความรู้สึกกดดันที่มีพี่สาวและคนในครอบครัวที่ประสบความสำเร็จ กับอีกหลายเรื่องราวที่ทุกคนต้องเจอ แต่กับริวจินอกจากความกดดันเรื่องการตามความฝันแล้ว เขา (เธอ) ต้องเจอความกดดันของครอบครัวที่ไม่ยอมรับในเพศสภาพที่เป็นแบบนี้ (ชายแต่งหญิง) โดยตัวริวจินั้นแม้ภายนอกจะไว้ผมยาวสวมกระโปรงและดัดเสียงเป็นผู้หญิง แต่ตัวของริวจินั้นก็เป็นที่ชื่นชอบของสาว ๆ แต่เขา (เธอ) ก็จีบหนุ่ม ๆ ที่พอผู้ชายเหล่านั้นรู้ว่าริวจิคือผู้ชายพวกนั้นก็รับไม่ได้ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าตัวเองนั้นก็ชอบผู้หญิงนะและก็ชอบผู้ชายด้วย แต่ลึก ๆ ที่ชอบผู้ชายเพราะต้องการความยอมรับจากเพศเดียวกันว่าเขานั้นก็เป็นสิ่งที่ตัวเองเป็นได้ เรียกว่าเป็นความกดดันที่คนเป็นเพศที่สามต้องเจอที่คนทั่วไปไม่เข้าใจ ใครที่มาดูอนิเมะเรื่องนี้นอกจากจะได้รู้ถึงเรื่องราวศิลปะที่ซับซ้อนกว่าที่เห็นแล้ว เรายังได้เห็นมุมมองชีวิตที่ซ่อนอยู่ด้วย บอกเลยว่าเป็นอนิเมะดี ๆ ที่เราอยากให้ไปดู

Blue Period

Rimuru Tempest จาก Tensei shitara Slime Datta Ken

Tensei shitara Slime Datta Ken

อีกหนึ่งตัวละครในโลกอนิเมะที่ไม่สามารถระบุเพศของตัวละครได้ กับ ริมูรุ เทมเพสต์ (Rimuru Tempest) จากอนิเมะชื่อแปลก ๆ ว่า ‘เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว’ (Tensei shitara Slime Datta Ken) ที่บอกเล่าเรื่องราวของหนุ่มวัยทำงานที่บังเอิญถูกคนร้ายแปลกหน้าวิ่งเอามีดมาแทง จนตัวเองไปเกิดใหม่ในต่างโลกในฐานะสไลม์สิ่งมีชีวิตคล้ายก้อนน้ำสีฟ้ามีตาปาก ก่อนที่ริมูรุจะได้รับการตั้งชื่อและได้ร่างมนุษย์จากหญิงสาวคนหนึ่งที่ยอมสละร่างให้ เพราะตนเองกำลังจะเสียชีวิตริมูรุจึงมีร่างมนุษย์นับแต่นั้น แต่ด้วยความที่จิตใจของเขานั้นเป็นชายริมูรุจึงใช้ร่างที่ไม่หน้าอกที่ดูเหมือนผู้ชาย แต่ตัวเขานั้นไม่มีอวัยวะเพศชายแค่มีรูปร่างเหมือนผู้ชายเท่านั้น ซึ่งบางข้อมูลก็บอกว่าริมูรุคือเพศชาย บางทีก็ระบุว่าไม่มีเพศเพราะเป็นสไลม์ที่สามารถเปลี่ยนเพศไปมาได้เหมือนสัตว์ในโลกจริง ดังนั้นจึงไม่ขอสรุปว่าริมูรุคือเพศอะไรกันแน่ เพราะเจ้าตัวสามารถเปลี่ยนร่างและเพศได้ตามที่ต้องการ แต่ร่างหลัก (ร่างมนุษย์ปกติ) คือไม่มีเพศนั่นเอง

Tensei shitara Slime Datta Ken

Mahito จาก Jujutsu Kaisen

Jujutsu Kaisen

ถ้าอย่างริมูรุเป็นพวกไม่สามารถระบุเพศได้เพราะสามารถเปลี่ยนเพศไปมาได้ แล้ว มาฮิโตะ (Mahito) จาก มหาเวทผนึกมาร ‘Jujutsu Kaisen’ จะเรียกว่าคือเพศอะไร ซึ่งสำหรับคนที่ไม่ทราบตัวของมาฮิโตะนั้นไม่ใช่มนุษย์ แต่เขาคือกลุ่มก้อนมวลคำสาปโกรธเกลียดของมนุษย์ที่มารวมตัวกันจนเป็นรูปร่างของมาฮิโตะ ที่ถ้าจะเรียกให้ถูกมาฮิโตะก็คือปีศาจในจำพวกคำสาปแช่ง และเราก็ไม่สามารถจำแนกเพศของคำสาปได้ เพราะแม้ภายนอกมาฮิโตะจะเหมือนผู้ชาย (รูปประกอบด้านล่าง) แต่เขาไม่มีอวัยวะเพศชายเหมือนริมูรุ แถมร่างก็มีรอยเย็บที่เหมือนเป็นการรวมชิ้นส่วนต่าง ๆ ของมนุษย์มารวมกัน จนมีคนถกเถียงกันว่าสรุปแล้วมาฮิโตะเป็นชายหรือหญิงกันแน่ ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้

Jujutsu Kaisen

Frieza จาก Dragon Ball

Dragon Ball

คุณเคยสงสัยไหมว่า ฟรีเซอร์ (Frieza) จาก Dragon Ball นั้นเพศอะไร เขาเป็นเพศชายเพราะไม่มีหน้าอกและสวมกางเกงเพื่อปิดอวัยวะเพศด้านล่าง แต่พอมาในร่างสุดท้ายกับเป็นร่างเปลือยเปล่าไม่มีอะไรบ่งบอกเพศเลย แถมน้ำเสียงท่าทางการกระทำของฟรีเซอร์นั้นก็เหมือนผู้หญิงในหลาย ๆ ส่วน แต่การไม่มีหน้าอกก็เหมาว่าสิ่งนั้นคือเพศชายก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะสัตว์หลายชนิดก็ไม่มีเต้านมให้ลูกดื่มสารอาหารแรกเกิด เราจึงตัดสินว่าฟรีเซอร์คือเพศชายไม่ได้ ส่วนกางเกงที่ปิดก็ไม่ได้ระบุว่าตรงนั้นคืออะไร ในขณะที่ชาว ‘Namekian’ นั้นระบุเลยว่าคือเพศชายทั้งหมดแต่ใช้การคายไข่ออกมาเพื่อสืบเผ่าพันธุ์ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่แค่บ้านเราที่สงสัยแต่ในต่างประเทศก็งงว่าสรุปแล้วฟรีเซอร์คือเพศอะไร ในขณะที่พ่อฟรีเซอร์ถูกระบุเลยว่าเป็นราชา โคลด์ (Cold) แต่ตัวฟรีเซอร์ไม่มีการเรียกที่บ่งบอกตรง ๆ เลย เรื่องนี้จึงเป็นที่ถกเถียงกันต่อไป

Dragon Ball

Kage จาก Ousama Ranking

Ousama Ranking

ก่อนที่จะถามว่า คาเงะ (Kage) จากเรื่อง อันดับพระราชา ‘Ousama Ranking’ เป็นเพศอะไร ต้องถามก่อนว่านี่คือตัวอะไรกันแน่ เพราะจากข้อมูลบอกว่าคาเงะนั้นคือชนเผ่าต้องสาปทำให้ลูกหลานมีรูปร่างแบบนี้ แต่พวกเขาก็จัดเป็นมนุษย์จำพวกหนึ่งที่มีสามารถในการลอบสังหารในเงามืด ซึ่งถ้าเราไม่ฟังเสียงก็แทบไม่รู้เลยว่าคาเงะนั้นเป็นเพศอะไร เพราะในอนิเมะไม่ได้ระบุเอาไว้ แต่เมื่อฟังจากเสียงที่เป็นผู้ชายกับท่าทางแข็งกระด้างจึงทำให้เราทราบว่าเขาคือเพศชาย ใครที่อยากดูอนิเมะแปลก ๆ กับเรื่องราวของคนที่สวมหน้ากากกับสังคมที่หลอกลวงต้องดูเรื่องนี้ บอกเลยว่าคุณจะได้พบสิ่งใหม่ ๆ ที่อนิเมะเรื่องอื่นให้คุณไม่ได้ ซึ่งน่าสนใจกว่าการมานั่นเดาว่าคาเงะเพศอะไรเสียอีก

Ousama Ranking

Kibutsuji Muzan จาก Kimetsu no Yaiba

Kimetsu no Yaiba

ปิดท้ายกับตัวละครที่หลายคนน่าจะทราบกันหมดแล้วว่า คิบุทสึจิ มูซัง (Kibutsuji Muzan) จากเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร (Kimetsu no Yaiba) เป็นผู้ชายแน่ ๆ เพราะเมื่อมีการย้อนอดีตไปสมัยก่อนเป็นอสูร เราก็ได้เห็นมูซังที่เป็นมนุษย์ผู้ชาย แต่เมื่อเราได้เห็นมูซังในร่างผู้หญิงหลายคนก็รู้สึกแปลกใจ (ขนาดอสูรที่เป็นลูกน้องยังแปลกใจ) ซึ่งเหตุผลที่มูซังต้องปลอมตัวเป็นเด็กบ้างผู้หญิงบ้างมันมีเหตุผลรองรับอยู่ซึ่งเราไม่ขอพูดถึงตรงนี้ แต่ที่รู้ก็คือเราสามารถระบุเพศของมูซังว่าเป็นพวกไร้เพศได้ด้วย เพราะเขาสามารถแปลงร่างเปลี่ยนเพศและสามารถเปลี่ยนได้แม้แต่กลิ่นตัว บรรยากาศความรู้สึกสัมผัสที่ปล่อยออกมาได้ด้วย ซึ่งในร่างสุดท้ายที่เราเห็นบนปกหนังสือเล่มที่ 22 มูซังก็มีรูปร่างเหมือนเพศชายแต่ไม่มีอวัยวะเพศให้เห็น  ซึ่งก็แล้วแต่การตีความของผู้อ่านก็แล้วกันว่าจะให้เขาเป็นเพศไหน

Kimetsu no Yaiba

ก็จบกันไปแล้วกับการวิเคราะห์ตัวละครสองเพศ หรือยังไม่รู้แน่ชัดว่าเขาคือเพศอะไรในอนิเมะ โดยเป้าหมายของบทความนี้ไม่ได้ต้องการให้หลายคนมาถกเถียง หรือต้องการระบุว่าตัวละครไหนเพศอะไรเพราะเหตุใด แต่ที่เราหยิบเรื่องนี้มาพูดถึงเพราะต้องการบอกให้ทุกคนทราบว่า ไม่ว่าเราจะเกิดเพศสภาพใดแบบไหน เราก็คือเพื่อนคือพี่น้องคนในครอบครัวคือคนในสังคมเดียวกัน ซึ่งเราไม่สามารถเลือกเกิดได้แต่เลือกที่จะเป็นคนดีได้ ดังนั้นอย่าเอาเรื่องเพศสภาพหรือสิ่งที่เขาหรือเธอเป็นมาล้อเลียนในทางตลก ส่วนในโลกของอนิเมะก็เริ่มมีการเปิดกว้างมากขึ้นซึ่งนับเป็นเรื่องดีมาก ๆ และเรื่องบางเรื่องก็ไม่ต้องไปหาคำตอบ แต่ปล่อยไว้แบบนี้ก็ไม่ได้แย่อะไรแถมยังดูลึกลับน่าสนใจกว่ารู้ความจริงด้วยซ้ำ ส่วนคราวหน้าจะหยิบเรื่องราวอะไรเกี่ยวกับอนิเมะมาพูดถึงอีกก็รอติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส