นาฬิกา Android เรือนแรกของ Casio สามารถใส่ปีนเขาได้ และแบตเตอรี่อยู่ได้นาน 1 เดือน

Android Wear (นาฬิกาหรืออุปกรณ์สวมใส่ที่ใช้ระบบ Android) จะไม่ใช่แค่ชื่อแบรนด์ธรรมดาอีกต่อไป เพราะบริษัทใหญ่ๆหลายบริษัทต่างใช้ระบบนี้เพื่อสร้าง Smartwatch ในรูปแบบของตนเองขึ้นมา ล่าสุดก็คือ Casio ที่เปิดตัว WSD F10 ที่มีบอดี้อันทนทานและแบตเตอรี่ที่ใช้ได้อย่างยาวนาน

Casio WSD F10 เป็น Smartwatch ที่ออกแบบมาเพื่อการประกอบกิจกรรมต่างๆ โดยส่วนมากจะเน้นไปที่การปั่นจักรยาน การปีเขา และการตกปลา ตัวเรือนนั้นค่อนข้างหนา แต่มีน้ำหนักที่เบามาก (93 กรัม) โดยผลิตจากพลาสติกยูริเทนแบบหนา อีกทั้งยังถูกออกแบบให้ได้มาตรฐาน  MIL-STD-810 ซึ่งหมายความว่า มันทนต่อการกระแทก ความชื่น รังษี การสั่นไหว อุณภูมิที่ร้อนและหนาวได้ รวมถึงน้ำและน้ำแข็งด้วย ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้เป็นมาตรฐานของ Casio อยู่แล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่วงการ Android Wear

ด้านข้างมีปุ่มกดอยู่ 3 ปุ่ม คือ ปุ่ม power และอีก 2 ปุ่มสำหรับทำงานร่วมกับแอพของสมาร์ทโฟนหรือการปั่นจักรยานที่จะส่งข้อมูลผ่านเซ็นเซอร์ในตัวเครื่อง เหล่า Widget ต่างๆ ถูกออกแบบมาให้มีสไตล์คล้ายกับของทหาร ซึ่งเข้ากับรูปลักษณ์ตัวเครื่องมาก มีทั้งเข็มทิศ ตัววัดความกดอากาศ อ่านค่าละติจูด ข้อมูลการออกกำลังกาย และหรือแม้กระทั่งข้อมูลเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตก

หน้าจอมีให้เปลี่ยนได้ 2 แบบ คือ เป็น LCD สี  และหน้าจอ LCD ขาวดำ และเมื่อปิดการทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนแล้ว หน้าจอจะมีลักษณะเป็นหน้าจอดิจิทอลแบบย้อนยุค

หน้าจอมีขนาด 1.3 นิ้ว และความละเอียด 320 x 200 พิกเซล

 นี่คือนาฬิกาอัจฉริยะ Casio WSD F10 ที่ไม่เหมือนใครในตลาด Andriod Wear และนั่นก็เป็นเรื่องดี ซึ่งจากการออกแบบและฟีเจอร์ทั้งหมด จะเน้นไปยังผู้ที่ชอบใส่นาฬิกาสไตล์ Casio จริงๆ มีฟังชั่นที่แตกต่างและมีประโยชน์

แต่ราคานั้นสูงถึง 500 เหรียญ (ประมาณ 18,000 บาท) ซึ่งสูงกว่า Smartwatch ของ Android เกือบทุกยี่ห้อ ยกเว้น TAG Heuer และ Huawei บางรุ่น โดยมีกำหนดวางจำหน่ายในเดือนเมษายน 2016 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ยังไม่มีรายละเอียดการวางจำหน่ายทั่วโลก

ข้อดี

  • แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 30 วัน
  • ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากสำหรับผู้ประกอบกิจกรรมกลางแจ้ง
  • ฟีเจอร์ติดตามการประกอบกิจกรรมที่เป็นลักษณะเฉพาะตัว
  • การออกแบบสุดเจ๋งที่คล้ายกับนาฬิกาของทหาร

ข้อเสีย

  • ราคาแพงมาก คือ 500 เหรียญ (ประมาณ 18,000 บาท)
  • ไม่เหมาะกับผู้หญิงหรือคนที่ข้อมือเล็ก

ที่มา : digitaltrends