ช่วงนี้ข่าวการฆ่าตัวตายจากโรคซึมเศร้า กำลังเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมาก และหัวข้อนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเปราะบางสำหรับคนที่เข้าใจ หรือเคยมีอาการดังกล่าว วันนี้เราอยากจะยกส่วนหนึ่งของบทความใน Thought Catalog ที่เขียนโดย Bria Barrows หนึ่งในผู้ที่เคยผ่านภาวะซึมเศร้าและเอาชนะมันได้มาบอกเล่าให้ชาวแบไต๋ฟัง

คุณรู้หรือไม่ว่า 1 ใน 5 ของคนส่วนมากเคยมีปัญหาสุขภาพจิต และนั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อการดำเนินชีวิตของเราก้าวผ่านเข้ามายังจุด ๆ หนึ่งความคิดฆ่าตัวตายจะโผล่เข้ามาในหัวของพวกเขา สำหรับคนที่ไม่เคยมีความคิดฆ่าตัวตายเลย คงจะไม่เข้าใจ บางทีก็หัวเราะกับความคิดบ้า ๆ เช่นนี้ คุณอาจจะบอกพวกเขาว่า เห้ย! พรุ่งนี้ยังมีหวัง นึกถึงแสงอาทิตย์ในวันพรุ่งนี้สิ อาหารเช้ามื้ออร่อยในวันถัดไป หรือแม้แต่ความสนุกที่รอคอยอยู่ในวันข้างหน้า แต่สำหรับคนที่มีความคิดฆ่าตัวตายสิ่งเหล่านั้นไม่ช่วยอะไรเลย

สำหรับผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า และมีความเสี่ยงที่จะฆ่าตัวตาย พวกเขาจะต้องต่อสู้กับความเจ็บปวดภายในจิตใจที่สามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ หากจะอธิบายให้ชัดเจนอีกสักหน่อยก็คือ ความเครียดความกดดันต่างๆ สามารถฆ่าคุณได้ ในแต่ละวันคุณต้องใช้สมองในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การเข้าสังคม การกินอาหาร การเรียนรู้ การทำงาน คุณต้องใช้สมองของคุณในการประมวลความรู้สึกต่าง ๆ เช่น ความรู้สึกอบอุ่นเมื่อแสงแดดยามเช้าสัมผัสร่างกาย หรือแม้กระทั่งการรับรู้ถึงความสุขที่เกิดขึ้นจากการจูบเช่นเดียวกัน

แต่คนที่เค้ามีความเครียด หรือมีสภาวะซึมเศร้าเค้าจะไม่รู้สึกถึงสัมผัสเหล่านั้น พวกเขาจะรู้สึกเหมือนอยู่ในสภาวะที่มีความโดดเดี่ยวอยู่ตลอดเวลา พวกเขาจะไม่รู้สึกสนุกสนานไปกับงานปาร์ตี้ งานง่าย ๆ กลับกลายเป็นงานที่น่าเบื่อ เตียงจะกลายเป็นสถานที่ปลอดภัย และการนอนหลับจะทำให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายเหมือนเป็นการหลบหนีเรื่องราวมากมายที่เขาต้องเจอ

เมื่อเรานึกถึงคนที่เค้าฆ่าตัวตาย หรือแม้แต่การจะพูดคำนี้มันอาจฟังดูน่าอาย เพราะสังคมของเราทำให้เรามองว่าการคิดอยากจะปลิดชีวิตตัวเองนั้นเป็นอะไรที่แย่ จนสุดท้ายพวกเขาก็จะตั้งคำถามว่า ‘เธอสวยจะตาย’ ‘เขาฉลาดมาก’ ‘เขาเป็นคนเก่ง’ แล้วเค้าทำแบบนี้ไปทำไม?

คุณรู้หรือไม่ว่าลักษณะภายนอกเหล่านี้ไม่สามารถขัดขวางความรู้สึกทางจิตใจที่เกิดขึ้นกับคนคนหนึ่งได้? การที่เรามีรูปร่างที่สวย หน้าที่การงานที่ดี หรือแม้แต่มีคนนับถือ ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าเราจะไม่เป็นอะไร คนที่ตายไม่ได้ต้องการตายจริง ๆ พวกเขาแค่ต้องการหลบหนีจากความเจ็บปวดที่พวกเขาเผชิญอยู่เท่านั้น เพราะฉะนั้นการตัดสินพวกเขาจากภายนอกจึงไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ

ความกลัว ความอึดอัด และความเจ็บปวดภายในจิตใจจะดึงคุณเข้าสู่วังวนความคิดที่เห็นว่าความตายเป็นเพียงแสงสว่างเดียวที่ทำให้คุณหลุดพ้นจากความเจ็บปวดทั้งหมด แต่ในเวลาเดียวสัญชาตญาณความเป็นมนุษย์ส่วนหนึ่งในใจของคุณก็จะต่อสู้เพื่อให้คุณมีชีวิตต่อไป การต่อสู้ภายในจิตใจนี้จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าและสุดท้ายหากเขาหมดความพยายามที่จะต่อสู้เพื่อความมีชีวิตรอดแล้ว กำแพงในใจของเขาจะสูงขึ้นและนั่นคือช่วงเวลาที่ความโดดเดี่ยวจะเข้าครอบงำการกระทำของเขา

บางคนบอกว่าอาการเหล่านี้คือการเรียกร้องความสนใจ?

คุณอย่าลืมว่าภาวะซึมเศร้านั้นเกิดขึ้นจริง ๆ พวกเขาไม่ควรถูกพิพากษ์วิจารณ์ถึงสิ่งที่พวกเขาทำ หากใครที่เคยผ่านจุดนั้นมาได้คุณจะเข้าใจดี ในความเป็นจริงพวกเขาต้องการมีชีวิตอยู่แต่ ณ เวลานั้นการตายอาจเป็นทางออกเดียวที่พวกเขาเห็นว่าดีแล้ว

หากใครเคยผ่านเหตุการณ์ดังกล่าว คุณควรดีใจที่คุณเข้มแข็ง และก้าวผ่านจุดนั้นออกมาได้ การเคารพตัวเองและได้สูดลมหายใจในวันใหม่เป็นเรื่องที่น่ายินดี และความตายไม่ใช่ตัวเลือกเดียวที่คุณมี นำเรื่องราวที่คุณก้าวผ่านมาเป็นบทเรียน และใช้ชีวิตให้มีความสุข หากเป็นไปได้จงนำเรื่องของคุณส่งต่อเพื่อเป็นพลังให้แก่คนที่กำลังเจอปัญหา เพื่อเป็นแนวทางให้พวกเขาก้าวผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยจิตใจที่เข้มแข็งกันเถอะ

อ้างอิง The Mighty

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส