Wongnai ผู้นำด้านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันค้นหาและรีวิวร้านอาหารยอดนิยมอันดับหนึ่งของเมืองไทย (ที่เข้าไปทีไรจะหิวยิ่งกว่าเดิมทุกที) เปิดแผนธุรกิจไตรมาส 2 ของปี จัดงาน Wongnai Connect เดินหน้าขยายฐานลูกค้าทั้งใน-นอกประเทศ คลอดสามบริการใหม่ที่จะมาตอบรับในการเข้าสู่ Lifestyle Platform ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Wongnai Cooking ตอบโจทย์คนรักการทำอาหาร พร้อมร่วมมือ LINE ประเทศไทยเปิดให้บริการ Wongnai LINEMAN Delivery เอาใจคนเมืองที่ไม่สะดวกในการเดินทางสามารถสั่งอาหารได้ง่ายสะดวกและรวดเร็ว พร้อมจับมือ Alipay และ TrueMoney เปิดบริการ E-wallet นักท่องเที่ยวชาวจีน

ซ้าย: คุณยอด ชินสุภัคกุล กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งบริษัท วงใน มีเดีย จำกัด หรือ Wongnai และคุณอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ – LINE ประเทศไทย

คุณยอด ชินสุภัคกุล กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งบริษัท วงใน มีเดีย จำกัด หรือ Wongnai ผู้นำด้านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันค้นหาและรีวิวร้านอาหารอันดับ 1 ของเมืองไทย เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 ว่า Wongnai ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับสามบริษัทยักษ์ใหญ่ ได้แก่ LINE Thailand เปิดให้บริการ Wongnai LINEMAN Delivery สั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ออนไลน์บน Wongnai เอาใจคนเมืองที่ไม่สะดวกในการเดินทางสามารถสั่งอาหารออนไลน์ได้ง่ายสะดวกและรวดเร็ว โดย Wongnai เป็นผู้สนับสนุนข้อมูลร้านอาหารและติดต่อร้านอาหารทั้งหมดให้กับ LINEMAN Delivery

ส่งไวมาก คุณอริยะได้ทดสอบสั่งอาหารก็มาส่งภายใน 15 – 20 นาทีเท่านั้นเอง

พร้อมกันนี้ Wongnai ยังได้ร่วมทำธุรกิจกับ Alipay ผู้ให้บริการจ่ายเงินออนไลน์ของจีนในเครือ Alibaba และ TrueMoney ในการจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E–payment ให้กับร้านอาหารผ่านแอปพลิเคชันที่เปิดให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวในไทย เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีนสามารถใช้จ่ายผ่าน Alipay wallet กับร้านอาหารในประเทศไทย

นอกจากนี้ยังมีบริการใหม่ Wongnai Cooking คือช่องทางใหม่ที่ตอบโจทย์คนรักการทำอาหารภายในแอปพลิเคชัน Wongnai โดยผู้ที่อยากค้นหาสูตรอาหารสามารถเข้ามาค้นหาได้ทั้งตามประเภทอาหาร วัตถุดิบ วิธีทำ และในแต่ละสูตรอาหารจะมีบอกทั้งส่วนผสม วิธีทำ รวมทั้งมีวิดีโอสอนทำอีกด้วย รวมทั้งในอนาคตจะเปิดให้สมาชิก Wongnai ส่งสูตรอาหารกันเข้ามา ให้คะแนน และรีวิวสูตรอาหาร เพื่อให้เป็น community คนรักอาหารภายใน Wongnai อีกด้วย

ปัจจุบันผู้คนเริ่มที่จะไม่สนใจในการโหลดแอปเพิ่ม แต่จะเน้นใช้แอปเดิม ๆ ที่ตัวเองมีอยู่เพื่อลดพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลลง โดยเฉลี่ยจะเหลือเพียง 32 แอปเท่านั้นต่อคน การทำแอปเพื่อเรียกลูกค้าเพิ่มจึงไม่เป็นการตอบโจทย์แล้วในปัจจุบันนี้

“การทำธุรกิจในปี 2559 ที่ผ่านมา Wongnai มีอัตราการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของรายได้ที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว และจำนวนผู้ใช้และสมาชิกที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ผมมั่นใจว่าการจับมือกับสามบริษัทยักษ์ใหญ่ครั้งนี้จะทำให้ Wongnai เติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น และเป็นก้าวสำคัญที่จะพาเราไปสู่ Lifestyle Platform เต็มรูปแบบ” นายยอดกล่าวสรุป