คุณเลือกที่จะเชื่อฝั่งไหนกับสิ่งที่ตัวละครในอนิเมะเหล่านี้ทำ

บนโลกนี้ไม่มีใครที่เป็นสีขาวสะอาดหมดจดหรือเป็นสีดำสนิท ทุกคนล้วนแต่เป็นสีเทาที่มีทั้งความดีความชั่วในตัวด้วยกันทั้งนั้น เว้นแต่ว่าเราจะเอาด้านใดออกมามากกว่ากัน นั่นคือสิ่งที่เรารับรู้ในโลกของความเป็นจริง แต่ในโลกของการ์ตูนอนิเมะที่คนแต่งเรื่องต้องเลือกใช้บทที่แบ่งแยกสีขาวกับสีดำแยกออกจากกันอย่างชัดเจน เพื่อให้คนดูที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเข้าใจในเนื้อหา จนหลายคนรู้สึกชินกับการได้เห็นตัวละครแบบนี้ในการ์ตูน จนวันหนึ่งได้มีนักเขียนคนคิดเรื่องต้องการความแตกต่างจากบทเดิม ๆ มาเป็นการสร้างตัวละครที่มีมิติทั้งดีและร้ายในตัวเดียวกัน จนเกิดการถกเถียงกันว่าสิ่งที่ตัวละครเหล่านี้ทำนั้นถูกหรือผิด ซึ่งบางทีก็เป็นตัวละครเก่า ที่เรามาคิดดูแล้วตัวละครเหล่านี้ก็เป็นสีเทาไม่แพ้ตัวละครยุคใหม่ วันนี้เราเลยขอยกตัวอย่างตัวละครสีเทาในโลกอนิเมะ ที่คนถกถียงกันว่าสิ่งที่เขาทำถูกหรือผิดมานำเสนอ โดยเราจะไม่ขอชี้นำหรือบอกว่าตัวละครนี้ทำถูกหรือผิด แต่จะให้คุณไปคิดกันเอาเองตามสิ่งที่ตัวเองเชื่อ จะมีตัวละครสีเทาคนไหนที่น่าสนใจบ้างนั้นมาดูไปพร้อมกันเลย

สิ่งที่ทำถูกแล้วหรือไม่ Light Yagami จาก Death Note

เริ่มต้นตัวละครแรกที่ทำให้เกิดการถกเถียงกันจนถึงตอนนี้ แม้การ์ตูนฉบับมังงะและอนิเมะจะจบไปหลายปีแล้วก็ตาม กับสิ่งที่ ไลท์ ยางามิ (Light Yagami) หรือ คิระ (Kira) จากเรื่อง ‘Death Note’ ทำนั้นถูกหรือผิดกันแน่ ซึ่งก่อนจะมาถกเถียงเรามาทำความรู้จักเรื่องของ ‘Death Note’ ที่เริ่มต้นในวันที่แสนธรรมดา ที่จู่ ๆ ไลท์ ยางามิเด็กฉลาดที่สุดในโรงเรียนมาเก็บสมุดสีดำที่เขียนชื่อใครในสมุดคนนั้นก็จะหัวใจวายตาย ถ้าไม่เขียนสาเหตุการตายที่ชัดเจน ซึ่งเมื่อไลท์ได้สมุดเล่มนี้มาเขาก็คิดจะเปลี่ยนโลกใบนี้ให้สะอาดปราศจากอาชญากรรม ด้วยการใช้ ‘Death Note’ สร้างความหวาดกลัวจนคนไม่กล้าทำผิด ซึ่งทางตำรวจและนักสืบชื่อดังอย่าง แอล (L) ก็ไม่เห็นด้วยจนออกมาขัดขวาง ซึ่งสิ่งที่ไลท์หรือคิระทำนั้นก็เกิดการถกถียงจากคนอ่านและดูอนิเมะว่า สิ่งที่คิระทำถูกหรือผิดกันแน่ เพราะช่วงที่คิระยังอยู่ทุกคนกลัวการทำผิดจนไม่มีเหตุอาชญากรรมอะไรเลย โลกกลับมาสงบสุขน่าอยู่มากขึ้น แต่เมื่อคิระหายไปอาชญากรรมต่าง ๆ ก็กลับมาเหมือนเดิม ขณะที่อีกฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็บอกว่าการกดขี่คนอื่นและทำตัวเป็นพระเจ้า ในการตัดสินชีวิตคนอื่นมันก็ไม่ต่างกับการก่ออาชญากรรม แต่เอาความชอบทำที่ตนเองคิดว่าถูกมาเป็นข้ออ้างเท่านั้น ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังมีคนเอาเรื่องนี้มาเปิดประเด็นถกเถียงกันเรื่อย ๆ ทั้งในต่างประเทศและในบ้านเรา แล้วคุณคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้

ยื้อเวลาก่อสงครามหรือทำลายมันทิ้งไปเลย Eren Yeager จาก Attack on Titan

เชื่อว่าหลายคนที่ได้ดู ‘Attack on Titan Final Season’ มาแล้วคงจะเกิดความรู้สึกสงสัยว่า สรุปแล้วสิ่งที่ เอเลน เยเกอร์ (Eren Yeager) ทำนั้นถูกต้องรึเปล่า โดยเราต้องย้อนกลับไปตั้งแต่จุดเริ่มต้นของเรื่องราวเมื่อ 2000 ปีก่อน ที่จู่ ๆ เด็กหญิงคนหนึ่งก็ได้รับพลังพิเศษให้สามารถกลายร่างเป็นยักษ์ไททันได้ จนทำให้เกิดการทำสงครามแย่งชิงดินแดน และขยายลูกหลานของเด็กหญิงออกไปเพื่อสร้างกองกำลังยักษ์ วันเวลาผ่านไปก็มีประเทศหนึ่งที่ลุกขึ้นสู้ จนสามารถขับไล่สายเลือดที่มีพลังยักษ์ไททัน ให้ไปอยู่บนเกาะห่างไกลจากโลกได้สำเร็จ โดยที่คนบนเกาะไม่ทราบเลยว่าโลกข้างนอกเป็นอย่างไร จนวันหนึ่งคนที่อยู่นอกเกาะก็เกิดความหวาดกลัวคนบนเกาะที่ไม่รู้เรื่อง และคิดจะมาทำลายเกาะที่นี่ทิ้ง จนเกิดเป็นสงครามมีการทำลายกำแพงประชาชนที่ไม่รู้เรื่อล้มตาย ซึ่งเอเลน เยเกอร์คือหนึ่งในคนที่ได้รับผลกระทบในตอนนั้น และเมื่อเขาทราบเรื่องราวทั้งหมดจากความทรงจำในอดีตผ่านร่างไททันของตน เอเลนจึงคิดจะใช้พลังที่มีทำลายโลกใบนี้ทิ้งให้เหลือเพียงคนบนเกาะเท่านั้น เหมือนที่เอเลนบอกว่า “ทีคนทั้งโลกยังอยากทำลายเราได้ แล้วเราจะทำลายโลกบ้างไม่ได้หรอ” จนเกิดการถกเถียงกันว่าสรุปแล้วเอเลนทำถูกหรือผิด เพราะโลกทำร้ายเราก่อนคราวนี้ถึงตาเราเอาคืนบ้าง  หรือเราจะเอาพลังที่มีมาเป็นเกราะป้องกันตัวเอง เพื่อประกาศอิสรภาพแล้วอยู่แบบตัวใครตัวมัน แค่นี้ก็จะไม่มีสงครามคนล้มตายแล้ว ซึ่งใครที่ได้ดูอนิเมะหรืออ่านมังงะมาคงจะเลือกฝั่งไปแล้ว และทั้งสองฝ่ายต่างก็เอาเหตุผลมาเถียงกันอย่างเผ็ดร้อน เพราะไม่ใช่แค่คนดูคนอ่านการ์ตูนที่เถียงกัน แต่ตัวละครในเรื่องเองก็เถียงเรื่องนี้เข้มข้นไม่แพ้กันเลยทีเดียว

การทำแบบนี้กับผู้ชายมันถูกหรือผิด Kitagawa Marin จาก Sono Bisque Doll wa Koi wo Suru

เปลี่ยนจากเรื่องหนัก ๆ มาดูเนื้อหาแบบเบา ๆ กันบ้าง กับสิ่งที่ คิตะกาวะ มาริน (Kitagawa Marin) จากเรื่อง ‘Sono Bisque Doll wa Koi wo Suru’ หรือที่เรารู้จักในชื่อ “หนุ่มเย็บผ้ากับสาวนักคอสเพลย์” ที่บอกเล่าเรื่องราวของมารินเด็กสาวที่ชื่นชอบการแต่งคอสเพลย์เป็นตัวละครในการ์ตูนเกม แต่ตนเองไม่มีฝีมือในการตัดเย็บชุดเลย จนมาเจอเพื่อนร่วมชั้นอย่าง วาคานะ โกโจ (Wakana Gojo) ที่ชื่นชอบการตัดชุดตุ๊กตาแบบที่คุณปู่สอน จนเกิดเป็นเรื่องราวของหนุ่มสาว ที่ช่วยกันทำตามความฝันให้กันและกัน ซึ่งสิ่งที่ทำให้มารินมาติดในบทความนี้เพราะสิ่งที่เธอทำในอนิเมะ ที่ต้องอธิบายเรื่องนี้ในมุมมองของตัวละครมารินก่อนว่า สิ่งที่มารินทำนั้นเธอแค่ต้องการหาเพื่อนหรือคนที่เข้าใจในสิ่งที่เธอเป็น เพราะสาวสวยแบบนี้มาชอบการ์ตูนการแต่งคอสเพลย์มันดูไม่เข้ากัน ที่แม้แต่ในญี่ปุ่นคนบางส่วนก็มองว่าแปลกไม่แพ้บ้านเรา แต่เมื่อมารินเจอคนที่ชอบหรือแกล้งชอบสิ่งที่มารินเป็น พวกชอบเกมการ์ตูน) มารินก็จะดีใจและเข้าหาสนิทด้วย ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นผู้ชาย จนกลายเป็นว่าเธอนั้นถูกมองว่าใจง่ายให้ท่ายั่วคนอื่นไปทั่ว (ในอนิเมะมีคนว่าเธอแบบนี้) ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องน่าเห็นใจ แต่สิ่งที่มารินทำบ่างอย่างก็ผิดจริง ๆ อย่างการยั่วโกโจคุงในเรื่อง ทั้งการแต่งตัวหรือทำท่าที่ไม่สมควรเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ชาย มันคือเรื่องที่หลายคนไม่เห็นด้วยแม้จะเป็นในการ์ตูนก็ตาม ขณะที่อีกฝ่ายก็มองว่าไม่เห็นผิดอะไรเลย มารินเธอก็ไม่ถือสาอะไรและบางทีเธอก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่ทำลงไปด้วย แถมโกโจคุงก็ไม่ได้ล่วงเกินแถมระวังตัวด้วยซ้ำ จนเรื่องนี้มีการถกเถียงกันว่าสิ่งที่มารินทำกับโกโจคุงมันสมควรหรือไม่

ไร้เดียงสาหรือเลวบริสุทธิ์ Doma จาก Kimetsu no Yaiba

ขอกระโดดข้ามเรื่องราวของอนิเมะในการ์ตูน ‘Kimetsu no Yaiba’ เพื่อเล่าเรื่องราวโดยย่อแต่ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของอสูรข้างขึ้นอันดับที่ 2 อย่าง โดมะ (Doma) อสูรผู้ยิ้มแย้มท่าทางเป็นมิตรที่ใครเห็นต่างก็หลงรัก กับเรื่องราวก่อนเป็นอสูรข้างขึ้น ที่ในอดีตตัวของโดมะถูกพ่อแม่แต่งตั้งให้เป็นเจ้าลัทธิที่ถูกยกย่องมาตั้งแต่เด็ก จนวันหนึ่งเขาก็รู้ว่าสิ่งที่พ่อแม่ทำนั้นมันคือเรื่องโกหก แต่เด็กน้อยกลับไม่รู้สึกเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ตรงข้ามเด็กชายกลับยอมรับและสานต่อสิ่งนั้นแม้จะหลอกลวงอย่างเต็มใจ จนมองว่าการกินคน (เลือกเฉพาะคนสวย) มันคือการรวมเป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้สาวสวยเหล่านั้นมีความสุขในตัวเองตลอดไป ซึ่งสำหรับคนที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่โดมะทำ ก็จะต่อว่าสิ่งที่ตัวละครตนนี้ทำว่ามันคือความเลวบริสุทธิ์ ที่ไม่มีความสำนึกในบาปในสิ่งที่ก่ออยู่เลยแม้แต่น้อย แถมยังคิดว่าสิ่งนี้คือการทำให้สาว ๆ มีความสุข เพราะเขาจะกินพวกเธอจนหมดไม่เหลือซากแบบอสูรตนอื่น ขณะที่อีกฝ่ายก็มองตรงข้ามว่าสิ่งที่โดมะทำ แม้จะเป็นการกินคนก็จริง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคือสิ่งที่ผิดต่างกับคนที่รู้ว่าผิดแต่ก็ทำ  เหมือนเราที่รู้ว่าการฆ่าหมูมันคือการฆ่าสัตว์ให้ทรมานก่อนตาย แต่เราก็น้ำลายไหลตอนเห็นหมูย่างในตลาด ดังนั้นเราที่ว่าโดมะก็เหมือนด่าตัวเอง จนเกิดการถกเถียงไปมาซึ่งใครที่ได้อ่านมังงะมาคงจะคิดแบบเดียวกัน ว่าสรุปแล้วสิ่งที่โดมะทำเขามันคือความไร้เดียงสาหรือเลวบริสุทธิ์กันแน่

เหมาะสมจะเป็นพระรองในเรื่องรึไม่ Katsuki Bakugo จาก My Hero Academia

วินาทีแรกที่คุณได้เห็น คัตสึกิ บาคุโก (Katsuki Bakugo) ใน ‘My Hero Academia’ คุณคงจะคิดแน่ ๆ ว่าหมอนี่มันคือตัวร้ายแน่ ๆ เพราะลักษณะนิสัยท่าทางรวมถึงการกระทำที่มีต่อ มิโดริยะ อิสึคุ (Midoriya Izuku) นั้นมันไม่ใช่แค่การแกล้งกันธรรมดา แต่มันคือการกระทำของคนที่ไม่ชอบขี้หน้าเกลียดไม่พอใจแบบสุด ๆ ซึ่งสำหรับคนที่ไม่เคยดูอนิเมะเรื่อง ‘My Hero Academia’ คือเรื่องราวของโลกอนาคตที่มนุษย์เกือบทุกคนจะมีพลังพิเศษ และมีคนที่เอาพลังนี้ไปใช้ในทางที่ผิด จึงต้องมีโรงเรียนเปิดสอนคนที่มีพลังพิเศษเพื่อไปเป็นฮีโรปกป้องผู้คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือหนุ่มเลือดร้อนผู้ใช้พลังระเบิด ที่ไม่ว่าจะตอนไหนบาคุโกก็จะโมโหเกรี้ยวกราดตลอดเวลา จนแม้แต่ตัวละครฝ่ายตัวร้ายยังคิดเลยว่าบาคุโกนั้นไม่เหมาะกับการเป็นฮีโร ก่อนที่บาคุโกจะพิสูจน์ตัวเองว่าคู่ควรกับการเป็นฮีโร แต่จนถึงตอนนี้หลายคนก็ยังไม่มั่นใจ และถกเถียงกันอยู่ว่าบาคุโกนั้นเหมาะสมจะเป็นฮีโรหรือพระรองในเรื่องไหม

การมีอยู่ของทั้งคู่เหมาะสมหรือไม่ Zeno จาก Dragon Ball Super

เชื่อว่าหลายคนที่อ่านบทความนี้ คงจะห่างหายเรื่องราวของ ‘Dragon Ball’ ไปนานจนทำให้ไม่ทราบว่า ตอนนี้ ‘Dragon Ball’ มีภาคใหม่ในชื่อ ‘Dragon Ball Super’ ที่คราวนี้จะเป็นการเฉลยถึงจักรวาลที่ตัวละครในเรื่องนี้อยู่ว่ามีทั้งหมด 12 จักรวาล และมีท่าน เซ็นโอ (Zeno) ที่อยู่จุดสูงสุดของทุกมิติ ที่เพียงแค่เขาไม่พอใจก็สามารถลบทั้งจักรวาลทิ้งได้เพียงแค่สะบัดมือ ซึ่งสิ่งที่เป็นประเด็นให้เราหยิบตัวละครนี้มาพูดถึง ก็คือการมีอยู่ของตัวละครคู่นี้ ที่ดูไปแล้วมันเหมาะสมหรือไม่ที่เอาตัวละครที่ไร้เดียงสาทำอะไรเหมือนเด็ก แต่กลับอยู่เหนือทุกสิ่งในเรื่องแบบนี้ มันทำให้เรื่องราวที่จริงจังเข้มข้นของ ‘Dragon Ball’ ที่ผ่านมาทั้งหมดกลายเป็นสิ่งไร้ค่าขึ้นมาทันที หรืออีกมุมจะมองว่ามันคือการเปิดเรื่องราวใหม่ เพราะการมีอยู่ของ 12 จักรวาลก็คือการเปิดหนทางไปสู่การต่อสู้ใหม่ ๆ ตัวละครใหม่ และการมีอยู่ของท่านเซ็นโอก็เป็นเพียงตัวประกอบ ที่ปูเนื้อหาในการขยายจักรวาลเท่านั้น ซึ่งใครที่ดูฉบับมังงะหรืออนิเมะมาแล้วต่างก็พูดถึงตัวละครนี้ว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะมีครั้งหนึ่งที่พวกโกคูสู้ไม่ได้ก็ไปเรียกท่านเซ็นโอมาลบทุกอย่างทิ้ง มันเหมือนโกงดูจบง่ายเกินไป แต่อีกฝ่ายก็ให้เหตุผลว่าตัวร้ายมันกลืนทั้งจักรวาลไปแล้ว เกินมือที่พวกโกคูจะทำได้การลบทิ้งแบบนี้ก็สมควรแล้ว ซึ่งเมื่อมีบทแบบนี้คนเลยถกเถียงกันว่า การมีท่านเซ็นโอมันดีแล้วหรอมาจนถึงตอนนี้

ชี้นำมนุษย์ให้ดีขึ้นหรือปล่อยให้มนุษย์เป็นแบบนี้ต่อไป Griffith จาก Berserk

จัดเป็นหนึ่งในการ์ตูนที่จนถึงตอนนี้เราก็คงไม่ได้เห็นตอนจบของ ‘Berserk’ ที่สร้างความเสียใจให้กับแฟน ๆ แต่ถึงแบบนั้นมุมมองของตัวละครในเรื่องนี้ก็ยังมีให้เราพูดถึงและถกเถียงกันอยู่ หนึ่งในนั้นก็คือตัวร้ายของเรื่องอย่าง กรีฟีธ (Griffith) ที่ถ้าใครไม่รู้จักชายคนนี้ เขาคือหนึ่งในตัวละครตัวแปรสำคัญในเรื่อง ‘Berserk’ เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาจากชายคนนี้ ที่เริ่มต้นจากชายธรรมดาที่มีความฝันในการเป็นเจ้าชาย มีอาณาจักรดินแดนของตนเอง ก่อนที่ความฝันของตนเองจะพังทลายลงเพราะก้าวพลาดในชีวิต เมื่อสูญเสียเพื่อนคนสำคัญไปจากชีวิต จนทำให้กรีฟีธถูกทรมานจนตามความฝันไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งตอนนั้นเองกรีฟีธก็ได้โอกาสที่ 2 ในฐานะ ‘God Hand’ ที่กลับชาติมาจุติในร่างมนุษย์อีกครั้ง คราวนี้เขาสามารถตามความฝันได้พร้อมพลังอันยิ่งใหญ่ กับการสร้างโลกแฟนตาซีที่ปนกับโลกแห่งความจริง ก่อนที่ตนเองจะสถาปนาเป็นเจ้าชายผู้กอบกู้และหลอกผู้คนให้เชื่อ ซึ่งสิ่งนี้กลายเป็นประเด็น ให้พูดถึงในกลุ่มคนที่เห็นด้วยกับสิ่งที่กรีฟีธทำว่าถูกแล้ว เพราะถ้ากรีฟีธไม่มากอบกู้โลกตอนนี้ ป่านี้คงจะตกอยู่ในมือของกองทัพ ‘Kushan’ อันชั่วร้าย ที่พวกมันฆ่าเผาทำลายทุกที่ที่มันไปจนไม่มีที่ไหนปลอดภัย แต่การมาของกรีฟีธคือการช่วยโลกนี้ให้มนุษย์และปีศาจ (สาวก) อยู่ร่วมกันได้อย่างที่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่อีกฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็บอกว่ามันการหลอกลวงเหล่าแกะขาวที่ตาบอด ให้หลงเชื่อสิ่งที่เห็นมากกว่าจะดูความจริง เพราะสุดท้ายสิ่งที่กรีฟีธต้องการคือการปกครองและการยอมรับจากผู้คน แต่คนที่ไม่เห็นด้วยก็จะถูกฆ่าและเหล่าสาวกก็ยังกินคนโดยที่คนนอกไม่รู้ นี่ยังไม่นับการส่งวิญญาณคนตาย ที่ดูเหมือนจะไปสวรรค์มีแสงสวยงามแต่จริง ๆ ลงนรก ซึ่งที่สุดแล้วเราก็คงต้องเถียงกันต่อไปโดยที่ไม่ได้คำตอบ เพราะคนเขียนที่ทราบคำตอบในเรื่องนี้จริง ๆ ได้จากเราไปแล้ว แล้วคุณละคิดอย่างไรกับสิ่งที่กรีฟีธทำ

การกลับมาแก้ไขอดีตคือสิ่งที่ควรทำรึไม่ Doraemon จาก Doraemon

ปิดท้ายกับสิ่งที่เคยถูกถกเถียงกันมาแล้ว กับสิ่งที่เจ้าแมวสีฟ้าจากอนาคตอย่าง โดราเอมอน (Doraemon) ทำนั้นถูกหรือผิด ในการย้อนเวลามาเปลี่ยนอดีตของโนบิตะ (Nobita) ที่ถ้าใครยังจำได้ในการ์ตูน ‘Doraemon’ ตอนแรก ตัวโดราเอมอนบอกกับโนบิตะว่าอนาคตของเขานั้นจะต้องแต่งงานกับ ไจโกะ (Jaiko) น้องสาวของ ไจแอนท์ (Giant) จนมีอนาคตที่ย่ำแย่ไม่มีความสุขเลยในชีวิตทำเหลนของโนบิตะอย่าง โนบิ เซวาชิ (Nobi Sewashi) ต้องพาโดราเอมอนมาเปลี่ยนอดีต ที่ไม่ว่าจะดูมุมไหนเรื่องนี้ก็ช่างย้อนแย้งไร้เหตุผล เพราะการเปลี่ยนอดีตมันคือเรื่องต้องห้ามที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่กับคน ๆ เดียว แต่มันจะส่งผลกระทบไปยังลูกหลานเหลนคนอื่น ๆ ในอนาคตที่จะไม่มีตัวตน เพราะการเปลี่ยนคู่ครองของโนบิตะในอดีต จนทำให้หลายคนเถียงกันว่าสิ่งที่โดราเอมอนทำมันถูกหรือไม่ ซึ่งฝ่ายที่เห็นด้วยก็จะบอกว่าสิ่งที่โดราเอมอนทำ มันคือสิ่งที่ควรจะเป็นแต่แรกแล้ว แต่เซวาชิและโดราเอมอนโกหกโนบิตะในเรื่องนี้เพื่อให้เขากลัวเท่านั้น หรือการมาของโดราเอมอนคือสิ่งที่มันต้องเกิดขึ้นตามกฎของเวลา ที่ถ้าโดราเอมอนไม่มามันก็จะไม่เกิดขึ้น ยกตัวอย่างกรณีของเรื่องบุบเพสันนิวาส ที่การมาของนางเอกคือการตั้งชื่อขนมทองหยอดฝอยทองที่เรารู้จักตอนนี้ ซึ่งถ้าตอนนั้นนางเอกไม่ถูกย้อนอดีตไป ชื่อขนมทองหยอดอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ ซึ่งจนถึงตอนนี้เราก็ยังคงเถียงกันว่าสรุปแล้วสิ่งที่เซวาชิและโดราเอมอนทำถูกหรือผิดกันแน่กับการเปลี่ยนอนาคตโนบิตะ หรือบางคนจะออกความเห็นว่า จะคิดอะไรมากมันก็แค่การ์ตูนจะไปจริงจังทำไม แต่อีกฝ่ายก็แย้งว่าก็เพราะมันเป็นการ์ตูนแต่เนื้อหาก็อ้างอิงเรื่องของเวลา ที่ถ้าเอามาคิดดูดี ๆ มันไม่สมเหตุผลจนทำให้น่าคิด ซึ่งการถกเถียงนี้บางทีก็บานปลายไปเรื่องอื่น ๆ กับแค่ประเด็นเริ่มต้นเรื่องเดียวก็เคยมีมาแล้ว

ก็จบกันไปแล้วกับ 8 ตัวละครในอนิมะที่มีการถกเถียงกันว่า สิ่งที่ตัวละครเหล่านี้ทำนั้นถูกหรือผิด ซึ่งอย่างที่บอกไปในตอนต้นว่า เราจะไม่ได้ตัดสินหรือชี้นำบอกว่าสิ่งที่ตัวละครคนนี้ทำถูกหรือผิด หรือต้องการสร้างประเด็นให้คนถกเถียงกัน แต่มันคือสิ่งที่หลายคนพูดถึงกันอยู่แล้วทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งไม่ว่าคุณผู้อ่านจะเลือกทางไหนฝ่ายใดก็ไม่มีถูกหรือผิด แต่สิ่งที่เราต้องการรู้คือความคิดเห็นความรู้สึกของคุณ ที่เข้าข้างฝ่ายนั้นเพราะอะไรมากกว่า ขณะที่อีกฝ่ายก็จะพูดถึงมุมมองของตนที่เห็นตรงข้ามเพื่อพูดคุยกัน เพราะสุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าจุดไหนถูกหรือผิด เราแค่เชื่อและเข้าใจในสิ่งที่เราเชื่อและรู้สึกก็พอ และถ้าใครมีตัวละครมุมไหนมุมใดที่น่าสนใจอีกก็เอามาพูดถึงกันได้ ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวอะไรในวงการเกมการ์ตูนก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส