หลังเปิดตัว Olympus OM-D E-M5 มาได้ 3 ปี จนกลายเป็นกล้องมิลเลอร์เลสขายดีที่สุดตัวหนึ่งของ Olympus ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวทายาทอย่างเป็นทางการคือ E-M5 Mark II แล้ว

OM-D E-M5 เป็นกล้อง Mirrorless ตัวแรกของ Olympus ที่สร้างโดยอิงโครงสร้างและการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของ Olympus OM กล้อง SLR ยอดนิยมในยุค 80s, 90s เจ้า OM-D E-M5 ที่ออกในปี 2012 จึงเป็นกล้องกึ่งโปรที่มีขนาดเล็ก แต่ประสิทธิภาพดีได้ใจนักถ่ายรูปทั่วโลก ซึ่งหลังจาก Olympus ได้ต่อยอดความสำเร็จของ E-M5 ออกมาเป็นรุ่น E-M1 กล้องเกรดโปรราคาสูง และ E-M10 กล้องสำหรับผู้เริ่มต้นราคาประหยัด ตอนนี้จึงได้เวลาของ E-M5 Mark II ทายาทอย่างเป็นทางการสักที

e-m5_2-2
จุดเด่นของ Olympus OM-D E-M5 Mark II ที่แตกต่างจากรุ่นเดิมคือ

  • โหมดถ่ายรูป 40 ล้านพิกเซล ที่ใช้เซนเซอร์ m4/3 ขนาด 16 ล้าน (ความละเอียดเท่ารุ่นเดิม) มาขยับ 8 ครั้ง ครั้งละครึ่งพิกเซลใน 1 วินาที เพื่อประมวลผลเป็นภาพขนาด 40 ล้าน (ดูการทำงานอย่างละเอียดได้ที่หน้านี้)
  • เพิ่มความเร็วซัตเตอร์สูงสุดเป็น 1/8000 วินาที หรือถ้าใช้ซัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์จะเร่งได้ถึง 1/16000 วินาที ซึ่งในรุ่นเดิมได้แค่ 1/4000 (ดูภาพม่านซัตเตอร์ความเร็ว 1/8000 วินาทีได้ที่นี่)
  • แฟลชแยกจากตัวกล้องเหมือนเดิม แต่แฟลชแถมจะปรับองศาให้ Bounce Flash ได้
  • Viewfinder เพิ่มความละเอียดเป็น 2.36 ล้านพิกเซล พร้อมปรับภาพให้ใหญ่ขึ้นด้วยอัตราขยาย 1.48 เท่า (รุ่นเดิม 1.44 ล้านพิกเซล อัตราขยาย 1.15 เท่า)
  • ถ่ายวิดีโอสูงสุด 1080/60p (รุ่นเดิม 1080/30p)
  • เพิ่มช่องเสียบไมค์
  • จอหลังขนาด 3 นิ้วสามารถบิดออกมาถ่าย selfie ได้
  • รองรับ Wifi ในตัว

e-m5_2-3

โดยที่ OM-D E-M5 Mark II มีสเปกดังนี้

  • เซนเซอร์ m4/3 ขนาด 16 ล้านพิกเซล
  • ระบบกันภาพสั่นแบบ 5 แกน
  • กล้องซีลกันฝุ่น กันฝุ่น (น้ำกระเด็น น้ำฝน ไม่ใช่ลงน้ำได้)
  • ตัวกล้องทำจาก Magnesium Alloy
  • หน่วยประมวลผล TruePic VII
  • ISO 200-25600
  • ถ่ายภาพต่อเนื่อง 10 fps
  • หนัก 469 กรัม
  • ราคาเริ่มต้น $1099.99 สำหรับตัวกล้องอย่างเดียว มีให้เลือก 2 สีคือดำกับเงิน
  • เริ่มขายในอเมริกาภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2558

e-m5_2-1

ที่มา: DPreview