แฟนๆ เว็บแบไต๋คงรู้จักเทคโนโลยีการพิมพ์อย่าง Inkjet หรือ Laser Printer กันดีนะครับเพราะใช้กันมาหลายสิบปีแล้ว แต่วันนี้เราอยากจะแนะนำเทคโนโลยีใหม่ของ HP อย่าง PageWide ให้ได้รู้จักกัน ที่นำข้อดีของทั้ง Inkjet และ Laser Printer มารวมกัน แถมยังได้เครื่องพิมพ์ที่ทำงานเร็วมากๆ อีกด้วย!

Play video

จุดเด่นของเครื่องพิมพ์ที่ใช้เทคโนโลยี HP PageWide คือให้ความเร็วในการพิมพ์สูงมาก ระดับที่ Guinness World Record ยกให้ปริ้นเตอร์ HP ที่ใช้เทคโนโลยี PageWide พิมพ์ได้เร็วที่สุดในโลก ในกลุ่มเครื่องพิมพ์ราคาไม่เกิน $1,000 สามารถพิมพ์เอกสารสี 500 แผ่นในเวลา 7:18 นาที หรือใช้เวลาพิมพ์ต่อแผ่นไม่ถึงวินาที ซึ่งเราก็ได้ไปเห็นกับตาแล้วว่าเครื่องพิมพ์ที่สามารถพิมพ์ 75 แผ่นต่อนาทีได้ การทำงานของมันจะรวดเร็วขนาดไหน แถมจะพิมพ์สีหรือพิมพ์ขาวดำก็ยังพิมพ์เร็วเท่ากันด้วย

หัวพิมพ์แบบฟิกซ์กับตัวเครื่อง หรือ Print Bar

หัวพิมพ์แบบฟิกซ์กับตัวเครื่อง หรือ Print Bar

ทำไมเทคโนโลยี HP PageWide ถึงพิมพ์งานได้เร็วขนาดนี้ HP อธิบายว่าเพราะ Print Bar หัวพิมพ์แบบพิเศษที่ติดตั้งฟิกซ์ตายตัวในเครื่อง ไม่ได้เป็นหัวพิมพ์ที่วิ่งซ้าย วิ่งขวาตามแนวกระดาษเหมือนเครื่องพิมพ์ทั่วไป ซึ่งแนวของหัวพิมพ์ที่กว้างเท่าหน้ากระดาษนี้ประกอบด้วยหัวพิมพ์เล็กๆ 42,240 หัว สามารถผลิตหยดหมึกพุ่งลงกระดาษอย่างแม่นยำได้มากกว่า 10 ล้านหยดต่อวินาที ซึ่งการที่มีแนวหัวพิมพ์กว้างเท่าหน้ากระดาษนี้เอง HP จึงตั้งชื่อเทคโนโลยีนี้ว่า HP PageWide

เมื่อหัวพิมพ์เป็นแบบฟิกซ์ตายตัว มีแค่กระดาษที่เคลื่อนผ่านพายุน้ำหมึก HP PageWide จึงทำงานได้เร็ว

ถึงแม้ HP PageWide จะสร้างหมึกได้นับสิบล้านหยดต่อวินาที แต่ไม่ได้หมายความว่าเครื่องพิมพ์จะกินหมึกเยอะนะครับ หมึกขาว-ดำหนึ่งตลับสามารถพิมพ์ได้ 10,000 แผ่น ส่วนหมึกสีพิมพ์ได้ 7,000 แผ่น คิดเป็นต้นทุนสำหรับหน้าขาวดำแค่ 50 สตางค์ต่อแผ่น ส่วนหน้าสีก็ประมาณ 2.40 บาทต่อแผ่นเท่านั้น

การกินไฟของเครื่องพิมพ์เวลาทำงาน ซ้ายคือ Laser Printer ทั่วไป ขวาคือ HP Pagewide

การกินไฟของเครื่องพิมพ์เวลาทำงาน ซ้ายคือ Laser Printer ทั่วไป ขวาคือ HP Pagewide

เรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ก็สิ่งหนึ่งที่ HP ชูให้เป็นจุดเด่นสำหรับปริ้นเตอร์ PageWide เลย ตั้งแต่กินไฟน้อยกว่าเครื่อง Laser Printer ทั่วไป จากการทดสอบจะเห็นว่าระหว่างทำงาน Laser Printer เครื่องย่อมๆ จะกินไฟมากกว่า 500 Watt ในขณะที่ HP PageWide กินไฟราว 50 Watt เท่านั้น นอกจากนี้ HP PageWide ยังมีค่าบำรุงรักษาเครื่องต่ำกว่าเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ เพราะไม่ต้องเปลี่ยนลูกกลิ้ง เปลี่ยนสายพานทุก 300,000 แผ่น แต่เปลี่ยนแค่หมึกพิมพ์ ส่วนตัวเครื่องนั้นก็จะมีการรับประกัน และสามารถขยายระยะเวลารับประกันเป็น 5 ปีได้ด้วย

หมึกที่พิมพ์ออกมานั้นเป็นหมึกกันน้ำ!

pagewide-water

แล้วเทคโนโลยี PageWide จาก HP นำจุดเด่นของ Inkjet กับ Laser Printer อะไรมารวมบ้าง อย่างแรกคือ PageWide ใช้หมึกแบบ Pigment ที่ไม่ฟุ้งกระจายในอากาศเหมือนผงหมึกเลเซอร์ แต่สามารถกันน้ำได้ ซึ่งเราก็ทดสอบโดยการราดน้ำลงกระดาษเต็มๆ จะเห็นว่าหมึกพิมพ์บนกระดาษยังคงชัดเจนเหมือนเดิม นอกจากนี้คุณภาพงานพิมพ์ตัวอักษรก็คมชัดใกล้เคียงกับ Laser Printer แต่สามารถพิมพ์สีได้ดีกว่า (ส่วนคุณภาพภาพถ่ายยังสู้ Photo Printer ไม่ได้นะ เพราะเป็นเครื่องพิมพ์ที่เน้นงานด้านธุรกิจ)

คุณภาพงานพิมพ์

คุณสมบัติอื่นๆ ของเครื่องพิมพ์กลุ่ม PageWide

  • ระบบ Storage Job ที่อาศัยฮาร์ดดิสก์ในเครื่องพิมพ์ หรือแฟลชไดร์ฟเพื่อเก็บข้อมูลงานพิมพ์ไว้ก่อน รอจนเจ้าของงานมาที่หน้าเครื่องและป้อนรหัสผ่าน จึงจะได้รับงานพิมพ์
  • Touch-to-print ใช้ NFC เพื่อเชื่อมต่อการพิมพ์ไร้สาย และรองรับ Airprint ของ Apple ด้วย ใช้กับ iPhone, iPad โดยไม่ต้องลงแอปเพิ่ม
  • Dual Head Scan สามารถสแกนเอกสาร 2 หน้าได้พร้อมกัน (สำหรับเครื่องที่มี ADF หรือ Auto Document Feeder เท่านั้น)

สำหรับเครื่องพิมพ์กลุ่ม HP PageWide นั้นมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 19,900 บาท สำหรับเครื่องที่มีฟังก์ชั่นพิมพ์อย่างเดียว ไปจนถึง 32,900 บาทสำหรับเครื่อง Multi-function ที่สามารถสแกนและส่งแฟกซ์ได้ ก็ถือว่าราคาไม่แตกต่างจาก Laser Printer ที่ใช้ในกลุ่มองค์กรเลย

คุณวรานิษฐ์ อธิจรัสโรจน์, Country Print Category Manager, บริษัท เอชพี อิงค์ (ประเทศไทย) จำกัด

คุณวรานิษฐ์ อธิจรัสโรจน์, Country Print Category Manager, บริษัท เอชพี อิงค์ (ประเทศไทย) จำกัด