ครบรอบ 1 ปีจากการเปิดตัว Samsung QLED TVในปีนี้ทีมงานแบไต๋ได้ไปร่วมงาน “SEAO Tech Seminar” ซึ่งทางซัมซุงยังคงยกระดับประสบการณ์การใช้ทีวีใต้แนวคิด “The Next Innovation in TV”

ภาพรวมของตลาด TV

ในปี 2017 – 2018 ขนาดจอ 55” – 65” โตขึ้น 67% และ 75” ขึ้นไปโตขึ้นถึง 118% จากที่เมื่อก่อนขนาดจอที่มีการเติบโตมากที่สุดคือ 40” ทำให้เห็นว่าผู้ซื้อส่วนใหญ่ต้องการ TV ที่จอใหญ่ขึ้น มีความละเอียดมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะต้องการชมคอนเทนต์ความละเอียดสูงที่มีเพิ่มขึ้นในปัจจุบันอย่าง 4K UHD และ HDR

ทั้ง Update และ Upgrade

แน่นอนว่าในปีที่แล้ว Samsung QLED TV ก็มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมายโดยชู 3Q ที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการดู TV ปีนี้จึงมีทั้งฟังก์ชันที่เพิ่มเข้ามา และพัฒนาให้ดีขึ้นใน QStyle, QPicture และ QSmart

QStyle

Magic Screen

หลายคนหมดเงินไปกับการแต่งบ้านให้สวยงามสบายตา แต่ต้องมามีหลุมดำสี่เหลี่ยมอยู่กลางบ้าน ซัมซุงจึงเอาใจผู้ใช้ด้วย Magic Screen ที่สามารถเปลี่ยนภาพพื้นหลัง หรือพักหน้าจอผ่านตัวโทรทัศน์เอง หรือจากสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อก็ได้ สามารถเปลี่ยนเป็นลายพนังได้ด้วยการถ่ายรูป ระบบจะคำนวนลายพนังให้โดยอัตโนมัติ และสามารถใส่ลายกราฟิกซ้อนกับพื้นหลังได้ทำให้ดูมีมิติสวยงามมากขึ้น มีลายกราฟิกหมวด Deco, Info, Photo, Wall, Album อีกทั้งยังเปิดเพลงคลอไว้ได้ด้วย เหมาะกับการเปิดทิ้งไว้ที่ห้องนั่งเล่น ด้วยสโลแกน See the Picture, Not TV ที่จะเปลี่ยนหลุมดำกลางบ้านเป็นรูปภาพในความทรงจำ หรือลายเนียนไปกับผนังเลย

ซึ่งฟีเจอร์แบบนี้อยู่ที่สไตล์การใช้งาน และการแต่งบ้าน ถ้าเรามีทีวีที่สามารถใช้งานได้ครอบคลุมความบันเทิง และสามารถใช้แต่งบ้านได้ด้วยเราก็คงจะเปิดใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพตลอด แทนที่จะปิดเป็นจอดำๆ เหมือนทีวีปกติ

จากสายคู่ เหลือสายเดี่ยว

ซัมซุงพยายามดีไซน์สายไฟและสายส่งข้อมูลให้ไม่รกสายตา จากปีที่แล้วที่มีสาย 2 เส้น One Connection และ Power Cable ซัมซุงอัพเกรดให้เหลือเส้นเดียวใน One Invisible Connection ซึ่งเป็นสาย One Cable เส้นเล็ก ๆ เส้นเดียวยาว 5 เมตรไปต่อที่ One Connect Box ทำให้ไม่ต้องมีสายไปพะรุงพะรังที่จอทีวี เปลี่ยนมาเสียบสายสัญญาณต่าง ๆ ที่กล่อง One Connect Box แทน โดยใช้สายส่งข้อมูลและส่งไฟฟ้าในเส้นเดียวกัน ทำให้การแต่งบ้านดูจะง่ายขึ้น รกน้อยลง แม้ส่วนตัวคิดว่าตัวกล่องที่เชื่อมต่อยังใหญ่ไปนิดนึง แต่เมื่อสามารถไล่สายไปตามขอบห้อง มุมห้องได้อย่างสวยงาม และซ่อนกล่องไว้ในตู้ได้เรื่องขนาดก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยครับ

No Gap Wall-Mount

ไม่มีช่องว่างระหว่าง TV กับ กำแพงจริง ๆ หรอ? ไม่ถึงขนาดนั้นครับ แต่ช่องว่างที่ว่าเนี่ยมันน้อยมาก ๆ ด้วยดีไซน์ตัวติดตั้งที่ใช้พื้นที่ลึกเข้าไปด้านหลังจอทีวี และการที่เราไม่จำเป็นต้องไปเชื่อมต่ออะไรที่ตัวทีวีโดยตรงแล้ว จึงทำให้สามารถติดตั้งทีวีแนบไปกับกำแพงได้เลย

QPicture

ทางซัมซุงได้จับทีมงานแบไต๋เข้าห้องมืดเพื่อไปทดสอบ HDR10+ และ Deep Black หรือการแสดงผลแบบดำสนิทนั่นเอง เปรียบเทียบ QLED 2017, 2018 และ OLED ปรากฎว่า QLED TV 2018 แสดงผลออกมาได้ดีจริง ๆ ครับเป็นดำที่มืดสนิทแทบไม่มีความสว่างออกมาเลย ส่วน HDR10+ ช่วยปรับแสง-สีกันแบบฉากต่อฉาก ไม่ใช่การเอาฉากทั้งหมดมาประมวลผลหาค่าเฉลี่ยแล้วปรับครั้งเดียว

Best Game Experience

QLED TV 2018 นั้นมีค่า Low Latency ในการเชื่อมต่อ Playstation หรือ Xbox ที่น้อยลง ลดอาการดีเลย์ อาการแลคเวลาเล่นเกม จากปีที่แล้ว Latency อยู่ที่ 20.2 ms ในปี 2018 เหลือเพียง 15.4 ms ทำให้เล่นเกมราบลื่นขึ้น อีกทั้งยังมี Game Mode ที่สามารถปรับอัตโนมัติเมื่อเข้าเกมส์ ไม่ว่าจะเป็น Game motion plus หรือ Variable Refresh Rate (VRR)

QSmart

Effortless Set-up

​ตั้งค่าครั้งแรกสะดวก ง่าย รวดเร็วผ่านมือถือ สามารถใช้สมาร์ทโฟนแทนรีโมทได้ด้วยการโหลดแอป SmartThings ทีวีจะสแกนการเชื่อมต่อทั้งหมดให้ โดยเราไม่ต้องมาเลือกว่าเราเชื่อมต่ออะไรไว้ที่ช่องสัญญาณไหนบ้าง เช่น HDMI1 HDMI2 การติดตั้งผ่านสมาร์ทโฟนง่ายมาก ๆ กดไม่กี่ทีก็เข้าหน้า Home ของ TV ได้แล้ว และนำเข้ารหัสผ่านจากแอปต่าง ๆ มาให้เลย ไม่ต้องมากรอกรหัสผ่านซ้ำ เช่น Spotify, Netflix, Facebook อีกทั้งขึ้นตัวอย่างของแอปนั้น ๆ ให้ดูพรีวิวเลย

One Samsung Experience

Sync Gallery จากสมาร์ทโฟนให้ได้เลย และควบคุม Device อื่น ๆ ผ่านแอป SmartThings โดยควบคุมจากนอกบ้านก็ได้ เชื่อมต่อได้หลายห้อง ควบคุมทุกห้องพร้อมกันก็ยังได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ หลอดไฟ โทรทัศน์ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น อุปกรณ์ IOT ทั้งหลายแหล่

ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าความสะดวกรวดเร็วมันแลกกับการที่ทำให้คนอื่นมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลของเราหากต้องใช้ร่วมกัน แม้ว่าข้อดีจะเป็นการนำเข้ารหัสผ่านและรูปเข้าไปอยู่ในทีวีได้โดยอัตโนมัติ แต่ข้อควรระวังสำหรับบ้านที่ต้องใช้กันหลายคน หรือออฟฟิศที่ต้องใช้จอร่วมกัน จะต้องแยกบัญชีผู้ใช้ เพราะเป็นการเชื่อมต่อข้อมูลของเราลงไป เหมือนการ Log-in ที่ต้องอย่าลืม Log-Out ต่างจากการ Cast ที่เปิดแต่ Content เท่านั้น

Smart Sound

เรื่องเสียงอาจเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามเนื่องจากไปมองการเชื่อมต่อลำโพงกันมากกว่า แต่ Samsung QLED ก็แอบใส่ฟังก์ชันเรื่องเสียงที่น่าสนใจมาด้วยใน Sound Mode ให้สามารถล็อกความดังของเสียงเป็น dB เมื่อเปลี่ยนช่องก็จะดังเท่าเดิม ไม่ต้องมานั่งปรับเสียงทุกครั้งที่เปลี่ยนช่อง

Samsung QLED TV ออกรุ่นใหม่และจัดจำหน่ายในปี 2018 นี้ 4 ซีรี่ส์ ด้วยกันคือ Q9F, Q8C, Q7F และ Q6F โดยอักษรตัวท้าย C (Cuvred) จอโค้ง และ F (Flat) จอแบบแบนราบ

ส่วนรายละเอียดของแต่ละรุ่นรอติดตามงานเปิดตัวของ Samsung ได้เดือนหน้าเลยครับ