“ค่ำคืนนี้ที่ดอกไม้ไฟ
ทอประกายทั้งฟ้า
5 4 3 2 แล้วก็ถึงเวลา
ความรักกำลังจางหาย”

2020 – 2022 อาจเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดของ bodyslam (บอดี้สแลม) วงร็อก… ไม่สิ วงดนตรีที่ครั้งหนึ่งคือเบอร์ 1 ของประเทศ ความสำเร็จระดับจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวในสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดของไทยอย่างราชมังคลาฯ ได้ถึง 2 ครั้ง (Live in คราม, bodyslam Fest วิชาตัวเบา) ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นง่าย ๆ

หากมองย้อนไปก่อนหน้านั้นบอดี้สแลม โดยเฉพาะพี่ตูน คือบุคคลระดับปรากฏการณ์ สร้างแรงบันดาลใจ แทบไม่มีชื่อเสียงด่างพร้อย พูดง่าย ๆ ก็คือชีวิตบนเวที หลังเวที ดีเยี่ยมจนเรียกว่าเป็นวงดนตรีในอุดมคติได้เลย แต่ไม่มีอะไรยืนยาวเท่าความผันเปลี่ยน ชื่อเสียงย่อมมาพร้อมความคาดหวัง เราคงไม่ต้องรำลึกถึงเรื่องราวสาวความให้ยาวยืด เอาเป็นว่าสิ่งที่หลายที่หลายคนจับตาคือ บอดี้สแลม จะตอบสนองต่อเรื่องนี้อย่างไร?

ในคอนเสิร์ตมากมายช่วงครึ่งท้ายของปี 2022 บอดี้สแลมเริ่มกลับมาทัวร์ มาเล่นคอนเสิร์ต แต่ก็เป็นการเล่นแบบใส่สุดชีวิตสมชื่อวงเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง ดังนั้นสิ่งที่ทุกคนรอคอยคือ ‘เพลงใหม่’ บอดี้สแลม

และวันนั้นก็มาถึง…

14 ธันวาคม 2022 ซิงเกิลแรกจากอัลบั้มชุดที่ 8 ก็ถูกปล่อยออกมา เพลงที่หลายคนคาดหวัง เพลงแห่งการกลับมา ถูกใช้ชื่อว่า “วันสิ้นปี”

ภาคดนตรียืนพื้นด้วยร็อกที่บอดี้สแลมเป็น แต่เสริมด้วยลูกเล่นด้วยซาวด์กลองเก่า ๆ รวมไปถึงคีย์บอร์ดที่ให้ความรู้สึกเรโทร ส่วนริฟฟ์กีตาร์ในท่อนโชว์ของกลางเพลงก็ให้ความรู้สึกเหมือนร็อกเก๋า ๆ ยุค 80 – 90 แต่ด้วยวิธีการอเรนจ์เพลงที่มีเสียงซินธิไซเซอร์ และลูกกีตาร์โมเดิร์น ๆ ตามสไตล์พี่ยอด ทำให้ภาพรวม “วันสิ้นปี” เป็นเพลงที่เอาส่วนเท่ ๆ ของแต่ละยุคสมัยมาใส่รวมกันได้อย่างน่าฟัง

แต่สิ่งสำคัญที่เราจับตามองมากที่สุดคือเนื้อเพลง

เราทราบกันดีว่าบอดี้สแลมชอบเล่าเรื่องยาก ๆ แต่เอาความรักมาฉาบเคลือบเพื่อให้ฟังง่าย เช่น “ยาพิษ” ที่จริง ๆ แล้วเป็นเพลงการเมือง สื่อถึงนักการเมืองที่ชอบพูดไปเรื่อย ๆ โดยไม่คิดแล้วมันส่งผลต่อชีวิตคนอื่น ดังนั้นไม่แน่ว่าเพลงนี้ก็อาจมีนัยยะอะไรเหมือนกัน และหลังจากนี้คือความเห็นของเราล้วน ๆ ไม่ใช่ข้อเท็จจริง

ภาพรวมของเนื้อหา พูดถึงการเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังวันสิ้นปีของคน 2 คน คนหนึ่งเริ่มต้นด้วยความสดใส อีกคนเริ่มต้นด้วยความเดียวดาย ส่วนดอกไม้ไฟอาจแทนถึงความรู้สึก มีสว่างไสว มีเจิดจ้า มีจดจำ และจางจากไป

หากจะมองในมุมความสัมพันธ์ ก็เหมือนคู่รักที่ครั้งหนึ่งเคยมีความหมายต่อกัน ชื่นมื่นจับใจ ไอความสุขคลุ้งฟ้า ก่อนจะมอดลงเหลือแค่ธุลีความทรงจำ ต่างคนต่างไป

หากมองในมุมชีวิตคน ยกตัวอย่างเช่นอาชีพนักร้องนักดนตรี ที่ครั้งหนึ่งแฟนเพลงเคยชื่นชม หลงรัก แต่เมื่อมันหมดลง ก็คงต้องยอมรับให้ได้ว่าความหมายของเราไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว อาจจะเหงา จะเดียวดาย แต่ก็ต้องไปต่อ คิดเสียว่าครั้งหนึ่งเราเคยมีความสุขเหลือล้นซึ่งกันและกัน เหมือนพลุไฟในวันสิ้นปี ที่แม้จะดึงดูดใจแต่ไม่จีรัง พร้อมนับถอยหลังรอวันจากไป

ส่วน MV การเลือกสถานการณ์รถไต่ถังทำให้เราตีความได้มากมายเหลือเกิน ถ้าจะสื่อถึงชีวิตมนุษย์ ก็มีขึ้น มีลง มีหกล้ม มีสวยงาม ถ้าถึงจุดสูงสุดก็จะได้แตะมือกับผู้คนมากมาย สื่อถึงการได้รับความรัก ขณะเดียวกันสายตาที่ทุกคนมองเข้ามา หรือส่งแรงเชียร์ก็คือการตั้งความหวังของคนดูโชว์ว่าอยากจะเห็นความตื่นเต้น เร้าใจ ไม่ผิดพลาด แต่เมื่อไม่เป็นอย่างฝัน นางเอกที่อยู่ในฝูงชนคนดูก็เลยเอาแหวนมาคืน ก็อาจแทนถึงความรักที่ไม่ต้องการแล้ว

หรือฉากแรกที่เดินเข้ามาเห็นกำแพง ถ้าเราจะมองกำแพงในรถไต่ถังเป็นอัฒจรรย์สนามราชมังคลาฯ ก็มองได้ว่าเป็นอัฒจรรย์ที่ว่างเปล่า หมายถึงวันที่เราไม่มีใคร หรือไม่ได้ถูกเชียร์อย่างเก่าแล้ว

มอไซค์ที่ถูกเผา ก็อาจแทนถึงสิ่งที่ทำมาทั้งหมดมันไม่มีความหมาย เพราะสุดท้ายก็รั้งใครไว้ไม่ได้อยู่ดี… แต่นี่ก็เป็นความเห็นจากเราเท่านั้น ความจริงแล้วมันอาจจะสื่อถึงอย่างอื่นก็ได้ สุดแล้วแต่คนจะตีความ

หลัง “วันสิ้นปี” คงต้องมาลุ้นกันว่าดอกไม้ไฟลูกนี้จะลุกโชนหรือโรยรา แต่ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ปฏิเสธไม่ได้ว่าครั้งหนึ่ง bodyslam คือตำนานที่ยิ่งใหญ่ของวงการดนตรีประเทศไทย

“ผมดีใจที่ได้ฟังเพลงใหม่จากพี่ ๆ ครับ”

“ฉันก็คงไชโยพอให้มีแรงใจ
พรุ่งนี้ที่ต้องเผชิญคงเหงาเดียวดายสิ้นดี
ฉันแค่วันสิ้นปี ที่ไม่เหลือความหมายอะไร”

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส