ผลสำรวจจากเว็บไซต์ Statista เปิดเผยว่า ชาวอเมริกันกว่า 68% ดื่มกาแฟเป็นประจำ ซึ่งบางคนดื่มกาแฟมากถึง 11 แก้วต่อวัน และชาวอเมริกันกว่า 44% ดื่มกาแฟ 2-3 แก้วต่อวัน ผลสำรวจนี้ตรงกับการรายงานจำนวนมากก่อนหน้าที่บอกว่า ผู้ใหญ่วัยกลางคนรับคาเฟอีนประมาณ 180-190 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนกลุ่มคนวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่รับคาเฟอีนอยู่ที่ประมาณ 250-300 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งมากกว่า 2 เท่า

นอกจากนี้ รายงานจากวารสาร Journal of Neurochemistry เมื่อปีที่แล้วก็เปิด เผยว่า หากดื่มกาแฟและรับปริมาณคาเฟอีนในปริมาณมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ หรือมากกว่า 400 มิลลิกรัมต่อวัน (เทียบเท่ากับกาแฟ 2-3 แก้ว) จะก่อให้เกิดอาการป่วยตามมา ได้แก่ ปวดหัวมากเกิน ไปจนถึงภาวะทางจิต เช่นรู้สึกไร้ค่าจนทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หวาดกลัว ไปจนถึงตื่นตระหนก เพราะสารคาเฟอีนนั้นจะไปปิดกั้นสารเคมีในสมอง และในขณะเดียวกันก็กระตุ้นการปล่อยอะดรีนาลีนที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น และอัตราการหายใจเพิ่มขึ้นด้วย

แต่การดื่มกาแฟในปริมาณที่พอดีนั้นก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นเดียวกัน  เพราะกาแฟมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาทางสุขภาพเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคอัลไซเมอร์ และโรคมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส