The Walt Disney Company ภายใต้การบริหารงานของ “โรเบิร์ต เอ ไอเกอร์” (ตั้งแต่ปี 2005) ได้มีการเข้าซื้อกิจการบริษัทต่างๆ มากมาย ทั้งด้านภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ เพื่อขยายฐานผู้บริโภคในอุตสหกรรมบันเทิง

เรามาดูกันว่ามีการซื้อขายใดน่าสนใจ และมีมูลค่าเท่าไรบ้าง

Pixar (7.4 พันล้านเหรียญ)

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2006 ได้ประกาศจะซื้อหุ้นทั้งหมดของ Pixar ซึ่งในชณะนั้นมีมูลค่าอยู่ที่ 7.4 พันล้านเหรียญ

การซื้อขายดังกล่าวได้เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2006

Oswald the Lucky Rabbit

เมื่อเดือนกุมภาพันะ์ 2006 ได้ซื้อลิขสิทธิ์ของการ์ตูน Oswald the Lucky Rabbit (รวมถึงทรัพย์สินทางปัญญาและการ์ตูน Oswald จำนวน 26 เรื่อง ที่ วอล์ท ดิสนีย์ เป็นผู้สร้าง) จากทาง NBC Universal

Marvel Entertainment (4.24 พันล้านเหรียญ)

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2009 ได้ประกาศจะซื้อกิจการของ Marvel Entertainmetn ด้วยมูลค่า 4.24 พันล้านเหรียญ

การซื้อขายดังกล่าวได้เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2009

UTV Software Communications (454 ล้านเหรียญ)

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2012 ได้เข้าซื้อหุ้น 50.44% ของ UTV Software Communications คิดเป็นมูลค่า 454 ล้านเหรียญ เพื่อขยายตลาดในประเทศอิเดีย และในแถบเอเชีย

Lucasfilm (4.05 พันล้านเหรียญ)

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2012 ได้ประกาศจะซื้อกิจการ Lucasfilm ด้วยมูลค่า 4.05 พันล้านเหรียญ โดยมีแผนจะสร้าง Star Wars : The Force Awakens ซึ่งเป้นภาคทีี่ 7 ของแฟรนไชส์ Star Wars ฉายในปี 2015

การซื้อขายดังกล่าวได้เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2012

Maker Studios (500 ล้านเหรียญ)

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2014 ได้ซื้อ Maker Studios ซึ่งเป็น MCN (Multi-Channel Network) ที่คอยดูแลคอนเทนท์ต่างๆ ของช่อง YouTube ด้วยมูลค่า 500 ล้านเหรียญ

BAMTech (2.85 พันล้านเหรียญ)

เมื่อเดือนสิงหาคม 2016 ได้ซื้อหุ้น 33% ของ BAMTech ซึ่งเป็นบริการสตรีมมิง MLB (Major League Baseball), HBO, NHL, WWE และ ESPN คิดเป็นมูลค่า 1 พันล้านเหรียญ

ในเดือนสิงหาคม 2017 ได้ประกาศซื้อหุ้นของ BAMTech เพิ่มขึ้นอีก 42% คิดเป็นมูลค่า 1.85 พันล้านเหรียญ และประกาศแผนเปิดตัวบริการสตรีมมิงออนไลน์ของตนเองในปี 2019 แข่งกับ Netflix

21st Century Fox (6 หมื่นล้านเหรียญ : อย่างไม่เป็นทางการ)

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2017 ได้เข้าเจรจาซื้อกิจการของ 21st Century Fox ในส่วนภาคธุรกิจของสตูดิโอภาพยนตร์ 20th Century Fox, FX Networks, National Geographic Partners และแผนกต่างประเทศของ Fox

การซื้อขายดังกล่าวจะทำให้ Disney ได้ถือครองลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ Star Wars ทั้ง 6 ภาค (Episode I – VI), Fantastic Four และ X-Men

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2017 มีรายงานว่าการเจรจาได้ล้มเหลว แต่ได้มีการเจรจาใหม่อีกครั้งในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2017

การซื้อขายดังกล่าวยังไม่ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด

เรียกได้ว่า Disney เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการเติบโตสูงที่สุดในปี 2017 ซึ่งน่าสนใจมากว่า Disney จะขยายอาณาจักรแห่งความบันเทิงนี้ออกไปอีกอย่างไร ?

ข้อมูลอ้างอิง : wikipedia , variety และ hollywoodreporter