บริษัท เทรนด์ไมโคร อินคอร์ปอเรท ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ สรุปผลประกอบการประจำปี 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560 โดย บริษัท เทรนด์ไมโคร สามารถทำยอดขายได้เติบโตตามเป้าในทุกภาคอุตสาหกรรม (Cross Industry) เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ใช้งาน (User Protection) และ กลุ่มผลิตภัณฑ์ (Network Security) ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มธุรกิจระดับกลาง ไปจนถึงกลุ่มธุรกิจระดับเอ็นเทอร์ไพรส์ ในกลุ่มธุรกิจด้านการเงิน และภาครัฐ และสำหรับปี 2561บริษัท ฯยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย รวมถึงการเพิ่มบุคลากร พร้อมทั้งอัพเดตและอบรมให้ความรู้แก่บริษัทตัวแทนจำหน่าย และบริษัทคู่ค้าให้มีความเชี่ยวชาญ ทั้งนี้ เพื่อสามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าและตลาดได้มากยิ่งขึ้น

คุณปิยธิดา ตันตระกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมาภัยคุกคามทางด้านไซเบอร์มีความรุนแรงและน่ากลัวมากกว่าในอดีต ตัวอย่างเช่นภัยคุกคามด้านแรนซั่มแวร์นั้น ในแต่ละเดือนมีตระกูลใหม่ๆ เกิดขึ้นมากถึง 27 สายพันธุ์ แม้ว่าจะมีการป้องกันแล้วแต่ก็ยังหลุดรอดเข้าผ่านทางช่องโหว่ต่างๆ และทำการเข้ารหัสเครื่องเอ็นด์พอยท์อย่างรวดเร็วเพียงแค่ 60 วินาที และเราเชื่อว่าในปี 2561จะยังคงความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ส่วนการโจมตีใน แบบ BEC (Business Email Compromise) ก็รุนแรงไม่แพ้กัน สร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ ไปแล้วเกินกว่า 9 พันล้านเหรียญฯ และสำหรับในปี 2561 พวกอาชญากรทางไซเบอร์เหล่านี้ จะเพิ่มวิธีการใหม่ เช่นการโจมตี แบบ BPC (Business Process Compromise) ขึ้นมาอีก ส่วนประเด็นด้านช่องโหว่นั้น พบว่าเมื่อปีที่ผ่านมามีช่องโหว่ต่างๆ มากมายถูกค้นพบกว่า 1,000 รายการ โดยเฉพาะช่องโหว่ที่น่ากลัวไม่ว่าจะเป็นช่องโหว่ แบบ Zero Days, ช่องโหว่ที่สัมพันธ์กับ ระบบ SCADA, และช่องโหว่ในเว็บบราวเซอร์ต่าง ๆ เป็นต้น”

ในช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา เทรนด์ไมโคร ได้เสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรมการป้องกันเพิ่มเข้าไปมากมาย อาทิ เช่น เทคโนโลยี แมชชีน เลิร์นนิ่ง (Machine Learning) ที่นำไปติดตั้งอยู่ในทุกๆโซลูชั่นหลักของผลิตภัณฑ์เทรนด์ไมโคร ช่วยสร้างระบบความปลอดภัยอัจฉริยะในการจัดการกับภัยคุกคามทั้งแบบที่รู้จัก (Known Threat) และ แบบไม่รู้จัก (Unknown Threat) ได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น

สำหรับใน ปี 2561 นี้ เทรนด์ไมโคร ได้เตรียมนำเสนอเทคโนโลยีด้านการป้องกันภัยรุ่นใหม่ โดยแบ่งออกเป็น 3 เทคโนโลยีหลักด้วยกัน ประกอบด้วย

  • Connected Threat Defense หรือ CTD ซึ่งเป็นแนวคิดในการป้องกันภัยที่เชื่อมโยงและผสานระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ได้มากขึ้นกว่าเดิม ช่วยให้องค์กรสามารถมองเห็นระบบได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถป้องกัน, ตรวจสอบ, และตอบสนอง ภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงที
  • กลุ่มที่สองจะเป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อ ปกป้องระบบบนคลาวด์ หรือ Security on Cloud โดยผลิตภัณฑ์ของเทรนด์ไมโคร สามารถที่จะช่วยปกป้องความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานได้ทั้งระบบที่รันบน AWS หรือ Azure ก็ตาม นอกจากนั้นแล้วยังสามารถปกป้องลงไปถึงระดับแอพพลิเคชัน เช่น Office 365 และ Google และ
  • เทคโนโลยีที่สาม ก็คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์จาก TippingPoint ใน ตระกูล TX Series ที่เป็น เทคโนโลยี Next Generation Intrusion Prevention System (หรือ เรียกว่า Next-Gen IPS) มีความเหนือชั้นในการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์มากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน เทรนด์ไมโคร ดำเนินการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านทางตัวแทนจำหน่ายที่มีผู้เชี่ยวชาญให้บริการ โดยมีตัวแทนจำหน่ายหลัก (Distiributor) 3 ราย ประกอบไปด้วย

  • บริษัท nForce Secure company limited,
  • Netpoleon Thailand Co., Ltd. และ
  • SIS Distribution (Thailand) public company limited

รวมถึงมีบริษัทคู่ค้า (Partner) อีกเป็นจำนวนมาก โดยในปี 2561 นี้ ทางเทรนด์ไมโครจะเข้าไปเพิ่มศักยภาพของตัวแทนจำหน่ายให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนและอัพเดตความรู้ด้านเทคโนโลยีของเทรนด์ไมโครให้มีความชำนาญและเชี่ยวชาญมากยิ่งขึ้น และยังพร้อมที่จะเปิดรับคู่ค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง