คำว่า facebook กับการทำงานดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกันเลย หลายๆ บริษัทห้ามพนักงานใช้เฟซบุ๊กระหว่างการทำงานด้วยซ้ำ แต่ล่าสุดเฟซบุ๊กหวังเจาะตลาดคนทำงานด้วยบริการใหม่ที่เริ่มทดสอบกันมาสักพักแล้วอย่าง Workplace by Facebook ที่หลายบริษัทชั้นนำของไทยก็เลือกใช้

ส่วนที่เจ๋งที่สุดของ Workplace by Facebook นั้นคือการยกประสบการณ์ วิธีใช้ของเฟซบุ๊กที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี มาแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ให้เหมาะสำหรับการทำงาน เราไม่ต้องสอนผู้ใช้คนอื่นๆ ว่า Workplace มันใช้ยังไง เพราะมันใช้เหมือนเฟซบุ๊กเลย เรายังแชร์รูป เขียนสถานะ รวมไปถึงจัดไลฟ์และทำโพลล์ใน Workplace ได้แบบเดียวกับที่ทำบนเฟซบุ๊ก แถมยังสร้างกรุ๊ปย่อยเพื่อคุยเรื่องราวต่างๆ ในบริษัทได้อีก เพียงแต่ว่าข้อมูลเหล่านี้จะเห็นโดยเพื่อนร่วมงานเท่านั้น และกั้นพื้นที่เป็นสัดเป็นส่วนจากเฟซบุ๊กส่วนตัว ด้วยการมีหน้าเว็บแยก และแอปแยก (มีแอป Workplace ไว้เป็นโซเซียล และ Work Chat ไว้คุยงานแยกกัน) ทำให้ข้อมูลที่อาจเป็นความลับของออฟฟิศไม่กระจายหลุดไปในเฟซบุ๊กแน่ๆ

นอกจากนี้ Workplace ยังมีความสามารถในการจัดการผู้ใช้ แอดมินสามารถควบคุมสมาชิกทั้งหมดใน Workplace ได้ เช่นเมื่อพนักงานลาออกไป ก็สามารถลบสิทธิ์การเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ประสานงานระหว่างองค์กรที่ใช้ Workplace ด้วยกันได้ด้วย แถมมี API เพื่อเชื่อมกับบอทต่างๆ ด้วย

Play video

และ งานประชุม F8 เมื่อไม่นานมานี้ Facebook ได้ประกาศเพิ่มคุณสมบัติใหม่ ในการแบ่งปันไฟล์ผ่านแพลตฟอร์ม เพื่อให้บริการ Workplace ยกระดับการสื่อสารและเชื่อมต่อผู้คนภายในองค์กรได้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถเชื่อมต่อกับ Microsoft Onedrive, Microsoft Office, box, salesforce และ quip ได้

Workplace สร้างการสื่อสารแบบไม่เป็นทางการที่จัดการได้ในองค์กร

Workplace ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือในการทำงานร่วมกันภายในองค์กรสมัยใหม่ ทั้งในแง่การนำเครื่องมือทางดิจิทัลมาใช้บริหารจัดการองค์กรในแต่ละวันที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และช่วยจัดการกับความซับซ้อนของโครงสร้างบริษัทในยุคนี้ สำหรับประเทศไทย เราเห็นถึงผลตอบรับที่น่าพึงพอใจจากบริษัทที่นำ Workplace ไปเปิดใช้เป็นรายแรกๆ อย่างอนันดา ดีเวลลอปเมนท์ และอโกด้า ซึ่งทั้งสองบริษัทมีบัญชีผู้ใช้คิดเป็นมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนพนักงานในบริษัททั้งหมด และหลังจากนี้ เรายินดีอย่างยิ่งที่จะได้เห็นธุรกิจในไทยรายต่างๆ  อาทิ แฟมิลี่มาร์ท ในเครือเซ็นทรัล นำบริการ Workplace ไปใช้งาน เพื่อปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมและการสื่อสารภายในองค์กร ช่วยผลักดันให้งานมีประสิทธิภาพและและผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นราเมช โกปาลกฤษณะ
หัวหน้าฝ่าย Workplace by Facebook, เอเชียแปซิฟิก

คุณอัครินทร์ ภูรีสิทธิ์ (ซ้าย) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด, คุณมาร์ติน โคเมอร์ (ที่ 2 จากซ้าย) หัวหน้าฝ่ายไอที บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และคุณนิโก มาร์โก (ที่ 2 จากขวา) ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารและส่งเสริมความสัมพันธ์ลูกค้า บริษัท อโกด้า คุณราเมช โกปาลกฤษณะ (ขวา) หัวหน้าฝ่าย Workplace by Facebookประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดอย่างหนึ่งของ Workplace by facebook คือสามารถถ่ายทอดสดเหตุการณ์ต่างๆ ออกไปยังพนักงานทั้งหมดได้ เช่น Agoda ใช้การไลฟ์ในช่วง Townhall (การประกาศของบริษัท หรือการพูดคุยใหญ่ประจำเดือน ที่อยากให้พนักงานทุกคนได้รับรู้) พนักงานจากทุกประเทศก็สามารถชมเนื้อหาและมีปฏิสัมพันธ์ไปพร้อมๆ กัน ลักษณะเดียวกับบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ ที่ใช้การไลฟ์เพื่อกระจายเนื้อหาสำคัญของบริษัทเช่นกัน ทำให้พนักงานทุกส่วน แม้จะอยู่บริเวณพื้นที่ก่อสร้าง ก็ชมประกาศสำคัญและแสดงความคิดเห็นเข้ามาได้

Workplace by Facebook ช่วยให้เราสามารถแบ่งปันข้อมูลกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ของพนักงานที่อโกด้า หลังจากที่ได้ใช้งาน Workplace เราพบว่าพนักงานของเรามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น และปัญหาด้านการสื่อสารระหว่างพนักงานที่อยู่นอกเขตกรุงเทพฯ กับพนักงานที่ประเทศสิงคโปร์นั้นลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ นอกจากนี้พนักงานยังไม่เพียงแต่ทำงานสอดประสานกันได้ดีขึ้น แต่ยังสัมผัสได้ว่าพนักงานทุกคนในอโกด้าสนิทสนมและไว้วางใจกันมากขึ้นอีกด้วยนิโก มาร์โก
ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารและส่งเสริมความสัมพันธ์ลูกค้า บริษัท อโกด้า

แฟมิลี่ มาร์ท ร้านสะดวกซื้อชั้นนำในเครือเซ็นทรัล ที่มีพนักงานกว่า 11,000 ราย ซึ่งกระจายอยู่ใน 20 จังหวัดทั่วประเทศ ก็ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการสื่อสารภายในองค์กร จากเดิมที่ต้องอธิบายแบบตัวต่อตัว และการจัดทำคู่มือต่างๆ ด้วยการเขียน ไปสู่การทำงานร่วมกันได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายยิ่งขึ้น นำไปสู่ผลลัพธ์การทำงานที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากขึ้นในที่สุด

เปิดให้ทุกองค์กรเข้าใช้

Workplace by Facebook นั้นสามารถเริ่มใช้ได้ง่ายๆ เพียงเข้าไปที่ facebook.com/workplace และทำตามขั้นตอน โดยตอนนี้ Workplace Premium ยังอยู่ในช่วงทดลองให้ใช้ได้ฟรี แต่หลังจากวันที่ 30 กันยายน 2017 จะคิดค่าบริการตามจำนวนผู้ใช้ โดย 1,000 คนแรก คิด $3 ต่อคนต่อเดือน ส่วน 9,000 คนต่อมาจะคิด $2 ต่อคนต่อเดือน และส่วนที่เกินก็คิด $1 ต่อคนต่อเดือน แต่ถ้าหากเป็นสถาบันการศึกษา และองค์กรไม่แสวงหากำไร ก็สามารถใช้งานได้ฟรีเลย

แต่ถ้าไม่ต้องการเสียเงิน Workplace ก็ยังมีรูปแบบ Workplace Standard ที่เปิดให้ใช้งานได้ฟรี ซึ่งความสามารถพื้นฐานคล้ายกัน ยังโพสต์ แชร์รูป รวมถึงทำไลฟ์ถ่ายทอดสดได้ แต่จะจำกัดเรื่องการควบคุมสมาชิก และหน้าสถิติต่างๆ ที่ใช้งานได้ไม่เหมือนรุ่นใหญ่ ก็อ่านความแตกต่างได้จาก หน้าเว็บของเฟซบุ๊ก

บริษัทในไทยที่เริ่มใช้ Workplace by Facebook แล้ว