การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงรุนแรงทั่วโลก และจำนวนผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นทุกวัน ทำให้หลาย ๆ ประเทศมีมาตรการการป้องกันเชื้อที่เข้มข้นต่างกันออกไป โดยในประเทศจีนเองก็ที่มีมาตรการที่เข้มงวด หากพบผู้ติดเชื้อในบริเวณใด ก็จะสั่งปิดล็อกดาวน์ทันที

ในวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา หญิงชาวจีนรายหนึ่งได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ที่เธอต้องติดอยู่ในร้านชาบูเป็นเวลา 3 วัน ซึ่งตลอด 3 วัน ทางร้านอนุญาตให้ลูกค้าทุกคนสามารถสั่งชาบูมากินได้ไม่อั้น โดยไม่ต้องจ่ายเงิน

หญิงชาวจีนเล่าว่า เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา เวลา 22.30 น. เธอและเพื่อนอีก 3 คน ได้ไปกินชาบูกันหลังเลิกงานที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ หลังจากทานเสร็จเพื่อนของเธอ 3 คนขอตัวกลับบ้านก่อน ส่วนเธอและเพื่อนอีกคนก็นั่งคุยกันต่ออีก 20 นาที เนื่องจากพวกเธอไม่ได้เจอกันนาน

หลังจากคุยกันเสร็จพวกเธอก็ไปจ่ายเงินและพากันเดินมาหน้าประตูร้าน แต่ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เมื่อจู่ ๆ ประตูร้านก็ถูกปิด เนื่องจากร้านชาบูที่พวกเธอเพิ่งกินเสร็จ ได้รับแจ้งว่าตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ซึ่งเป็นลูกค้าที่มากินชาบูร้านนี้

ด้วยเหตุนี้ทำให้ร้านชาบูดังกล่าวต้องถูกล็อกดาวน์ทันที ทำให้เธอและเพื่อน รวมทั้ง พนักงานจำนวน 10 คนและลูกค้าอีกประมาณ 30-40 คน ต้องติดอยู่ในร้านชาบู แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ เจ้าของร้านซึ่งมีนิสัยเป็นกันเองและมีน้ำใจ อนุญาตให้ลูกค้าทุกคนสามารถสั่งชาบูกินกันได้ไม่อั้น ไม่เพียงแค่นั้น เขายังแจกอาหารให้กินฟรีอีกตอน 03.00 น. และให้อาหารกลางวันฟรีอีกด้วย

“ฉันกินชาบูมา 3 วันแล้ว และฉันไม่คิดว่าจะกินมันได้อีก ฉันคิดว่านี่เป็นประสบการณ์ที่เหลือเชื่อจริง ๆ” หญิงชาวจีนบอกถึงแม้มันจะเป็นประสบการณ์ที่เหลือเชื่อ (หากไม่นับเรื่องโควิด-19) ที่ติดในร้านชาบู 3 วัน แถมได้กินชาบูไม่อั้นอีก โดยไม่ต้องเสียเงินแม้แต่หยวนเดียว แต่มันก็ทำให้เธอรู้สึกเข็ดขยาดกับมันไม่น้อยเลยทีเดียว

ถึงจะเป็นคนที่ชอบกินชาบูมากแค่ไหน แต่ถ้าต้องกินติดต่อกันหลายวัน ก็คงมีเบื่อกันบ้างเหมือนกัน

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส