การสร้างโดจินเกมแรกของกลุ่มเซอร์เคิล Blessing Software ที่จะขายในงานคอมิเกะฤดูหนาว ใกล้ถึงเส้นตาย ต้องพบคู่แข่งที่มีเกมคล้ายกัน พวกอากิต้องเผชิญหน้ากับทั้งปัญหาทั้งภายในและภายนอกที่เข้ามาเรื่อยๆ

เนื้อเรื่องภาคแรก

อากิ โทโมยะ นักเรียนมัธยมปลายที่ใช้ชีวิตและหารายได้ในเรื่องที่เกี่ยวกับโอตาคุ ได้พบผู้หญิงที่สร้างความประทับใจให้เขาโดยบังเอิญจนได้ทราบว่าเธอ คือ เมกุมิ เพื่อนร่วมชั้นของเขาที่ไม่ค่อยมีใครสังเกตเห็นเธอ ทำให้เขาคิดที่จะปั้นเธอให้กลายเป็นนางเอกในผลงานชิ้นใหม่ของเขา ร่วมกับนักเขียนบทและนักวาดภาพที่มีฝีมือ จัดตั้งกลุ่ม Blessing Software และตั้งเป้าหมายจะเปิดตัวเกมใหม่ให้เป็นที่รู้จักในงาน Comiket ที่กำลังจะมาถึง

ไลท์โนเวลเรื่อง Saenai Heroine no Sodatekata (Saekano) เป็นผลงานการแต่งเรื่องของอาจารย์ Maruto Fumiaki วาดภาพประกอบโดยอาจารย์ Misaki Kurehito ปัจจุบันวางจำหน่ายถึงเล่มที่ 11 ในเดือนพฤศจิกายน 2016 ยังไม่จบ มีไลท์โนเวลเล่มพิเศษอีก 3 เล่ม ตีพิมพ์ภายใต้ตราของ Fujimi Fantasia Bunko จัดจำหน่ายโดย Fujimi Shobo วางจำหน่ายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2012 มาจนถึงปัจจุบัน
ภาคมังงะแบ่งเป็นหลายภาค Saenai Heroine no Sodatekata ภาคหลัก, Saenai Heroine no Sodatekata: Egoistic-Lily, Saenai Heroine no Sodatekata: Koisuru Metronome แล้วยังมีมังงะตามเนื้อหาภาค Girls Side เริ่มเขียนในช่วงเดือนตุลาคม ปี 2016

ข้อมูลและรายละเอียด

ทีวีอนิเมะเรื่อง Saenai Heroine no Sodatekata ♭ ผลิตโดยสตูดิโอ A-1 Pictures และเริ่มฉายทางโทรทัศน์ในประเทศญี่ปุ่นช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2017 (Spring 2017) มีจำนวน 11 ตอนจบ (รวมตอน 0 เป็น 12 ตอน)

รายละเอียดค่าย A-1 Pictures

บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ปี 2005 โดยอดีตโปรดิวเซอร์ของทาง Sunrise คุณ อิวาตะ มิกิฮิโร่ เป็นบริษัทสาขาของทาง Aniplex ซึ่งเป็นสาขาย่อยของทาง Sony Music Entertainment Japan อีกที
ชื่ออื่นที่เกี่ยวข้อง – วิธีปั้นสาวบ้านให้มาเป็นนางเอกของผม ภาค 2, Saekano: How to Raise a Boring Girlfriend SS2, 冴えない彼女 の育てかた 2, 冴えない彼女(ヒロイン)の育てかた ♭ (flat)

รายชื่อทีมงาน

  • Director: Kamei Kanta
  • Series composition: Maruto Fumiaki
  • Character design: Takase Tomoaki
  • Music: Hyakkoku Hajime
  • Animation production: A-1 Pictures

รายชื่อเพลงประกอบ

  • OP: “Stella Breeze (ステラブリーズ)” โดย Luna Haruna
  • ED: “Sakura-iro Diary (桜色ダイアリー)” โดย Moso Calibration (妄想キャリブレーション)

ตัวอย่างคลิป Preview

Play video

รายละเอียดตัวละครหลัก

อากิ โทโมยะ / Aki Tomoya

นักพากย์: Matsuoka Yoshitsugu

นักเรียนมัธยมปลายห้อง 2-B โรงเรียนโทโยกาซากิ เพื่อนวัยเด็กของเอริริ เป็นโอตาคุที่ชอบทั้งอ่านการ์ตูน เล่นเกม อ่านไลท์โนเวลและดูอนิเมะ มีความฝันคือต้องการเป็นโปรดิวเซอร์และปั้นเมกุมิให้เป็นนางเอกในผลงานเขา อย่างไรก็ตามยังคงขาดประสบการณ์ในด้านการทำงานจริง ส่งผลให้ก่อปัญหาตามมาและพัฒนาตนมากขึ้นในภายหลัง แม้จะไม่ได้แสดงความชอบต่อใครเป็นพิเศษ แต่เริ่มสนิทกับเมกุมิมากขึ้นในช่วงขึ้นมัธยมปลายปี 3 และโปรเจคเกมที่สอง คือ “Saenai Heroine no Sodatekata” (วิธีปั้นสาวบ้านให้มาเป็นนางเอกของผม)

คาโต้ เมกุมิ / Katou Megumi

นักพากย์: Yasuno Kiyono

เพื่อนร่วมชั้นของอากิ สัดส่วน 84/57/83 สาวดูดีแบบบ้านๆไม่ได้เด่นเป็นพิเศษในสายตาคนอื่น ตอบรับคำชวนของอากิ ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องของเขามากนัก ช่วงแรกทำหน้าที่เป็นต้นแบบให้กลุ่ม แต่ภายหลังเริ่มศึกษาโปรแกรมมิ่งเพื่อช่วยเหลือคนอื่น เริ่มชอบกลุ่มนี้มากขึ้นเรื่อยๆแต่เนื่องจากอากิคุยแต่เรื่องเกมและไม่สนความเห็นเธอมากนัก ทำให้เธอเริ่มแสดงความไม่พอใจมากขึ้น ช่วงท้ายของอนิเมะภาคสอง ช่วงปีสามเริ่มแสดงความรู้สึกและความสนิทสนมกับอากิมากขึ้น

ซาวามูระ สเปนเซอร์ เอริริ / Sawamura Spencer Eriri

นักพากย์: Oonishi Saori

นักเรียนมัธยมปลายห้อง 2-G สัดส่วน 79.9/56/86 เพื่อนวัยเด็กของโทโมยะ ลูกครึ่งอังกฤษญี่ปุ่น มีชื่อเสียงในโรงเรียนมาก แต่ตัวจริงเธอเป็นโอตาคุที่ชอบเล่นเกม และยังเป็นนักวาดโดจิน 18+ ภายใต้นามแฝง Kashiwagi Eri จากกลุ่มเซอร์เคิล Egoistic-Lily โดยได้รับอิทธิพลจากทั้งพ่อและแม่ที่ชอบการ์ตูนมาก เข้าร่วมกลุ่ม Blessing Software ในฐานะคนวาดภาพ ชอบโทโมยะแต่ปากไม่ตรงกับใจ บ่อยครั้งทะเลาะกับอุตะฮะ ช่วงท้ายของอนิเมะภาคสองออกจากกลุ่มเซอร์เคิลแล้ว ร่วมโปรเจคทำเกมชื่อดัง

 

คาสึมิกาโอกะ อุตะฮะ / Kasumigaoka Utaha

นักพากย์: Kayano Ai

นักเรียนมัธยมปลายห้อง 3-C สัดส่วน 89/61/88 สวยและมีชื่อเสียงในโรงเรียน เป็นนักเขียนนิยายภายใต้นามแฝง Kasumi Utako เคยมีผลงานเรื่องแรกคือ  Koisuru Metronome ที่ขายได้กว่า 5 แสนเล่ม แล้วยังเป็นนักวิจารณ์ฝีปากจัดหลังโทโมยะปฏิเสธที่อ่านเล่มสุดท้ายของผลงานเธอที่ยังไม่ตีพิมพ์ เธอจึงเข้าร่วม Blessing Software แสดงความชอบต่อโทโมยะมากกว่าคนอื่นทำให้ทะเลาะกับเอริริบ่อยครั้ง ช่วงท้ายของอนิเมะภาคสอง สำเร็จการศึกษา ออกจากกลุ่มเซอร์เคิลแล้วไปร่วมโปรเจคทำเกมชื่อดัง

เฮียวโด มิจิรุ / Hyoudou Michiru

นักพากย์: Yahagi Sayuri

เป็นลูกพี่ลูกน้องของโทโมยะ นักเรียนมัธยมปลายปีสองของโรเรียนสตรีสึบากิ สนิทกับโทโมยะมาตั้งแต่เด็กมากโดยเข้าใกล้เขาเสมอ แต่ไม่ได้แสดงความรู้สึกพิเศษเหมือนคนอื่น เล่นกีตาร์ในวง Icy Tail ถึงไม่ได้ชอบเรื่องโอตาคุเป็นพิเศษ แต่พบว่ามีเธอเพียงคนเดียวในวงที่ไม่ชอบเรื่องพวกโอตาคุ ช่วยทำเพลงให้กลุ่ม Blessing Software และช่วยพวกเรื่องทั่วไป

Hashima Izumi

นักพากย์: Akasaka Chinatsu

เด็กมัธยมต้นปีสาม น้องของอิโอริเพื่อนเก่าของอากิ สัดส่วน 88/58/86 อยู่ในกลุ่มเซอร์เคิล Fancy Wave ภายหลังย้ายมาอยู่กลุ่ม Rouge en rouge ของพี่ชายทำให้กลายเป็นคู่แข่งกับพวก Blessing Sofeware อากิเคยมอบเกมให้เป็นของขวัญวันเกิดทำให้เธอปลื้มในตัวเขา หลังจากพวกอุตาฮะเรียนจบไปและพวกอากิขึ้นมัธยมปลายปีสาม เธอและพี่ได้ออกจากกลุ่ม Rouge en rouge แล้วเธอได้เข้ามาเรียนต่อในโรงเรียนของพวกอากิ

รายละเอียดของเนื้อเรื่องตั้งแต่ตอนที่ 1-11

เนื้อเรื่องในตอนที่ 1 จะเริ่มด้วยการที่เอริริ ทะเลาะกับอุตาฮะ เรื่องที่เพิ่มจำนวนตัวละครในอีเวนต์สระน้ำเข้าไปอีกจาก 2 เป็น 5 คน ด้านอากิเล่าเหตุผลที่ทั้งสองรู้จักกันให้คาโต้ฟัง

ย้อนไป 1 ปีก่อน ตัวเอริรินั้นไม่พอใจที่ อุตาฮะไปอยู่กับอากิเป็นประจำโดยเอานิยายไปชวนคุยซึ่งเขาไม่ได้สนใจอย่างอื่นนอกจากตัวละครกับนักเขียน จนอุตาฮะบอกเรื่องที่ตนเป็นนักเรียนที่ใช้นามแฝงว่าอุตาโกะ ด้านเอริริที่เริ่มติดนิยายเรื่องนี้ ต้องการลายเซ็นแต่บอกตรงๆไม่ได้

ด้านอุตาฮะสนใจเธอและทราบจากโทโมยะว่าไม่ได้ติดต่อกันภายในโรงเรียนนอกจากทางมือถือ เธอจึงไปหาที่ห้องชมรมที่ห้ามคนนอกเข้ามา แต่ก็เข้าไปจนทราบว่าเอริริเป็นนักวาดภาพที่มีชื่อเสียงและนามแฝง ซึ่งอุตาฮะชอบภาพวาดของเธออยู่ จึงไปคุยกับเธอจนเริ่มเข้าใจกัน แต่ก็จบที่การทะเลาะกัน

อากิก็ได้เสนอให้มีการแจกลายเซ็นต์ร่วมกัน คาโต้จึงไปซื้อการ์ดมาให้ทั้งสองวาดภาพพร้อมกับลายเซ็น

ในตอนที่ 1 ก็ถือว่าเป็นการเปิดเรื่องในภาค 2 ที่ดีครับทำให้เราได้รู้ว่าทำไมตัวเอริริกับรุ่นพี่อุตาฮะถึงได้ทะเลาะกันและมีความสัมพันธ์ในด้านต่างๆออกมาในลักษณะนั้น รวมไปถึงใช้ตัวละครหลักคือโมโมยะในการเชื่อมโยงในความสัมพันธ์นั้นออกมาได้ดีแสดงให้เราเห็นจุดเด่นของตัวละคร

เนื้อเรื่องในตอนที่  2  จะเป็นการที่เอริริสะกดรอยตามอุตาฮะและอากิ ด้วยความสงสัย โดยมีเมกุมิตามไปด้วยอีกคน และเดินไปพร้อมกับเธอในห้างสรรพสินค้า

ด้านทางอากิก็คุยเรื่องงานกับรุ่นพี่อุตาฮะ เธอให้ไฟล์งานเขาเกี่ยวกับบทที่ร่างขึ้นอีกบทหนึ่ง

พวกเอริริมาตามนัดในเช้าวันต่อมา เมกุมิรู้ที่ซ่อนกุญแจของบ้านเขาจนเอริริสงสัย ในบ้านอากิก็เริ่มอ่านบทร่างที่รุ่นพี่อุตะฮะเขียนขึ้น ซึ่งเนื้อหาประทับใจเขามาก ต่างจากที่เธอเคยเขียนสิ้นเชิง แต่ถ้าเปลี่ยนเนื้อหาตอนนี้จะส่งผลกระทบโดยรวมต่องานที่กำลังผลิตอยู่ เอริริให้อากิตัดสินใจเรื่องการแก้บทเอง

ด้านเอริริต้องการให้เขาพูดถึงชุดใหม่ของเธอที่เพิ่งซื้อมา แต่อากิไม่ได้ใส่ใจ จนเมกุมิพูดขัดเอริริที่รอคำชมจากอากิอยู่ ในเกมที่เธอโหลดมาและแนวคล้ายกับที่พวกเธอกำลังทำนั้น เป็นผลงานที่วาดโดย อิซึมิ จากเซอร์เคิลของ rouge en rouge

พอมาในตอนที่ 2 เนื้อเรื่องจะเริ่มมีความเข้มข้นในด้านของการสร้างเกมเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยในตอนนี้จะ Focus และ Concentrated ไปในจุดของการเขียนบทซึ่งมีความน่าสนใจคือจะเป็นการตัดสินใจของตัวโทโมยะว่าจะใช้เนื้อเรื่องบทที่เขียนโดยรุ่นพี่อุตาฮะแต่ในคราวนี้เป็นเนื้อเรื่องที่เธอเขียนแล้วทำให้ตัวโทโมยะประทับใจมาก เขาจึงต้องคิดทบทวนว่ามันจะส่งผลกับตัวเกมมากน้อยแค่ไหนทำให้เราเห็นพัฒนาการของตัวละคร

เนื้อเรื่องในตอนที่  3 จะเป็นเหตุการณ์ที่โทโมยะไปพบกับอิโอริ พี่ชายของอิซึมิและเพื่อนเก่าของเขา หัวหน้ากลุ่มเซอร์เคิล “rouge en rouge” พูดถึงเกมที่จะขายในงานคอมิเกะฤดูหนาวซึ่งผลิตเกมแนวเดียวกับ Blessing Software ทำให้เขารู้สึกว่าอิโอริกลายเป็นคู่แข่ง ส่วนด้านอิโอริก็มั่นใจว่าจะไม่แพ้โทโมยะ จนสร้างความคาใจให้กับเขา

ช่วงงานเทศกาลโรงเรียนที่กำลังจะมาถึงเมกุมิก็มาช่วยงานที่บ้านซึ่งเอริริทราบเรื่องนี้จากเมกุมิจนโทโมยะให้เพื่อนของ มิจิรุ อีกสามคนมาช่วยงานกลุ่ม หลังพยายามกันก็หมดไปอีกวัน

ในคืนนั้นเอง โทโมยะได้ทดสอบเกมด้วยตนเองทำให้อากิเข้าใจว่าเกมที่ตนเองพยายามทำนั้น…..กลายเป็นเกมที่ห่วยแตก

เขาได้คุยกับอุตาฮะบอกเรื่องเกมที่กำลังทำว่ากลายเป็นเกมที่แย่ แล้วต้องการแก้ไขบทของอุตาฮะใหม่

ในตอนที่ 3 ก็จะเปิดเผยให้เราได้รู้ว่าโทโมยะนั้นก็มีคู่แข่งที่จะมาขายเกมในคอมิเกะฤดูหนาวคือเพื่อนของเขาอิโอริ ซึ่งตัวเกมที่พวกเขาจะขายนั้นมีความคล้ายครึงกันทำให้โทโมยะอยากจะชนะ จุดที่ดีที่สุดในตอนนี้คือเราจะได้เห็นความร่วมมือและช่วยเหลือกันของเพื่อนๆตัวเอกเหมือนกับความเป็นจริงคือในตอนที่เพื่อนลำบากเราก็ต้องช่วยเหลือ อีกอย่างที่น่าสนใจในตอนนี้คือพอโทโมยะได้ลองเล่นเกมที่เขาทำก็ได้เข้าใจว่าเกมมันแย่ขนาดไหนทำให้เขาอยากจะแก้ไขบทที่เขียนของรุ่นพี่อุตาฮะคือเหมือนเขาจะเข้าใจในการพัฒนาเกมมากยิ่งขึ้น

เนื้อเรื่องในตอนที่ 4 อุตาฮะต้องการเหตุผลที่เขา(โทโมยะ)ไม่พอใจบทเธอ ทั้งที่เธอเป็นถึงนักเขียนนิยายขายดี โทโมยะก็อธิบายว่าถึงเธอจะเป็นนักเขียนนิยายที่ต้องเขียนทุกบทให้ดีสุดสำหรับผู้อ่าน แต่บทในเกมที่มีทางแยกจะมีจุดต่างกันซึ่งสิ่งที่เธอเขียนกลายเป็นนิยายมากกว่าเกม เขาคิดว่าอิโอริน่าจะทราบเรื่องนี้ดี จึงมั่นใจว่าเซอร์เคิลเขาจะไม่แพ้ ทำให้โทโมยะต้องการแก้บท ในฐานะคนดูแลบทเกม

อุตาฮะตัดสินใจที่จะช่วยเขาอีกแรงในการปรับเปลี่ยนบทที่บ้านพัก อากิพยายามแก้ไขบท ในขณะที่อุตาฮะเช็คทุกจุดร่วมกับเขาตามลำพัง จนเวลาผ่านไปร่วมสามวันจึงแก้ไขเสร็จ

หลังจบงานที่โรงเรียน ช่วงเต้นหน้ากองไฟหลังจบงานเทศกาล พวกกลุ่มของโทโมยะไม่ได้เข้าร่วมจนเมกุมิปล่อยผมและชวนโทโมยะไปเต้นรอบกองไฟกับเขา

สำหรับเกมที่กำลังผลิตนี้อุตาฮะได้บอกเอริริว่าจะใช้นามแฝงใหม่ในฐานะคนเขียนบทเกม Taki Utako

มาในตอนที่ 4 จะเป็นการแสดงให้เราเห็นว่ารุ่นพี่อุตาฮะต้องการรู้ว่าบทที่ตนเองเขียนนั้นไม่ดีตรงไหนพอโทโมยะอธิบายให้เธอฟังเธอก็เข้าใจและตัดสินใจที่จะช่วยเขาในการปรับปรุงแก้ไขบททำให้เรารู้ว่ารุ่นพี่อุตาฮะใส่ใจในความรู้สึกของโทโมยะมากแค่ไหนและเธอก็มีวิสัยทัศน์ที่กว้างมากขึ้น ส่วนเหตุการณ์ต่อมาที่คาโต้มาชวนโทโมยะที่ไม่ได้เข้าร่วมงานเทศกาลไปเต้นรอบกองไฟก็เป็นการพัฒนาของตัวละครที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน

เนื้อเรื่องในตอนที่ 5 มีคนมาสารภาพรักกับเมกุมิ คนอื่นๆไปดูเธออยู่ห่างๆจนชายคนนั้นโดนปฏิเสธไป

ถึงเหลือเวลาร่วมเดือนกว่าจะถึงวันงานคอมิเกะฤดูหนาว แต่เหลือเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนจะถึงวันส่งแผ่นมาสเตอร์ มีการพูดคุยเรื่องการวาดภาพฉากอีเวนต์ CG ซึ่งต้องทำให้เสร็จทันเวลา เอริริได้รับปากว่าจะทำให้ได้ โทโมยะ จึงเชื่อว่าเธอจะต้องทำได้จริงตามที่พูด แต่อุตาฮะรู้ว่างานหนักเกินกว่าที่นักวาดคนเดียวจะรับเอาไว้

เนื่องจากมีคนวาดภาพ CG เพียงคนเดียวจึงไม่มีคนอื่นช่วยได้  เอริริจึงไปทำงานที่บ้านพักตากอากาศของเธอตามลำพัง แล้วติดต่อเขาที่กังวลเรื่องงานเป็นระยะ ระหว่างรอ มีการพูดถึงระดับความกังวลในการรองาน 4 ระดับ โทโมยะเริ่มกังวลมากขึ้นทุกวัน

อากิเริ่มเป็นห่วงเอริริที่กำลังทำงานอย่างหนักแบบหามรุ่งหามค่ำมากขึ้น แต่ไม่สามารถไปหาเธอได้ จนเธออาการทรุดหนักระหว่างที่คุยกับเขา

ในตอนที่ 5 จะเป็นเหมือนการแสดงคำสอนว่าเราไม่ควรจะแบกรับความขาดหวังหรือเอาภาระหน้าที่มาใส่ตนเองจนมากเกินไปเพราะจะเป็นเหมือนการปิดกั้นตนเองจากภายนอก ในเรื่องจะเป็นการที่เอริริพยายามวาดภาพให้ทันกำหนดส่งโดยเธอตัดสินใจว่าจะทำมันให้เสร็จแล้วค่อยกลับมาจากบ้านพักทำให้ตัวโมโมยะเป็นห่วงเธอมากว่าเธอกำลังฝืนตนเองอยู่หรือเปล่าเป็นจุดตัวละครมีความสัมพันธ์กันในเชิงความห่วงใย

เนื้อเรื่องในตอนที่ 6 จะเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากตอนที่แล้วที่เอริริฟื้นจากไข้ก่อนหน้านี้ โทโมยะก็รีบติดต่อหา อิโอริ เพื่อรบกวนให้พาเขาไปยังที่พักของเธอ เมื่อไปถึงก็ได้พาเธอไปรักษาและพบว่าไม่สบาย หลังรักษาก็ให้เธอพักผ่อน

โทโมยะเฝ้าไข้เอริริจนถึงช่วงคืนวันคริสต์มาส และมีการพูดคุยเรื่องอดีตตอนเด็กของทั้งสอง

ด้านงานบางส่วนนั้นจำเป็นต้องรบกวน อิโอริและอิซึมิ ในการทำงานในส่วนของเอริริที่ยังค้างอยู่ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน

งานคอมิเกะวันสิ้นปี กลุ่ม blessing software จำหน่ายเกม cherry blessing ในงานโดยมีจำหน่ายเพียง 100 ชุดและทำเลไม่ดีนัก แต่เกมก็ขายได้หมดในเวลาสั้นๆทำให้อากิพอใจ ด้านอิโอริมาพบกับอากาเนะ รุ่นพี่ที่รู้จักในงาน

ระหว่างเดินไปด้วยกัน คาโต้ได้ปฏิเสธที่จะไปร่วมฉลองกับคนอื่น โทโมยะเขาไม่เข้าใจ จนเธอบอกเรื่องที่เขาพูดแต่เรื่องอื่นที่เกี่ยวกับงานและคนอื่นมาตลอดโดยไม่จำเป็นต้องบอกเธอก็ได้ ก่อนเดินจากไป

ในตอนที่ 6 ก็จะเป็นการดำเนินเนื้อเรื่องต่อมาจากที่ 5 ที่ตัวเอริริพยายามมากเกินไปจนกลายเป็นแรงกดดันตนเองให้ทำงานวาดภาพหนักเกินไปจะล้มป่วยแต่เมื่อตัวละครเอกอย่างโทโมยะเข้ามาช่วยเหลือได้ทันก็กลายการพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นได้แน่นแฝงขึ้นไปอีก ตัดมาอีกส่วนคือการวางจำหน่ายเกม cherry blessing ที่งานคอมิเกะที่แสดงให้เราเห็นชัดเจนว่าการที่เราทำอะไรๆกับเพื่อนนั้นถ้าตั้งใจร่วมมือกันก็จะประสบผลสำเร็จ ส่วนในช่วงท้ายตอนก็เป็นการทิ้งปมของตัวละครคาโต้ที่ก็ทำให้เรื่องน่าติดตาม

เนื้อเรื่องในตอนที่ 7 หลังจากจบงานคอมิเกะฤดูหนาวที่ผ่านไปได้ด้วยดี เกมได้รับความสนใจอย่างมาก อากิบอกเรื่องนี้กับเอริริ เขายังไม่ค่อยเข้าใจคาโต้ที่เหมือนเลี่ยงที่จะคุยกับเขาเป็นเดือน รวมทั้งเลี่ยงรับโทรศัพท์จากเขา

เวลาผ่านไปถึงช่วงวันวาเลนไทน์ ทางด้านอิโอริได้นำช็อคโกแลตวาเลนไทน์มาให้อากิ เพื่อขอบคุณเขา ก่อนชวนคุยเรื่องงานในคอมิเกะฤดูร้อนปีนี้และคนในเซอร์เคิลเขาชอบเกมของพวกอากิ เขายังเผาเรื่องโดจินเมื่อสามปีก่อนที่เขาเคยทำร่วมกับอิซึมิซึ่งอากิไม่อยากเห็นมันนัก

ก่อนจะไปอิโอริยังพูดเรื่องที่ไม่เข้าใจ ที่ให้อากิรักษากลุ่มเขาไว้ให้ได้จนถึงงานครั้งหน้า โดยเฉพาะสมาชิกหลักอย่างอุตาฮะ และเอริริ

ด้านอากิเตรียมงานต่อไป แต่ก็ยังคิดชื่อโปรเจคไม่ออก วันต่อมาเขาได้รับช็อคโกแลตจากเอริริ มีการแซวว่าเคยได้เป็นครั้งที่สองนับจากอันแรกเมื่อ 9 ปีก่อน รุ่นพี่อุตาฮะก็ให้ช็อคโกแลตเช่นกันชวนคุยหลายเรื่อง แล้วเธอกำลังจะเข้ามามหาวิทยาลัยและเขียนผลงานใหม่ อากิชวนให้เธอช่วยเขาต่อถึงยังไม่รับปาก แต่เธอพูดเรื่องเอริริที่ไม่มีภาพวาดใหม่ทั้งที่หายดีแล้ว

อากิยังกังวลเรื่องของคาโต้มาตลอด จนนึกเรื่องที่เธอพยายามช่วยงานอย่างหนักโดยที่เขาไม่เคยสังเกตหรือชมเธอมาก่อน เขารู้สึกผิด ผลงานชิ้นต่อไปของกลุ่ม จึงตั้งชื่อว่า “Saenai Heroine no Sodatekata” (ตามชื่อเรื่อง)

พอมาในตอนที่ 7 จะเป็นการที่แต่ละตัวละครเข้ามาพูดคุยและทำสิ่งดีๆให้แก่กันไม่ว่าจะเป็นตัวละครเอริริที่ยอมให้ช็อคโกแลตกับโทโมยะ หรือ ตัวรุ่นพี่อุตาฮะที่ยอมเปิดใจคุยเรื่องเรียนต่อมหาวิทยาลัย แล้วในช่วงหลังในตอนนี้ก็จะแสดงให้เราเห็นถึงปัญหาที่ตัวโทโมยะประสบกับคะโต้นั้นคือการที่เขาไม่ได้ใส่ใจหรือสนใจคนที่ช่วยเหลือเขามาโดยตลอด เป็นจุดที่ตัวละครโทโมยะเกิดการพัฒนา

เนื้อเรื่องในตอนที่ 8 อากิเริ่มรู้สึกผิดที่ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของคาโต้เลย เขาจึงไปพบคาโต้แล้วพาไปคุยที่ห้องกระจายเสียงโดยชวนคุยเรื่องงานใหม่ที่กำลังทำ โดยอธิบายรายละเอียดของงานชิ้นใหม่ คาโต้แสดงความไม่พอใจที่ต้องมาร่วมงานกันทำผลงานชิ้นใหม่อีก อากิยืนยันที่ว่าต้องการทุกคนรวมทั้งเธอให้มาร่วมงานต่อไปกับเขา

อากิยังพูดเรื่องที่คิดว่าเธอโมโหก่อนหน้านี้เพราะเธอหึงพวกเอริริกับอุตาฮะ ทำให้คาโต้ปฏิเสธแบบงงๆด้านอากิจึงแสดงความอายที่คิดว่าจะเป็นแบบในเกม อย่างไรก็ตามเขาตั้งใจสร้างบรรยากาศเท่านั้น

อากิทราบดีว่าเธอเคืองเพราะเธอรักกลุ่มโดจินของเขามากกว่าที่เขาคิด แต่กลับปฏิบัติให้เธอไม่มีส่วนร่วมจนทำให้เธอกลั้นน้ำตาไม่อยู่ อย่างไรก็ตามเธอต้องการมากกว่าคำขอโทษ

อากิจึงไปเดินช็อปปิ้งและทานอาหารกับเธอที่บ้านของเขา จึงบอกว่าเข้าใจเธอมากขึ้น แต่อากิยังคงลืมตัวเหมือนเคยคุยแต่เรื่องเกมใหม่ จนคาโต้เรียกเขามาอบรมให้เข้าใจความรู้สึกคนอื่น

เธอค้างในบ้านเขาคืนนั้นแล้วชวนคุยเรื่องคนอื่นๆอย่างเรื่อง รุ่นพี่อุตาฮะที่กำลังจะจบ กับเอริริที่ยังไม่เริ่มวาดภาพใหม่ ก่อนจะเข้านอน

ในตอนที่ 8 นี่คงไม่ต้องพูดอะไรให้มากความสามารถสรุปได้สั้นๆคือทั้งตัวอากิและคะโต้ทั้งสองคนพยายามปรับความเข้าใจกันแต่ที่ผมอยากจะพูดคืออย่ามองว่าเป็นความรักใคร่กันให้มองไปในทางมิตรภาพระหว่างเพื่อนดีกว่าเพราะผมก็ประสบพบเจอมาจริงๆคือถ้าเป็นเพื่อนกันจริงๆอะแค่โกรธหรือพูดผิดคอกันวันสองวันก็กลับมาคืนดีคุยกันเหมือนเดิมแล้ว

เนื้อเรื่องในตอนที่ 9 เป็นช่วงที่พิธีจบการศึกษาของรุ่นพี่อุตาฮะมาถึง อากิก็มาแสดงความยินดีและพูดคุยกับเธอรวมถึงเรื่องงานใหม่ที่กำลังทำอยู่โดยให้เธอดูงานเขียนของเขาและเธอให้คะแนน 75 แต้ม

ถึงต้องการให้เธอช่วยแม้จะแค่ในตำแหน่งดูบทโดยรวม รุ่นพี่อุตาฮะก็ไม่สามารถช่วยงานใหม่ของเขาได้ รวมถึงเอริริด้วยเช่นกัน

อุตาฮะได้รับเอกสารการเสนองานจากโคซากะ อากาเนะ เป็นงานเขียนบทของเกม RPG ชื่อดังซึ่งในมุมมองของผู้สร้างผลงานต้องการเติบโตขึ้นและก้าวเข้าสู่วงการ คนที่ต้องการไม่ใช่ตัวอุตาฮะเท่านั้น แต่คนที่ต้องการมากสุดคือเอริริในตำแหน่งคาแร็กเตอร์ดีไซน์

ก่อนหน้านี้ โคซากะ อากาเนะ อดีตผู้ก่อตั้งจากเซอร์เคิล Rouge en rouge และมีชื่อเสียงในวงการในฐานะนักวาดการ์ตูน เธอได้เล่นเกมของพวกอากิ (ตอนที่ 6) ทำให้สนใจจึงติดต่อมาโดยตรง เรื่องนี้อุตาฮะทราบจากคนในบริษัทเธอรวมถึงเรื่องที่สนใจเอริริมาร่วมโปรเจค เธอติดต่อทั้งสองมาพูดคุยที่ให้มาร่วมงาน เธอจะทุ่มเทกับโปรเจคนี้ในปีหน้า ทำให้ทราบว่าเธอไม่ได้ต้องการอุตาฮะเป็นพิเศษแต่ต้องการเอริริ เพราะได้เห็นภาพก่อนที่เธอจะล้มในช่วงปลายปีก่อนแล้วสนใจ

เมื่อเอริริพยายามเจรจาเรื่องที่ตนยังต้องการอยู่เซอร์เคิลเดิมและไม่อยากรับงานใหญ่เพราะยังกลับไปวาดรูปเหมือนเดิมไม่ได้ ทำให้ถูกหัวเราะใส่ที่ยังเรียกตนเองว่าเป็นนักวาด แล้วพูดเรื่องที่เธอยังพัฒนาต่อได้ ซึ่งงานระดับเธอไม่ยากที่คนอื่นจะทำตาม

พอมาในตอนที่ 9 ช่วงแรกจะเป็นการที่พวกอากิมาแสดงความยินดีกับพิธีจบการศึกษาของรุ่นพี่อุตาฮะ และมีความพลิกผันที่ว่าตัวรุ่นพี่อุตาฮะกับเอริริอาจไม่ได้เข้าร่วมเซอร์เคิลในการทำโปรเจคต่อไป และในช่วงนั้นเองทั้ง 2 คนก็รับข้อเสนอให้ไปร่วมเซอร์เคิล Rouge en rouge เป็นเซอร์เคิลที่มีชื่อเสียงทำให้ทั้ง 2 คนต้องคิดหนัก แต่เอริริก็ปฏิเสทที่จะเข้าร่วมอย่างชัดเจน

เนื้อเรื่องในตอนที่ 10 จะย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ พวกเอริริคุยถึงเรื่องที่ได้รับงานใหญ่จากอากาเนะถึงจะไม่พอใจกับท่าทางของเธอแต่เอริริแสดงความสนใจกับข้อเสนอนั้นเพราะเธอชอบเกมนั้นตั้งแต่เด็ก อุตาฮะไม่ค่อยพอใจกับท่าทางของเธอและเตือนเธอถ้าคิดจะร่วมงานนั้น อิโอริได้ทราบความต้องการของอากาเนะที่อยากทำเกมดีที่สุดจากความช่วยเหลือของทั้งสองโดยไม่สนศัตรูที่เพิ่มเข้ามา ด้านอิโอริขอแยกตัวจากกลุ่มของอากาเนะเพราะต้องการทำอย่างอื่นที่อิสระกว่านั้น

อุตาฮะได้ทราบว่าบรรณาธิการเธอเคยเป็นเพื่อนเก่ากับอากาเนะแต่ไม่ได้ติดต่อกันแล้ว

เอริริถึงจะกลับมาวาดภาพได้และแสดงให้อุตาฮะเห็น แต่เธอเศร้าที่กลับมาวาดได้เพราะการยั่วยุของอากาเนะมากกว่าที่จะมาจากคำปลอบและคำชมของอากิ ทำให้เธอเข้าใจว่าอยู่กับกลุ่มโดจินของอากิต่อจะทำให้เธอก้าวต่อไปไม่ได้ ซึ่งทำให้เธอเศร้ากับความรู้สึกของตนแบบนั้น แล้วต้องทรยศเขาอีกครั้งอย่างไรก็ตามเธอต้องการพิสูจน์ว่าตนเหนือกว่าพวกอากาเนะ

ในเดือน 4 อิโอริได้ไปคุยกับอากิ เขาเข้าใจที่พวกเอริริต้องก้าวหน้าต่อไปในวงการเขาแจ้งเรื่องที่ทั้งตนและน้องสาวออกจากกลุ่ม rouge en rouge โดยบอกว่ามีสิ่งที่อยากทำมากกว่า

ระหว่างที่กลุ้มกับเรื่องสมาชิกและงานใหม่ที่คนไม่พอจนอาจต้องล้มเลิก อากิได้พบกับคาโต้ในที่เขาเคยพบเธอครั้งแรก เธอกลับมาตัดผมสั้นอีกครั้งและชวนเขาออกเดท

มาถึงตอนที่ 10 เป็นตอนที่ทำให้เราแสดงให้ถึงพัฒนาการของตัวละครเอริริกับรุ่นพี่อุตาฮะที่ทั้งสองคนได้เข้าใจกันมากยิ่งขึ้น เอริริก็กลับมาวาดภาพได้อีกครั้ง ส่วนรุ่นพี่อุตาฮะก็เริ่มตัดสินใจเรื่องอนาคตได้แล้ว จัดเป็นอีกตอนที่มีคุณค่าในลักษณะของมิตรภาพระหว่างเพื่อน

เนื้อเรื่องในตอนที่ 11 เป็นเหตุการณ์ต่อจากที่คาโต้ชวนโทโมยะออกเดท โดยพูดถึงเรื่องที่ตั้งใจจะวางแผนเก็บข้อมูลของเกมใหม่ที่กำลังทำ ส่วนหนึ่งก็เที่ยวไปด้วยและส่วนหนึ่งคือเขาเคยทิ้งเธอไว้ตอนเที่ยวเมื่อปีที่แล้วทำให้เขานึกขึ้นมาได้ มีการไปเที่ยวในที่ต่างๆและเลือกหมวกให้คาโต้เหมือนเมื่อปีที่แล้ว เมื่อกลับไปจุดเดิมเธอยังสัญญาที่จะไม่ออกจากกลุ่มเซอร์เคิลของเขาไป ทำให้เขาดีใจและเริ่มร้องไห้แต่เธอก็หยุดก่อนจะยื่นมือไปปลอบเขา

ก่อนเดินทางไปโอซาก้า โทโมยะได้ไปคุยกับพวกเอริริและอุตาฮะ แล้วให้คุยกับเมกุมิผ่านโทรศัพท์ด้วยเขาดีใจที่ทั้งสองได้ทำงานที่มีชื่อเสียงและไม่ได้โทษเรื่องที่ออกกลุ่มเขาไป เอริริขอแว่นของเขา(โทโมยะ)ไว้และจะจูบ แต่อุตาฮะดันดึงเขาไปจูบทำให้เอริริโมโห เมื่อสังเกตก็เพิ่งพบว่าตกรถไฟเที่ยวนั้นไปซะแล้ว

ขึ้นภาคเรียนใหม่ โทโมยะได้เข้าไปทักเมกุมิ(เริ่มเรียกชื่อจริงแทนคาโต้) ระหว่างทางเดินเธอได้กลั้นหัวเราะแว่นใหม่ของเขา(โทโมยะ) อิซึมิได้มาเรียนต่อมัธยมปลายที่นี่ด้วยอีกคน ส่วนพวกรุ่นพี่อุตาฮะกับเอริริก็คอยดูทั้งสองอยู่ห่างๆและทะเลาะกันจนพวกเมกุมิเห็น

พอมาถึงในตอนสุดท้ายตอนที่ 11 ก็ถือการดำเนินเนื้อเรื่องที่ดีเพราะคาโต้ก็ไปออกเดทกับโทโมยะทำให้พวกเขานึกถึงเรื่องเก่าๆสมัยที่เพิ่งรู้จักกันทำให้ความสัมพันธ์และความเข้าใจกันเพิ่มมากขึ้นไปอีก แล้วก็มีอีกเหตุการณ์คือการบอกลากับเอริริและรุ่นพี่อุตาฮะถึงแม้จะมีการเซอร์วิสเล็กน้อยแต่ก็ทำให้เราเห็นมิตรภาพ(ถึงจะไม่ได้ลากันจริงๆก็ตาม) ส่วนในช่วงท้ายตอนจะเป็นการบอกคนดูว่าแต่ละตัวละครในปัจจุบันนั้นกำลังทำอะไรอยู่แสดงให้เราเห็นว่าเพื่อนกันถึงแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดแต่เพื่อนก็คือเพื่อนต้องคอยช่วยเหลือกัน

บทวิเคราะห์

  • ก็ต้องมาเริ่มกันจากข้อดีของเรื่องนี้กันก่อนว่าในส่วนของเนื้อเรื่องมีการนำเสนอเนื้อเรื่องที่เรียบเรียงอย่างเป็นขั้นเป็นตอนไม่ได้เร่งเนื้อเรื่องหรือนำเสนอหลายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่จำเป็นมากเกินไป แต่ในบางตอนผู้ผลิตก็ไม่ได้ใส่ใจตัวละครและนำออกมาใช้อย่างคุ้มค่า เช่น ตัวละครมิจิรุที่เราจะเห็นเธอเพียงแค่ตอนมาช่วยโทโมยะกับตอนจบถือว่าเป็นข้อเสียเพียงเล็กน้อยของเรื่องนี้
  • จุดต่อมาที่เราต้องมาพูดถึงคือใจความหลักหรือแก่นของเรื่องที่ต้องการจะนำเสนอผู้ชมคือเรื่องของการทำเกมในเซอร์เคิล (ชมรม) ของพวกเขาถ้าจะให้บอกว่าทำออกมาได้สมเหตุสมผลไหมก็ถือว่าโอเคเพราะในเรื่องก็จะพูดถึงการการเขียนบทหรือการวางบท (Storyborld) , การวาดภาพประกอบในเกม , การที่เราต้องเข้าใจถึงความชอบของผู้ที่ซื้อเกมเรา เป็นต้น แต่จุดต่างๆเหล่านี้จะดูเบาบางมากถ้าเทียบกับเนื้อเรื่องของตัวละครหลักที่เขาต้องการจะนำเสนอ
  • ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีเพราะเวลาที่คนในเซอร์เคิลร่วมกันทำงานก็แสดงให้เราเห็นถึงมิตรภาพและความเข้าใจซึ่งกันและกัน ถึงจะดูประจบประแจงตรงที่เพื่อนรอบๆตัวโมโมยะเป็นผู้หญิงแต่ถ้าก้าวข้ามจุดนี้ไปได้เราก็ได้เห็นถึงความเป็นเพื่อนของพวกเขา
  • พอมาพูดถึงจุดเสียหรือจุดที่ผมค่อนข้างเกียจก็ตรงที่ตัวละครหญิงในเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็น เอริริ , รุ่นพี่อุตาฮะ , คาโต้ กลับตกหลุมรักตัวละครเอกอย่างโทโมยะโดยที่ไม่มีเหตุผลและเรื่องไม่เคยจะบอกเลยถึงจะพูดว่าเพราะโทโมยะเคยช่วยเหลือพวกเขาแต่ว่ามันก็คงไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้นที่ตัวละครจะเกิดอารมณ์ชอบคอกันตามความเป็นจริง
  • คุณภาพของอนิเมชั่นของเรื่องนี้ก็แน่นอนว่าทำได้ดีสุดยอดแน่นอนเพราะผลิตโดยค่าย A1 Picture ที่ถือว่าเป็นค่ายอนิเมะชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทสญี่ปุ่นเลย ตัวละครออกแบบและถ่ายทอดเอกลักษณ์ออกมาจากเวอร์ชั่นนิยายได้อย่างชัดเจนและเข้าถึงได้ง่าย ผมว่าเรื่องนี้ก็คงจะเหมาะกับเด็กที่ค่อนข้างโตนิดหน่อยเพราะมีฉากเซอร์วิสอยู่มากอยู่
  • อีกจุดที่ผมไม่ชอบในเรื่องนี้คือการดราม่าแบบฉุกละหุแล้วก็ปรับสถานการณ์สู่สภาพปกติ เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวที่ไม่มีเหตุผลคืออยากจะทำให้คนดูอยากติดตามไปเรื่อยๆเท่านั้น ถ้าจะพูดอีกนัยหนึ่งก็ถือว่าเป็นทั้งข้อดีแล้วก็ข้อเสีย ข้อดีก็เป็นการทำให้คนดูติดตามแบบรายสัปดาห์ ส่วนข้อเสียคือเหตุผลของการดราม่านั้นมันก็ไม่มีน้ำหนักพอจะทำให้คนเข้าใจได้ เช่น ตอนที่เอริริไปพยายามวาดภาพด้วยตัวคนเดียวอยู่ที่บ้านพักต่างอากาศแล้วก็ล้มป่วยถามว่าไปวาดที่นั้นเพราะอะไรเพราะอะไรเพราะไม่อยากให้ใครเป็นห่วงแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับทำให้น่าเป็นห่วงยิ่งกว่าเดิม พอถึงตอนที่โทโมยะไปหาก็สามารถนั่งเล่นเกมด้วยกันและปรับความเข้าใจกันได้ , หรือตอนที่โทโมยะไม่เข้าใจว่าคาโต้พยายามหลีกเลี่ยงไม่เจอหน้าเขาเพราะอะไร แต่เขาเพิ่งมารู้สึกตัวว่าเขาไม่เคยสนใจคาโต้ที่ค่อยช่วยเหลือเขาเลยแล้วทั้งคู่ก็ปรับความเข้าใจกันหลังจากตอนที่นอนอยู่ที่บ้านโทโมยะคือพูดตรงๆมันโคตรไม่มีตระกะเลยตรงจุดนี้
  • อีกข้อที่เป็นจุดด้อยของเรื่องนี้คือถ้าคนที่เห็นเรื่องนี้ผ่านๆจาก Preview ก็จะคิดว่าเป็นแนวฮาเร็มที่ไร้แกนสารทั้งๆความจริงนั้นไม่ใช่ ถือว่าเป็นกันกีดกันคนดูจาก Character Desige (การออกแบบตัวละคร)
  • อีกอย่างคือเรื่องนี้ควรค่าแก่การดูรอบที่ 2 หรือไม่สำหรับผมความน่าสนใจและความอยากติดตามมันจะรวมอยู่ที่การดูครั้งแรกส่วนครั้งที่ 2 จะเป็นสำหรับคนที่ชอบเรื่องนี้อยู่ในระดับหนึ่งถึงจะยอดทำใจดูได้เพราะจะเป็นเก็บรายละเอียดปลีกย่อยที่น่าสนใจ
  • ท้ายที่สุดก็คงจะหนี้ไม่พ้นเรื่องเพลงผมว่าเรื่องนี้ใช้เพลง Opening และ Ending ได้เข้ากับทีมของเนื้อเรื่องจึงส่งผลให้ผู้ที่ดูเรื่องนี้ต้องไปหาเพลงมาฟังเพราะมันสื่อถึงอารมณ์และความรู้สึกได้เป็นอย่างดี

ต่อไปจะเป็นในส่วนของการให้คะแนนว่าเรื่องนี้ควรค่าแก่การที่คุณจะดูหรือไม่

คะแนนโดยรวม

Saenai Heroine no Sodatekata ♭มีระดับคะแนนโดยรวมอยู่ที่ 6.5/10 (อยู่ในขั้นที่สามารถรับชมได้แต่อย่าไปตั้งความหวังว่ามันจะสนุกขนาดนั้น)

ข้อดี

  1. เรื่องนี้มีการนำเสนอเนื้อเรื่องและข้อคิดที่มีคุณประโยชน์ควรค่าแก่การรับชม
  2. เนื้อเรื่องยังคงใจความหลักของมันไว้ได้ตั้งแต่ต้นจนถึงจบ
  3. ระดับคุณภาพของอนิเมชั่นและเพลงอยู่ในระดับกลางไปจนถึงสูง
  4. การลำดับเหตุการณ์และการเรียบเรียงเนื้อเรื่องทำออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อเสีย

  1. การกระทำที่ตัวละครหญิงชอบตัวละครเอกอย่างไร้เหตุผล (-0.5)
  2. การดราม่าแบบฉุกละหุแล้วก็ปรับสถานการณ์สู่สภาพปกติ (-1)
  3. ปิดกั้นคนดูบางกลุ่มจากการ Character Desige (การออกแบบตัวละคร) (-1)
  4. บ้างครั้งใจความหลักของเรื่องก็ถูกบดบังจากเอกลักษณ์ของตัวละคร (-0.5)
  5. ไม่มี Watch Value ที่ดีพอสำหรับการรับชมในรอบที่ 2 หรือการดูเก็บรายละเอียด (0.5)

ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่อ่านแล้วชื่นชอบก็ฝากช่วยกันติชมหน่อยนะครับ หรือจะมาร่วมพูดคุยกันได้ที่ Fanpage What The Factและเพจ Beartai Hitechขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก: https://myanimelist.net/