เคลมดิ (Claim Di) แอปเคลมประกันรถยนต์สุดง่าย รุกตลาดประกันภัยรถยนต์แนวใหม่ในสิงคโปร์ โดยจับมือกับ เอ็นทียูซี อินคัม อินซัวรันซ์  (NTUC Income Insurance) ยักษ์ใหญ่ด้านประกันภัยของรัฐบาล พร้อมตั้งบริษัทลูกรองรับนักลงทุนรอบใหม่

ก้าวแรก

เคลมดิ (Claim Di) เป็นบริษัทสตาร์ทอัพของประเทศไทยที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากโครงการ Dtac Accelerate Batch 2 เมื่อปี 2014 โดยเป็นแอพพลิเคชั่นด้านประกันภัยที่ช่วยลดขั้นตอนความยุ่งยากในการเคลมประกัน ช่วยให้ผู้ใช้ดำเนินขั้นตอนผ่านแอปได้ทันที่ที่เกิดอุบัติเหตุรถชน ซึ่งเหมาะกับยุคสมัยที่ทุกอย่างต้องการความรวดเร็วและมีการแข่งขันสูง

เคลมดิ (Claim Di) ประสบความสำเร็จในตลาดประกันภัยของประเทศไทยเป็นอย่างสูง โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 92% ของธุรกิจประกันภัยดิจิทัล (Insuretech) ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2017 ที่ผ่านมา

ก้าวใหญ่

ล่าสุด นายกิตตินันท์ อนุพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคลม ดิ พีทีอี สิงคโปร์ (Claim Di PTE Singapore) เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำสัญญาร่วมกับ เอ็นทียูซี อินคัม อินซัวรันซ์  (NTUC Income Insurance) ธุรกิจประกันภัยรถยนต์ของรัฐบาลสิงคโปร์ที่ดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ซึ่งมีส่วนแบ่งในตลาดประเทศสิงคโปร์สูงถึง 25%

  • ปล. Social Enterprise หรือ ธุรกิจเพื่อสังคม คือ ธุรกิจที่เป็นได้ทั้งประเภทที่หากำไรและไม่หากำไร ยึดถือการตอบแทนประโยชน์สู่สังคมเป็นแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจ

นายกิตตินันท์ อนุพันธ์ ได้กล่าวว่า

” เคลมดิ (Claim Di) ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ Income Future Starter (โครงการ Accelerate ของรัฐบาลสิงคโปร์) ที่ดำเนินโครงการโดย เอ็นทียูซี อินคัม อินซัวรันซ์  (NTUC Income Insurance) และ SGInnovate (หน่วยงานกลางสนับสนุนสตาร์ทอัพของสิงคโปร์) ซึ่งทาง เอ็นทียูซี อินคัม อินซัวรันซ์  (NTUC Income Insurance) ได้เลือก เคลมดิ (Claim Di) เป็นบริการการทำเคลมประกันภัยรถยนต์แบบใหม่ให้กับลูกค้าในสิงคโปร์ เนื่องจากเห็นว่าแนวคิดทางธุรกิจของ เคลมดิ (Claim Di) ที่ประเทศไทยนั้นประสบความสำเร็จ สามารถนำมาปรับใช้ในประเทศสิงคโปร์ได้”

การเคลมประกันภัยอุบัติเหตุรถชนในประเทศสิงคโปร์นั้น มีขึ้นตอนที่ยุ่งยากมาก ดังนี้

  • ผู้ขับรถยนต์โทรแจ้งบริษัทประกันภัย
  • รอเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยมาช่วยจัดการตกลงกับคู่กรณี แล้วจึงแยกย้ายออกจากจุดเกิดเหตุได้
  • ผู้ขับขี่ต้องขับรถที่เกิดเหตุเดินทางไปยังศูนย์รายงานอุบัติเหตุที่ใกล้ที่สุด เพื่อทำรายงานอุบัติเหตุภายใน 24 ชั่วโมง หลังเกิดอุบัติเหตุ
  • หากไม่เดินทางไปดำเนินการภายใน 24 ชั่วโมง บริษัทประกันภัยจะไม่รับรองความเสียหาย
  • จากนั้นบริษัทประกันภัยจะทำการประเมินความเสียหายร่วมกับรายงานอุบัติเหตุของบริษัทประกันคู่กรณี
  • ผู้ขับขี่ต้องรอการติดต่อกลับเพื่อนัดวันและเลือกอู่ซ่อมต่อไป

นั่นคือจุดที่ เคลมดิ (Claim Di) ได้เข้าช่วยลดความยุ่งยากและประหยัดเวลา ซึ่งผู้ใช้สามารถทำรายงานการเคลมประกัน (Claim Report) ได้เอง โดยมีขั้นตอนดังนี้

  • เมื่อเกิดอุบัติเหตุ สามารถใช้ Income Accident Report (Claim Di) ถ่ายภาพ ณ จุดเกิดเหตุแล้วส่งประกันได้อย่างรวดเร็ว
  • จากนั้นสามารถแยกย้ายออกจากจุดเกิดเหตุได้ทันที
  • หลังจากนั้นจึงทำรายงานผ่านแอปโดยไม่ต้องเดินทางไปยังศูนย์รายงานอุบัติเหตุเช่นเดิมอีกต่อไป

ก้าวต่อไป

เนื่องจากในการลงทุนรอบที่ผ่านนั้น เป็นกลุ่มนักลงทุน Fintech (เทคโนโลยีการเงิน) และ Insuretech (ประกันภัยดิจิทัล) รายใหญ่ที่ยังไม่มั่นใจว่าประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อรองรับการเติบโตและการระดมทุนในระดับ Growth State ได้ทันเวลาตามที่บริษัทต้องการ จึงได้มีการร้องขอให้ เคลมดิ (Claim Di) ไปดำเนินการเปิดบริษัทในประเทศสิงคโปร์

  • Growth Stage : ช่วงเจริญเติบโต คือ ยอดขายมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผลิตภัณฑ์ติดตลาดแล้ว ส่งผลทำให้ส่วนแบ่งตลาดและกำไรเพิ่มขึ้น

บริษัท เคลม ดิ พีทีอี สิงคโปร์ (Claim Di PTE Singapore) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม Anywhere 2 Go Co., Ltd จึงย้ายฐานไปดำเนินการในประเทศสิงคโปร์ เพื่อรองรับการรับงาน/ให้บริการในต่างประเทศ และรองรับการระดมทุนในรอบถัดไปจากกลุ่มนักลงทุน (Venture Capital)