อินเว้นท์ (InVent) ร่วมลงทุนในแพลตฟอร์มทางการแพทย์ Doctor A to Z ด้วยเงินลงทุนประมาณ 12 ล้านบาท ช่วยขยายโอกาสให้ผู้ป่วยเข้าถึงแพทย์ได้ง่ายกว่าเดิม และเข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมตั้งเป้าการเติบโต ภายใน 3 ปี กับรายได้ 180 ล้านบาท

จากด้านซ้าย: ดร.ณรงค์พนธ์ บุญทรงไพศาล หัวหน้าโครงการบริษัทร่วมทุน อินทัช โฮลดิ้งส์, นายแพทย์อนุชา พาน้อย กรรมการผู้จัดการใหญ่แห่ง Doctor A to Z

ภายในงานได้รับเกียรติจากหัวหน้าโครงการบริษัทร่วมทุน อินทัช โฮลดิ้งส์ ดร.ณรงค์พนธ์ บุญทรงไพศาล ขึ้นกล่าวถึงการลงทุนในครั้งนี้ว่า ทางอินเว้นท์ได้เล็งเห็นถึงตลาดธุรกิจสุขภาพในประเทศไทยมีความสำคัญ และเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงมีการส่งเสริมจากภาครัฐเพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทย ก้าวเข้าสู่การเป็น Medical Hub จากข้อมูลในปี 2561 ที่ผ่านมา มีชาวต่างชาติเข้ามารับบริการรักษาพยาบาลในประเทศไทยกว่า 3.4 ล้านครั้ง ก่อให้เกิดรายไดกว่า 1.4 แสนล้านบาท รวมไปถึงแนวโน้มในประเทศไทย ที่กำลังก้าวเข้าสู่ Aging Society (สังคมผู้สูงวัย) ดังนั้น ธุรกิจ Health Tech ที่สามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยจัดการด้านสุขภาพ มีศักยภาพที่จะเติบโตไปพร้อมกับตลาดสุขภาพในปัจจุบัน

ดร.ณรงค์พนธ์ บุญทรงไพศาล หัวหน้าโครงการบริษัทร่วมทุน อินทัช โฮลดิ้งส์

ทางอินเว้นท์ได้เห็นศักยภาพของ Doctor A to Z สตาร์ทอัพสาย Health Tech พัฒนาแพลตฟอร์มได้ตอบโจทย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ามารักษาในประเทศไทย ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงและจัดการด้านสุขภาพด้วยตัวเองได้มากขึ้น อย่างนัดหมายออนไลน์ หรือปรึกษาแพทย์ผ่านทางวิดีโอคอลในขณะอยู่ที่บ้านได้ โดย Doctor A to Z มีเครือข่ายแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจากหลากหลายโรงพยาบาลชั้นนำ ให้บริการดูแลรักษาโรคได้อย่างครอบคลุม ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงแพทย์เฉพาะทางได้อย่างได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ช่วยผู้ป่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ ที่สำคัญบริษัทมีทีมงานและผู้ก่อตั้งที่มีประสบการณ์ด้านการแพทย์มายาวนาน จึงทำให้อินเว้นท์ตัดสินใจร่วมลงทุนใน Doctor A to Z โดยอินเว้นท์คาดหวังว่าเงินที่ลงทุนไปจะช่วยให้ Doctor A to Z สามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ผู้ป่วยให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับสังคมในวงกว้างได้

ตัวอย่างสาธิตการใช้งานแอปพลิเคชัน Doctor A to Z ในฟังก์ชัน Video Call ปรึกษาอาการกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญผ่านแอป

ทางด้านนายแพทย์อนุชา พาน้อย กรรมการผู้จัดการใหญ่แห่ง Doctor A to Z ได้กล่าวว่า เราเป็นกลุ่มทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ในวงการแพทย์มากกว่า 20 ปี และอยู่กับปัญหาข้อจำกัดของคนไข้ในการเข้าถึงการรักษาทางการแพทย์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก รวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ควบคุมได้ยากและมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี ในขณะที่คนไข้เองก็ต้องการความรู้ในการตัดสินใจที่เชื่อถือได้และช่องทางการบริการทางการแพทย์ที่สะดวก ทำให้สามารถเข้ารับการรักษาได้ทันเวลา แบบถูกโรค ถูกหมอ ถูกคน และถูกใจ (End to End Healthcare Service)

นายแพทย์อนุชา พาน้อย กรรมการผู้จัดการใหญ่แห่ง Doctor A to Z

3 ปี ที่ทีมเรามุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาแอปพลิเคชัน Doctor A to Z เพื่อเป็นสื่อกลางที่เข้าถึงได้สะดวกและเชื่อถือได้ให้กับคนไข้ โดยรวบรวมและสร้างเครือข่ายของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากโรงพยาบาลชั้นนำและจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแพทย์กว่า 600 ท่าน ภายในปี 2563 เราตั้งเป้าเชิญชวนแพทย์และโรงพยาบาลเข้าร่วมบริการบนแพลตฟอร์มให้ได้ทั่วประเทศเพื่อรองรับการขยายการเข้าถึงทั้งในประเทศและต่างประเทศ การใช้เทคโนโลยีมาช่วยพลิกโฉมวงการแพทย์ไทยครั้งนี้จะทำให้ทุกคนสามารถบริหารจัดการสุขภาพของตัวเองได้บนแอปพลิเคชันเดียวจบทุกการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ โดยเป้าหมายใหญ่สุด คือ เป็นระบบจัดการด้านการดูแลสุขภาพที่ครอบคลุม (Future Healthcare Management) ด้วยเครือข่ายแพทย์เฉพาะทางและเครือข่ายโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุุด

การได้รับเงินลงทุนจาก InVent ครั้งนี้จะทำให้ Doctor A to Z สามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่เหนือกว่าและสามารถปลดล็อกข้อจำกัดต่างๆ ของการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ ปรึกษาหมอ รอคิวการรักษา และการส่งต่อคนไข้เข้ารับการรักษาเป็นเรื่องที่สามารถทำใด้ง่ายขึ้นและต้องปลอดภัยตามมาตรฐานสากลทางการแพทย์ เพราะทุกคนจะมีโอกาสเข้าถึงการรักษาที่ดีที่สุดนายแพทย์อนุชา พาน้อย กรรมการผู้จัดการใหญ่แห่ง Doctor A to Z

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ทาง Doctor A to Z ได้นำเสนอในครั้งนี้ ประกอบด้วย

  • ระบบบริการห้องพยาบาลออนไลน์ สำหรับองค์กร บริษัท โดยเป็นระบบที่ช่วยให้บริหารจัดการต้นทุนทางการแพทย์ได้อย่างเหนือกว่า ด้วยการเพิ่มช่องทางและโอกาสในการเข้าถึงแพทย์ คลังยา และประวัติการรักษาเฉพาะบุคคล โดยสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา
  • โรงพยาบาลออนไลน์ ช่วยเชื่อมต่อและเติมเต็มการให้บริการของโรงพยาบาล เข้าถึงได้ง่าย สะดวกยิ่งกว่าเดิม และรวดเร็วมากขึ้น ถือเป็นการปฏิวัติและยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ รวมไปถึงทางโรงพยาบาลยังสามารถบริหารจัดการได้ทั้งรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังลงทุนน้อย แต่ได้ผลลัพธ์กลับมาที่เยอะกว่า
  • Referral System สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Medical Tourism เป็นระบบส่งต่อคนไข้พร้อมประวัติสุขภาพ และประวัติการรักษา สามารถดึงข้อมูลของแพ็กเกจการรักษา, แพทย์ที่ทำการรักษา และประวัติการรักษา ช่วยให้สามารถจัดการการให้บริการทางการแพทย์ ระหว่างโรงพยาบาลและผู้ป่วยชาวต่างชาติ ในกรณีที่เกิดความยุ่งยาก ต้องรอนาน และมีความซับซ้อน ทำให้ได้ข้อมูลของผู้ป่วยและการรักษาที่ถูกต้อง ทั้งสะดวกและรวดเร็ว ถือเป็นการเตรียมความพร้อมในเบื้องต้นก่อนเดินทางมารักษาในโรงพยาบาล

บริการ Doctor A to Z นี้ ได้เปิดให้บริการแก่ลูกค้าชาวต่างชาติ และกลุ่มนักเที่ยวเชิงสุขภาพมาได้กว่า 2 ปี โดยใน 50 เปอร์เซ็นต์นั้น เป็นคนไข้มาจากประเทศพม่า และบาห์เรน ส่วนอีก 50 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือนั้น เป็นกลุ่มลูกค้าบริษัทและประกันชีวิตในประเทศไทย ทั้งนี้ Doctor A to Z มีแผนที่จะขยายธุรกิจในระยะสั้น โดยมุ่งไปที่ตลาดต่างประเทศ ในกลุ่ม CLMV คือ กัมพูชา (Cambodia), ลาว (Laos), พม่า (Myanmar) และเวียดนาม (Vietnam) โดยในตอนนี้ Doctor A to Z มีการจับมือกับพันธมิตรในประเทศพม่า เพื่อเตรียมเปิดตัวความร่วมมือในการพัฒนา Doctor A to Z Myanmar ภายในปีหน้านี้ (ปี 2563)

ระบบบริหารจัดการสุขภาพ หรือ Healthcare Management Ecosystem ของ Doctor A to Z

ส่วนแผนระยะยาวของ Doctor A to Z นั้น จะเป็นการนำเทคโนโลยีมาผสานให้เกิดความแข็งแกร่ง และทำให้ระบบบริหารจัดการสุขภาพ หรือ Healthcare Management Ecosystem สามารถใช้ API เชื่อมต่อกับหน่วยงานอื่น ๆ ได้ เช่น กลุ่มบริษัทประกันชีวิต, โรงพยาบาลที่เข้าร่วมเครือข่าย, คลินิกสุขภาพ, ศูนย์บริการตรวจเลือด ไปจนถึงบริษัทยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อนำไปสู่การเป็น Future Healthcare Management (ระบบจัดการด้านการดูแลสุขภาพที่ครอบคลุม) สำหรับทุกคน

ผู้ที่สนใจต้องการใช้บริการ Doctor A to Z สามารถใช้บริการได้แล้ว ผ่านแอปพลิเคชันในชื่อเดียวกันนี้ สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอปได้จาก iOS App Store และ Google Play Store