โทบี ฮุเปอร์ (Tobe Hooper) ผู้กำกับ Texas Chainsaw Massacre (สิงหาสับ) เวอร์ชั่นต้นฉบับเมื่อปี 1974 ซึ่งมีอิทธิพลต่อนักสร้างภาพยนตร์สยองขวัญในยุคต่อมามากที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ ได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 74 ปี

โทบี ฮูเปอร์ (Tobe Hooper) เริ่มต้นอาชีพนักสร้างภาพยนตร์ในยุค 1960 ด้วยการเป็นศาสตราจารย์ในวิทยาลัยและเป็นตากล้องสารคดีในออสติน รัฐเท็กซัส

วันหนึ่งในขณะที่เขากำลังเลือกซื้อของอยู่ในร้านขายอุปกรณ์ เขาก็เหลือบไปเห็นเลื่อยไฟฟ้า ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เขานำไปพัฒนาเป็นแนวคิดเกี่ยวกับภาพยนตร์สยองขวัญที่ตัวร้ายใช้เครื่องมือไฟฟ้าเป็นอาวุธ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของ Texas Chainsaw Massacre (สิงหาสับ) นั่นเอง

ฮูเปอร์ ได้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ร่วมกับ คิม เฮนเกล (Kim Henkel) โดยอ้างอิงตัวละคร Leatherface มาจากคดีของ เอ็ด กีน (Ed Grein) ซึ่งเป็นป็นฆาตกรฆ่าต่อเนื่องโรคจิตที่มีชื่อเสียงของชาวอเมริกัน และยังเป็นต้นแบบให้กับตัวละครในภาพยนตร์สยองขวัญระดับขึ้นหิ้งอีกมากมาย เช่น Silence of the Lambs (อำมหิตไม่เงียบ) และ Psycho (ไซโค)

Texas Chainsaw Massacre (สิงหาสับ) บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่น (เป็นนักแสดงในท้องที่ และไม่เป็นที่รู้จักมากนัก) ที่ต้องเผชิญชะตากรรมกับครอบครัวมนุษย์กินคนในระหว่างเดินทางกลับบ้านในชนบท โดยมีฆาตกรอำมหิตคือ Leatherface ชายผู้ซึ่งปิดซ่อนใบหน้าพิกลพิการด้วยผิวหนังมนุษย์ และใช้เลื่อยไฟฟ้าเป็นอาวุธสังหาร

โทบี ฮูเปอร์ สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยทุนสร้างเพียง 300,000 เหรียญ แต่กลับทำรายได้ในสหรัฐอเมริกาไปมากถึง 30 ล้านเหรียญ แต่ก็ถูกสั่งห้ามฉายในหลายประเทศด้วยกัน เนื่องจากเนื้อหาที่มีความรุนแรงสูงมาก

ต่อมา Texas Chainsaw Massacre (สิงหาสับ) ได้กลายเป็นภาพยนตร์ต้นแบบภาพยนตร์แนวสยองขวัญนองเลือดที่ตัวร้ายใช้อาวุธหนักไล่ชำแหละวัยรุ่น ซึ่งสร้างกันมาจนถึงทุกวันนี้

อีกทั้งยังภาคต่อ อย่าง Texas Chainsaw Massacre 2 (1986) ซึ่ง ฮุเปอร์ ลงมือกำกับเอง, Texas Chainsaw Massacre (ล่อ มาชำแหละ) เวอร์ชั่นรีเมคเมื่อปี 2003 และ Texas Chainsaw Massacre: The Beginning (เปิดตำนาน สิงหาสับ) เมื่อปี 2006 ที่เล่าย้อนไปยังต้นกำเนิดของ Leatherface

Texas Chainsaw Massacre 2

หลังจาก Texas Chainsaw Massacre (สิงหาสับ) ประสบความสำเร็จ ทำให้ โทบี ฮูเปอร์ มีโอกาสได้กำกับภาพยนตร์ทุนสูงมากขึ้น โดยภาพยนตร์เรื่องต่อมาที่น่าประทับใจมากก็คือ Poltergeist (ผีหลอกวิญญาณหลอน) ผลงานการอำนวยการสร้างโดย สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) เมื่อปี 1982 ซึ่งเป็นภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องเดียวในประวัติศาสตร์ที่ได้รับเรท PG เทียบเท่ากับอนิเมชั่นที่เด็กทุกวัยดูได้

หลังจากนั้น โทบี ฮูเปอร์ ก็แทบจะไม่มีผลงานการกำกับภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ให้เห็นมากนัก โดยส่วนมากจะเป็นภาพยนตร์สยองขวัญทุนสร้างไม่สูง เช่น Salem’s Leot (ฉายทางโทรทัศน์ ดัดแปลงจากนิยายของ สตีเฟน คิง), Life Force, Invader From Mars เวอร์ชั่นรีเมค, The Toolbox Murders และภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายก็คือ Djinn ในปี 2013

ข้อมูลอ้างอิง : CINEMABLEND