ทั้งทาง dtac (ดีแทค) และ AIS (เอไอเอส) นั้นได้รับรู้ถึงความร้ายแรงของวิกฤตน้ำท่วมในภาคใต้และความเดือดร้อนของผู้คนในพื้นที่ ต่างก็มีความรู้สึกเป็นห่วงและพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถในแต่ละค่าย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประสพวิกฤตน้ำท่วมภาคใต้อย่างเต็มที่

  • ทาง dtac (ดีแทค) พร้อมช่วยบรรเทาความเดือดร้อนลูกค้าภาคใต้ที่ประสบวิกฤตภัยน้ำท่วมอย่างหนักใน 8 จังหวัด 36 อำเภอ จึงมอบสิทธิ์โทรฟรีให้ลูกค้าดีแทคแบบเติมเงินและยืดระยะเวลาการชำระเงินสำหรับลูกค้ารายเดือน พร้อมตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อดูแลสถานีฐานและโครงข่ายในทุกพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ เพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้ตามแผนรองรับภัยพิบัติ

 

บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เผยว่า “ตามที่หลายพื้นที่ของจังหวัดภาคใต้ในประเทศไทยได้ประสบวิกฤตภัยน้ำท่วมอย่างหนัก ทางดีแทคได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 24 ชั่วโมง โดยดีแทคห่วงใยลูกค้าและประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ที่ได้รับความเดือดร้อน เร่งออกมาตรการช่วยเยียวยาและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทั้งเติมเงินและรายเดือนที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างหนักใน 8 จังหวัด 36 อำเภอที่ภาคใต้ คือ จังหวัดตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และ ยะลา โดยดีแทคจะแจ้งให้ลูกค้าทราบผ่านทาง SMS

  • ลูกค้าดีแทคแบบเติมเงิน – ดีแทคขอมอบสิทธิโทรฟรีทุกเครือข่าย 50 นาทีใช้ได้นาน 30 วัน โดยลูกค้าสามารถกด *222*123#  เพื่อตอบรับสิทธิ์โทรฟรีนี้ ได้ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.-11 ม.ค. 2560   และเมื่อกดรับสิทธิ์แล้วจะได้รับ SMS ยืนยัน สามารถใช้งานได้นาน 30 วัน
  • ลูกค้าดีแทคแบบรายเดือน – ดีแทคได้เลื่อนวันชำระเงินโดยอัตโนมัติให้แก่ลูกค้าที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างหนักในพื้นที่ 8 จังหวัด 36 อำเภอเป็นระยะเวลา 15วัน หรือ จนถึง 21 ม.ค. 2560

สำหรับการดูแลสถานีฐานและโครงข่ายในทุกพื้นที่ภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมอย่างหนักในขณะนี้  ดีแทคได้จัดตั้งทีมงานเฉพาะกิจเร่งตรวจสอบทุกพื้นที่ตามมาตรการรองรับเหตุฉุกเฉินและดำเนินไปตามแผนรองรับภัยพิบัติเพื่อให้บริการได้อย่างดีที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม โดยจัดเตรียมยานพาหนะ เช่น รถขับเคลื่อน 4 ล้อ และเรือสำหรับการเดินทางเข้า-ออกในพื้นที่สถานีชุมสายหลักทุกพื้นที่ และบริหารจัดการการใช้กระแสไฟฟ้าในสถานีฐานอย่างเหมาะสม ทั้งยังได้จัดเครื่องปั่นไฟฟ้าแบบเคลื่อนที่ (mobile generator)  และสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง กรณีที่สถานีฐานถูกตัดกระแสไฟฟ้าจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่  รวมทั้งอุปกรณ์ทดแทนหรืออะไหล่ที่จำเป็นสำรองกรณีฉุกเฉินอีกด้วย เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างต่อเนื่องและดีที่สุด

  • ส่วนทาง AIS (เอไอเอส) นั้นก็ได้มีการวางแผน และมีมาตรการในการเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้โทรศัพท์สื่อสารได้ตามปกติ โดยได้ยกเว้นการติดตามหนี้และยกเว้นการระงับสัญญาณชั่วคราวสำหรับลูกค้าระบบรายเดือนที่ไม่สะดวกไปชำระค่าใช้บริการตามกำหนด ในเบื้องต้นตั้งแต่วันนี้ – 11 ม.ค. 2560 

นางวิไล  เคียงประดู่ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวว่า “จากเหตุการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ เอไอเอสมีความห่วงใยลูกค้าเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง”

นอกจากนี้ ในภาพรวมของเครือข่ายไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ เพราะในส่วนของชุมสายและสถานีฐาน ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงน้ำท่วม เราได้เตรียมความพร้อมดูแลเครือข่ายไว้ล่วงหน้า อาทิ ยกระดับความสูงของอุปกรณ์ตู้คอนเทนเนอร์ เตรียมสำรองน้ำมันเพื่อปั่นกระแสไฟฟ้า และการส่งกำลังซ่อมบำรุง ในกรณีที่มีการตัดไฟจากการไฟฟ้า เพื่อให้สัญญาณให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเตรียมแผนในการบริหาร Traffic การสื่อสารไปยังชุมสายอื่นๆ ให้สามารถรองรับและใช้งานแทนชุมสายที่ได้รับผลกระทบได้ทันที พร้อมทั้งเตรียมรถโมบายเคลื่อนที่ เพื่อรองรับการสื่อสารในพื้นที่ประสบปัญหา โดยมีทีมวิศวกรเอไอเอสที่คอยเฝ้าระวังเพื่อควบคุมสถานการณ์ และคอลล์ เซ็นเตอร์ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเฝ้าติดตาม และเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือในพื้นที่อื่นๆ ที่อาจเกิดน้ำท่วมขึ้นได้”

Play video

Play video

ขอบคุณคลิปจาก ชัดข่าวเที่ยง และ เช้าข่าวชัดโซเชียล จากทาง thairath ค่ะ