Django Unchained ออกฉายเมื่อเดือนธันวาคม 2012 ทำกำไรไปอย่างงดงามที่ 425 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่ 100 ล้านเหรียญ เข้าชิงออสการ์ 5 สาขา คว้าไปได้สำเร็จ 2 สาขา คือบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ คริสทอฟ วอลตซ์ (Christoph Waltz) ได้รางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยม วันนี้ ภาพยนตร์ Django Unchained ผลงานกำกับลำดับที่ 7 ของ เควนทิน ทารันทิโน (Quentin Tarantino)ก็มีอายุครบ 10 ปีไปแล้ว แต่กระนั้นด้วยคุณค่าของหนัง ก็ยังมีหลายฉากที่น่าจดจำ จากนักแสดงคุณภาพที่น่าหยิบมาพูดถึงอยู่เนือง ๆ

จุดเด่นอย่างหนึ่งของ Django Unchained ก็คือ หนังได้ทีมนักแสดงที่มากคุณภาพ ทั้ง 3 คาแรกเตอร์นำ คือ คริสทอล์ฟ วอลตซ์, เจมี ฟอกซ์ (Jamie Foxx) และ ลีโอนาร์โด ดิคาพริโอ (Leonardo DiCaprio) ที่พลิกบทบาทมาเป็นตัวร้ายครั้งแรก ที่แสดงได้ทั้งโฉดและน่ากลัวจนเป็นที่จดจำ น่าเสียดายที่เขาไม่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์จากบทบาทนี้

ดิคาพริโอรับบทเป็น คาลวิน แคนดี้ (Calvin Candie) มหาเศรษฐีใจโฉด ในฉากท้ายเรื่องมีฉากระทึกที่สะกดคนดูได้อยู่หมัด เป็นฉากที่ จังโก้ ฟรีแมน บทของ เจมี ฟอกซ์ และ ดร.คิง ชูลต์ บทของ คริสทอฟ วอลตซ์ ต้องเผชิญหน้ากับ คาลวิน แคนดี้ ที่กำลังอารมณ์ขึ้นอยู่ในห้องรับประทานอาหาร ระหว่างที่แคนดี้ระเบิดอารมณ์ใส่ทั้งคู่อยู่นั้น ดิคาพริโอก็แสดงออกด้วยการใช้กำปั้นทุบไปบนโต๊ะอาหาร แต่พลาดไปโดนแก้วน้ำจนแก้วแตกและบาดมือซ้ายเขาจนเลือดออก

เรา ๆ ต่างก็เคยโดนมีดบาดหรือแก้วบาดกันทั้งนั้นล่ะครับ ต่างก็รู้กันดีว่ามันเจ็บเพียงใด แต่นี่น่าจะยิ่งกว่าเพราะเกิดจากการใช้กำปั้นทุบไปบนแก้วจนแตก แต่ด้วยสปิริตของนักแสดงมากประสบการณ์ ดิคาพริโอสามารถควบคุมความเจ็บปวด ไม่แม้แต่จะแสดงออกทางสีหน้า และยังคงอยู่ในบทบาทของคาลวินและแสดงต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้น แม้ว่ามีขณะหนึ่งที่เขาแบมือให้เห็นว่าเลือดออกเต็มฝ่ามือแล้ว ซึ่งใครที่ได้ดูฉากนี้ต่างก็เข้าใจไปตาม ๆ กันว่านั่นคือเอฟเฟกต์ที่ใช้ในการถ่ายทำ

ดิคาพริโอ ย้อนเล่าเหตุการณ์เบื้องหลังฉากนั้นว่า
“มันเป็นช่วงเวลาที่สนุกมากสำหรับผม กับการที่ได้ดูปฏิกิริยาของพวกเขา”
“ผมทุบโต๊ะลงไป ตู้ม แล้วมันก็เกิดขึ้น ผมก็แบมือออกดูแล้วก็เห็นว่าเลือดผมไหลอกมาเต็มไปหมด ผมเหลือบไปมองเจมี แล้วเขาก็ทำหน้าแบบนี้” ดิคาพริโอทำหน้าช็อกให้ดู
แต่ว่าตอนนั้น คนที่มีอำนาจสั่งการที่สุดก็คือ ผู้กำกับ เควนทิน ทารันทิโน ซึ่งรู้แล้วละ ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็ยังไม่สั่ง ‘คัต’

ในช่วงที่ถ่ายทำฉากนี้ ดิคาพริโอก็มีปัญหาอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว เสียงเขาหายไป 2-3 ครั้งระหว่างถ่ายทำ แต่พอมาถึงเทคที่ 6 เขาก็พลาดเอามือทุบแก้วแตกอีก

“เลือดเริ่มไหลออกจากมือผม เลอะเต็มโต๊ะไปหมด ทีมงานคงคิดว่ามันเป็นสเปเชียลเอฟเฟกต์กันละมั้ง แต่ผมก็ยังแสดงต่อไป”
“ที่น่าสนใจไปกว่ามือผมก็คือการได้เห็นสีหน้าของเควนทิน กับ เจมี ที่อยู่หลังกล้อง”

พอเควนทินสั่ง ‘คัต’ ทีมงานทั้งห้องก็ลุกขึ้นยืนกันหมด เพื่อเป็นการยกย่องให้กับสปิริตในการแสดงของดิคาพริโอ
“เราถ่ายทำกันแบบเลือดโชกและมีผ้าพันแผลไปจนจบเรื่อง”
“แต่ผมก็ดีใจนะ ที่เควนทินตัดสินใจใช้เทคนี้”

แต่นี่ก็ไม่ใช่อุบัติเหตุเพียงครั้งเดียวในระหว่างถ่ายทำ Django Unchained อีกครั้งก็เกิดขึ้นกับ คริสทอฟ วอลตซ์ ที่เขาตกม้าจนข้อเท้าเคลื่อน ระหว่างฝึกขี่ม้า เขาย้อนเล่าเหตุการณ์นี้ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ E! News ว่า
“ใช่ครับ ผมตกลงมา เจ้าหน้าที่สตันท์บอกผมว่า ถ้าในวงการ โรดีโอ น่าจะอยู่ประมาณ 86.5 ละ ผมไม่รู้หรอกว่าเขาหมายถึงอะไร”
แต่ก็โชคดีที่วอลตซ์ไม่เป็นอะไรมาก สามารถฟื้นตัวได้ทันและเข้าฉากได้จนจบอย่างราบรื่น

ที่มา ที่มา ที่มา