ย้อนความแบบรวบรัดกันหน่อยใน Kingdom ซีซันแรก เกิดอะไรขึ้นบ้าง?

สรุปแบบไว ๆ ใน 10 ข้อ (สำหรับคนไม่มีเวลา)

  • องค์ชายอีชางในฐานะรัชทายาทถูกกีดกันไม่ให้พบราชาจึงต้องสืบเอาเองว่าราชายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ในที่สุดองค์ชายกับคนสนิทชื่อมูยองจึงออกไปเมืองทงเรเพื่อถามหมออีซึงฮีซึ่งถวายการรักษาเป็นคนสุดท้าย
  • หมออีซึงฮีใช้วิชาสมุนไพรปลุกชีพองค์ราชาที่สวรรคตให้กลายเป็นซอมบี้ตามคำสั่งขุนนางชั่วโจฮักจูที่หวังให้ลูกสาวตนเองที่เป็นมเหสีได้คลอดบุตรชายสืบบัลลังก์ก่อน และจะได้ปลดองค์ชายชางอีได้สะดวก
  • ยองชินชายพเนจรนำศพของลูกศิษย์หมออีซึงฮีที่ถูกราชากัดตายมาทำอาหารแจกคนป่วยป้องกันอดตาย แต่กลายเป็นว่าทุกคนกลายเป็นซอมบี้ และเหลือรอดแค่ยองชินกับหมอหญิงซอบิน
  • องค์ชายมาถึงทงเรและนำศพซอมบี้ที่พวกยองชินกักขังไว้ออกมาด้วยความไม่รู้ คืนนั้นซอมบี้ออกฆ่าชาวเมืองจนวอดวาย องค์ชายสังหารลูกชายโจฮักจูที่มาตามฆ่าได้และหนีตายจากซอมบี้สำเร็จ
  • รุ่งขึ้นองค์ชายสั่งทำลายศพซอมบี้แต่พวกขุนนางทงเรบางส่วนรวมถึงพัลบอมเจ้าเมืองทงเรกลับหนีขึ้นเรือเอาตัวรอดไป เคราะห์ซ้ำกรรมซัดมีคนเอาศพซอมบี้ขึ้นเรือไปด้วยเลยกลายเป็นเรือมรณะลอยไปถึงเมืองซังจู
  • องค์ชายกับพวกที่ถูกทิ้งไว้เลยต้องนำชาวบ้านหนีตายไปตั้งรับซอมบี้ในสำนักแพทย์ของอีซึงฮี แต่พอเช้าก็โดนกองทหารของโจฮักจูมาตามฆ่าอีก องค์ชายหนีรอดไปได้และเผยว่าน่าจะมีไส้ศึกในกลุ่มองค์ชาย
  • องค์ชายตั้งใจไปขอความช่วยเหลือจากอดีตอาจารย์นามอันฮยอนที่เมืองซังจู ระหว่างทางได้เจอพัลบอมที่รอดตายมาทำให้รู้เรื่องเรือมรณะจึงรีบไปยังซังจู ยองชินก็ปิดท่าทีและดูเหมือนจะรู้จักอันฮยอนมาก่อน
  • องค์ชายถูกพวกชาวบ้านที่ขโมยของบนเรือมรณะหลอกไปฆ่าปิดปาก แต่ได้ทหารของอันฮยอนมาช่วยจากชาวบ้านและฝูงซอมบี้บนเรือได้เสียก่อน องค์ชายได้ร่วมมือกับอันฮยอนซ้อนแผนฆ่าทหารโจฮักจูสำเร็จ
  • มเหสีโจเผยตัวว่าไม่ได้ท้องและรับเลี้ยงภรรยาท้องแก่ของมูยองไว้กะว่าถ้าคลอดบุตรชายจะเอามาสวมรอยรัชทายาท ด้านโจฮักจูก็อ้างโรคระบาดสั่งกองทัพปิดด่านกะขังให้องค์ชายตายด้วยทัพซอมบี้ในซังจู
  • องค์ชายเอาซังจูเป็นปราการตั้งรับซอมบี้แต่ปรากฏว่าเข้าฤดูหนาวซอมบี้ไม่กลัวเวลากลางวันอีกต่อไป ด้านซอบินกับพัลบอมก็พบพืชที่สร้างซอมบี้ในหุบเขาน้ำแข็งแต่ก็ถูกพวกซอมบี้ล้อมเอาไว้

…ติดตามต่อในซีซัน 2

สรุปแบบยาว ๆ สำหรับคนต้องการรื้อฟื้นแบบละเอียด

รากแห่งปัญหาคือการชิงอำนาจในเมืองหลวงฮันยาง (โจฮักจู/มเหสีโจ)

เกาหลีในสมัยโชซอน มีข่าวลือแพร่ไปในหมู่ประชาชนว่าองค์ราชาประชวรหนักและอาจสวรรคตไปแล้ว ในตอนนั้นมหาอำมาตย์ โจฮักจู ผู้มักใหญ่ก็ได้ครองอำนาจเบ็ดเสร็จในราชสำนักโดยมีลูกสาวของตนที่เป็นองค์มเหสีในปัจจุบันซึ่งก็มาจากการผลักดันของโจฮักจูเองคอยถือหางให้ โจฮักจูเชื่อว่าข่าวลือเรื่ององค์ราชานี้มาจากกลุ่มกบฏปัญญาชนที่ลึก ๆ น่าจะมีองค์รัชทายาทที่เกิดจากนางสนมอย่าง องค์ชายอีชาง หนุนหลังอยู่ โจฮักจูจึงพยายามกีดกันไม่ให้องค์ชายเข้าพบองค์ราชาและให้ลูกชายของตนที่เป็นนายทหารใหญ่สืบหาความเชื่อมโยงระหว่างองค์ชายกับกลุ่มกบฏเพื่อกำจัดเสี้ยนหนามให้สิ้นซากเพราะหากลูกสาวของโจฮักจูที่กำลังตั้งครรภ์ให้กำเนิดองค์ชายออกมาได้ ศักดิ์การสืบบัลลังก์ก็จะสูงกว่าองค์ชายอีชางและกลายเป็นรัชทายาทลำดับหนึ่งทันที

kingdom kingdom

และผู้ชมก็ได้รู้ความจริงว่าสิ่งที่องค์ชายอีชางและกลุ่มกบฏสงสัยนั้นเป็นจริง องค์ราชาประชวรหนักและสวรรคตไปนานแล้ว หากแต่ถ้าคนภายนอกรู้เรื่องนี้องค์ชายอีชางในฐานะองค์รัชทายาทจะได้ขึ้นครองราชย์ทันที โจฮักจูจึงติดต่ออดีตหมอหลวงนามว่า อีซึงฮี ที่ตอนนี้ไปเปิดสำนักแพทย์อยู่ในเมืองทงเรอันห่างไกล โจฮักจูน่าจะรู้ว่าอีซึงฮีคือผู้ที่ค้นพบพืชดอกสีม่วงที่สามารถปลุกชีพคนตายให้กลายเป็นซอมบี้ได้มาก่อน เขาให้อีซึงฮีใช้วิชาแพทย์ต้องสาปนี้กับศพขององค์ราชาเพื่อยืดเวลาการสวรรคตออกไปจนกว่ามเหสีจะคลอดลูกชายออกมาและได้สืบราชบัลลังก์ แต่สิ่งที่ต้องแลกมาก็คือการมีปีศาจกระหายเนื้อมนุษย์ในร่างองค์ราชาออกกินข้ารับใช้ในพระราชวังจนมีข่าวลือหนาหู โจฮักจูต้องคอยให้ทหารเอาศพที่ถูกองค์ราชากัดกินมัดห่อไปทิ้งในบ่อน้ำในพระราชวังเพื่อปิดข่าว

kingdom

แรกอุบัติกองทัพปีศาจในเมืองทงเร (หมอหญิงซอบี/ยองชิน)

ณ สำนักแพทย์ของหมออีซึงฮีที่ถูกเรียกตัวไปรักษาองค์ราชาในวัง ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของเหล่าหมอหญิงที่เป็นหมอฝึกหัดนาม ซอบี สถานการณ์ในโชซอนนั้นประชาชนอดอยากล้มป่วยด้วยโรคระบาดโดยไร้การดูแลจากเหล่าขุนนาง สำนักแพทย์จึงคราคร่ำไปด้วยคนเจ็บป่วยที่มาหวังพึ่งหมออีซึงฮี หนึ่งในนั้นคือคนจรนาม ยองชิน เขาไม่ค่อยเข้าสังคมกับใครนักออกจะนักเลงหน่อย ๆ และมีปากเสียงเรื่องการรักษากับซอบีอยู่บ่อยครั้งด้วยเหตุอาหารสำหรับคนป่วยร่อยหรอ แต่ตอนนั้นเองหมออีซึงฮีก็กลับมาจากเมืองหลวงฮันยางพร้อมกับศพของหมอฝึกหัดที่ตายจากการรักษาองค์ราชา หมออีซึงฮีไม่พูดจากับใครและเข้าที่พักทันทีแม้ซอบีจะมีเรื่องปรึกษามากมายก็ตาม

คืนนั้นยองชินคิดว่าคนป่วยในสำนักแพทย์นี้คงต้องอดตายกันหมดแน่จึงแอบนำศพของหมอฝึกหัดมาทำอาหารแจกจ่ายคนป่วยจนทั่ว และผลของการทำเช่นนั้นทำให้คนป่วยและญาติทั้งหมดตายลงกลายเป็นซอมบี้ที่ไล่กัดกินคนเป็นที่ยังเหลือรอด ยองชินและซอบีโชคดีรอดตายหลบซ่อนมาได้จนถึงเช้าเหล่าซอมบี้จึงหนีแสงแดดไปซ่อนในที่มืดราวกับซากศพไม่ไหวติงกันหมด ยองชินรู้สึกผิดที่ตนทำให้เกิดเรื่องราวจึงสร้างปราการหอกหลาวไว้ป้องกันพวกซอมบี้นี้หลุดออกไปเพราะเห็นแล้วว่าคนที่ถูกกัดก็จะกลายเป็นอสุรกายเช่นเดียวกัน ในขณะเดียวกันซอบีก็ได้รู้ว่าหมออีซึงฮีเป็นผู้ที่สร้างอสุรกายเหล่านี้ขึ้นมาจากการศึกษาดอกไม้สีม่วงที่ขึ้นในที่หนาวเย็นลึกลับ ซอบีจึงออกตามหาดอกไม้ดังกล่าวเพื่อหวังจะศึกษาและรักษาคนที่กลายเป็นซอมบี้เหล่านั้น

kingdom

การสืบหาความจริงที่บานปลายจากฮันยางสู่การหนีตายในทงเร (องค์ชายอีชาง/มูยอง)

องค์ชายอีชาง และข้ารับใช้คนสนิทนาม มูยอง ต้องการสืบหาว่าองค์ราชายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่ก็ถูกโจฮักจูและมเหสีโจขัดขวางตลอดมา องค์ชายได้ทราบว่ามีอดีตหมอหลวงนามอีซึงฮีเข้าถวายการรักษาองค์ราชาอันเป็นเบาะแสสุดท้าย องค์ชายจึงเดินทางไปยังเมืองทงเรเพื่อไปพบหมออีซึงฮีซึ่งเปิดสำนักแพทย์ที่นั่นโดยหวังว่าจะได้คำตอบถึงอาการปัจจุบันขององค์ราชา ทว่าเมื่อไปถึงก็พบว่าสำนักแพทย์นั้นร้างผู้คนและเต็มไปด้วยหอกหลาวไม้ไผ่และคราบเลือดมากมาย องค์ชายและมองยูพบซากศพที่นอนกองกันอยู่ตามที่อับแสงต่าง ๆ จึงแจ้งเจ้าเมืองทงเรนาม พัลบอม ให้มานำศพออกไปยังที่ทำการเมืองเพื่อสืบสวนสาเหตุ

kingdom

แม้ยองชินและซอบีจะรีบตามมาและเตือนให้รีบทำลายศพแต่ก็ไม่มีใครเชื่อคำพูดเหลวไหลของทั้งคู่ ในคืนนั้นเหล่าซอมบี้ก็ลุกขึ้นมาไล่กัดกินชาวบ้านในเมืองทงเรจนวอดวายหมด ด้านองค์ชายที่อยู่ในสำนักแพทย์ก็เผชิญหน้ากับลูกชายของโจฮักจูที่มาตามฆ่าจึงต่อสู้ ตอนที่จะเพลี่ยงพล้ำนั้นซอมบี้หมออีซึงฮีก็ออกมาฆ่าลูกชายโจฮักจูเสียก่อน เหตุการณ์นั้นทำให้องค์ชายทราบว่าจุดอ่อนของพวกซอมบี้ก็คือการทำลายหัว หลังจากนั้นองค์ชายก็หนีตายจากฝูงซอมบี้ชาวบ้านจนกระโดดลงน้ำและทำให้รู้ว่าพวกซอมบี้ไม่อาจข้ามแหล่งน้ำมาได้ เมื่อถึงรุ่งเช้าองค์ชายที่เข้าใจเรื่องทั้งหมดจึงแสดงตนว่าเป็นองค์รัชทายาทและสั่งให้เผาทำลายซากศพทั้งหมด แม้จะถูกพวกขุนนางของเมืองทงเรบางส่วนแสดงความไท่พอใจคัดค้านว่าผิดธรรมเนียมการทำศพแต่ก็ไม่อาจฝืนบัญชา

kingdom

สุดท้ายพวกขุนนางและชนชั้นสูงของเมืองก็แอบขนของขึ้นเรือเพื่อหนีจากภัยซอมบี้ทิ้งองค์ชายกับพวกชาวบ้านที่ยากจนไว้เบื้องหลัง แต่หนึ่งในแม่ขุนนางที่คัดค้านการทำลายศพก็แอบนำศพลูกชายที่ตายเพราะซอมบี้ใส่หีบขึ้นเรือมาด้วย และเมื่อตกดึกก็เกิดเรื่องราวสยองขวัญขึ้นบนเรือนั้น พัลบอมที่อยู่บนเรือนั้นกระโดดลงน้ำหนีตายมาได้ ด้านองค์ชายอีชางและพรรคพวกที่ถูกทิ้งไว้จึงตัดสินใจนำชาวบ้านอพยพอย่างทุลักทุเลไปยังสำนักแพทย์ที่มีปราการต้านซอมบี้ที่ยองชินสร้างไว้จนสำเร็จ ระหว่างนี้ยองชินได้แสดงความเชี่ยวชาญในทักษะการยิงปืนไฟจนทำให้ทุกคนประหลาดใจ

kingdomkingdom

พอรุ่งเช้าพวกทหารองค์รักษ์ที่โจฮักจูส่งมาตามล่าองค์ชายก็มาถึงและเข้าเข่นฆ่าชาวบ้านในสำนักแพทย์จนหมดแต่ก็ไม่อาจจับพวกองค์ชายไว้ได้ ระหว่างการหนีจากการตามล่าองค์ชายตัดสินใจไปหา อันฮยอน อาจารย์เก่าของเขาที่เป็นผู้ว่าการอยู่ที่เมืองซังจูเพื่อขอความช่วยเหลือ และระหว่างทางพวกเขาก็ได้พบกับพัลบอมจึงทราบเรื่องราวเรือมรณะว่าอาจลอยไปติดฝั่งเมืองซังจูจนเกิดการระบาด พวกเขาทั้งหมดจึงรีบรุดไปยังซังจูทันที

ปราการสุดท้ายหลังพิงฝาในซังจู (แก๊งองค์ชายอีชาง/อันฮยอน)

องค์ชายพบว่ามีชาวบ้านบางส่วนขโมยของบนเรือมรณะจากทงเรและนำศพไปฝังซ่อนไว้ จึงให้พวกชาวบ้านนำไปยังที่ซ่อนศพเพื่อเร่งทำลายก่อนจะถึงกลางคืน ทว่าชาวบ้านกลัวทางการลงโทษจึงล่อพวกองค์ชายหวังไปฆ่าปิดปาก แต่ก็สายไปเพราะซอมบี้จากเรือได้ตื่นขึ้นมาเสียก่อนและเริ่มไล่ฆ่าทั้งชาวบ้านและพวกองค์ชาย เคราะห์ดีทหารของอันฮยอนได้มาช่วยพวกองค์ชายเอาไว้ได้ทันและสามารถรับมือกับพวกซอมบี้ได้อย่างช่ำชองจนน่าประหลาดใจ

kingdom

องค์ชายได้คุยกับอันฮยอนเป็นการส่วนตัวในคืนนั้นและทราบว่าในกลุ่มของพระองค์มีไส้ศึกที่ส่งข่าวให้ฝ่ายโจฮักจูอยู่ ไม่แปลกที่ไม่ว่าองค์ชายไปที่ใดก็มักถูกตามตัวเจอเสมอ และอันฮยอนก็ร่วมมือกับองค์ชายซ้อนแผนและรุมสังหารราชองค์รักษ์ที่มาตามล่าถึงเมืองซังจูได้สำเร็จ อีกด้านยองชินก็มีท่าทีแปลกและเผยว่าบางทีเขาอาจเป็นทหารคนหนึ่งในสงครามที่รบกับญี่ปุ่นด้วย และน่าจะรู้จักแม่ทัพอันฮยอนเป็นอย่างดี

และคำถามใหญ่ที่ผู้ชมสงสัยก็คือมหาอำมาตย์โจและมเหสีโจมั่นใจได้อย่างไรว่าที่มเหสีตั้งครรภ์อยู่จะเป็นองค์ชายก็ได้รับการเฉลยว่าแท้จริงมเหสีโจไม่ได้ตั้งครรภ์และได้รับหญิงท้องแก่หลายคนในนครหลวงฮันยางมาเลี้ยงไว้ โดยหวังว่าหนึ่งในหญิงเหล่านั้นเมื่อคลอดบุตรชายก็จะนำมาสวมเป็นองค์รัชทายาทได้ทันที และให้ดีถ้าระหว่างนั้นโจฮักจูกำจัดองค์ชายอีชางได้ด้วยก็จะหมดสิ้นหอกข้างแคร่ ซึ่งหนึ่งในสาวท้องแก่ทั้งหลายนั้นก็มีภรรยาสาวของมูยองคนสนิทขององค์ชายอีชางอยู่ด้วย ตรงนี้ทำให้รู้ว่ามูยองอาจจะจำใจต้องเป็นหนอนบ่อนไส้ในแก๊งองค์ชายเพื่อช่วยภรรยาก็เป็นได้

kingdom

โดยตอนท้ายของซีซันโจฮักจูที่ทราบข่าวการตายของลูกชายว่าเป็นฝีมือขององค์ชายอีชาง และทราบว่าองค์ชายอาจไปร่วมมือกับอันฮยอนซึ่งเป็นอดีตแม่ทัพที่ชนะศึกกับญี่ปุ่นเมื่อ 3 ปีก่อนก็เกรงว่าฝั่งองค์ชายจะตั้งตัวได้ จึงใช้ความเรื่องลูกชายแค้นออกปราบขุนนางที่ยังแอบสนับสนุนองค์ชายจนหมดสิ้นในข้อหากบฎ พร้อมกันนั้นโจฮักจูก็ได้อ้างเหตุโรคระบาดสั่งกองทัพทั้ง 5 กองออกไปปิดชายแดนที่ติดต่อกับภูมิภาคกยองซูทางใต้ซึ่งรวมถึงเมืองซังจูที่องค์ชายอีชางอยู่ด้วย ผลของการปิดชายแดนและข่าวเรื่องโรคระบาดประหลาดทำให้ชาวบ้านแตกตื่นอพยพหนีตายมายังซังจู องค์ชายจึงต้องนำทัพชาวบ้านทำปราการสู้กับทัพซอมบี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยไม่ไกลนั้นมีโจฮักจูคอยเฝ้าดูความพินาศขององค์ชายอยู่

kingdomkingdom

ด้านหมอหญิงซอบินกับพัลบอมก็ได้พบหุบเขาน้ำแข็งที่มีดอกไม้ประหลาดสีม่วงตรงตามตำราของหมออีซึงฮี และยังมีร่องรอยการศึกษาซอมบี้อย่างเห็นได้ชัด แต่ทว่าพวกเขาก็ไหวตัวไม่ทันและถูกล้อมโดยซอมบี้กลางวันแสก ๆ ซึ่งผลลัพธ์เดียวกันได้ปรากฏตรงแนวหน้าของการสู้กับซอมบี้ที่นำโดยองค์ชาย เพราะกองทัพซอมบี้ออกล่าแม้ยามกลางวัน ทำให้พวกเขาเพิ่งรู้ตัวว่าซอมบี้ไม่ได้กลัวแสงแดดแต่กลัวอุณหภูมิอุ่นต่างหาก และในเวลานี้ก็เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วทำให้พวกซอมบี้ไม่กลัวกลางวันอีกต่อไป

kingdom

ติดตามต่อซีซัน 2 ทางเน็ตฟลิกซ์ ในวันที่ 13 มีนาคมนี้

kingdom

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส