ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว สตีฟ จ็อบส์ เปิดตัวไอโฟนรุ่นแรกในงาน Macworld conference ในฐานะสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมหน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว แถมขอบเครื่องหนาเตอะ จวบจนเวลาล่วงเลยมา 1 ทศวรรษ ก็มาถึงเทรนด์ของสมาร์ทโฟนในวันที่ทุกแบรนด์มือถือบนโลกต่างปรับดีไซน์หันมาทำมือถือหน้าจอใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นหน้าจอแบบไร้ขอบทั้งหมด ซึ่งคำถามสำคัญอยู่ที่ว่าเพราะเหตุใด มันจึงเป็นเทรนด์ที่แบรนด์มือถือทั่วโลกนิยมกันนักหนา ไม่ว่าจะเป็น iPhone X, Samsung Galaxy S8, Xiaomi Mi MIX หรือแม้แต่ Essential Phone

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา วิวัฒนาการที่เห็นได้ชัดของสมาร์ทโฟนเลยก็คือ เรื่องของดีไซน์ ที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้น ขอบเครื่องโค้งมน แสดงให้เห็นถึงความพยายามออกแบบให้สมาร์ทโฟนนั้นมีพื้นที่หน้าจอให้ใช้งานได้มากที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง Jony Ive หัวหน้าทีมดีไซน์ของ Apple เคยออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาจินตนาการมือถือหน้าจอไร้ขอบมาตั้งแต่ในช่วงพัฒนาไอโฟนรุ่นแรกแล้ว และโดยเฉพาะในปีที่ผ่านมานั้นทีมออกแบบก็ทำงานอย่างหนักกับการวางรูปแบบการใช้งานใหม่ในแบบที่ไม่มีปุ่มควบคุมใด ๆ อีกต่อไป ซึ่งนี่ดูเหมือนจะยังเป็นอุปสรรคเดียวสำหรับเทคโนโลยีบนสมาร์ทโฟนที่จะต่อยอดไปให้ถึงจุดสุดท้ายของการพัฒนาสมาร์ทโฟนแล้ว

ปัญหาสำคัญข้อใหญ่ ๆ เลยก็คือเรื่องของการวางตำแหน่งของเซ็นเซอร์กล้องหน้า ซึ่งจากปีที่ผ่านมาเราจะได้เห็นวิธีคิดของบรรดาดีไซเนอร์ของแบรนด์มือถือทั้งหลาย คิดหาวิธีใหม่ ๆ ที่จะก้าวพ้นข้อจำกัดตรงนี้ให้ได้ ไล่ไปตั้งแต่ iPhone X ที่ตัดปุ่มโฮมทิ้งและหันมาทำขอบจอด้านบนเป็นรอยบาก (notch) เพื่อต่อยอดใช้งาน Face ID, Samsung หรือแบรนด์มือถือจีนรายอื่น ๆ ก็ปรับไปสแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง หรือ iPhone 7 / 7+ และ Xiaomi Mi Mix ที่หันมาตัดช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ทิ้งเพื่อปูทางการออกแบบใหม่ ๆ ให้เหลือปุ่มและพอร์ตเชื่อมต่อแบบ physical น้อยลง ซึ่งจะเห็นว่ายังมีเครื่องหมายคำถามและฟีดแบ็กในด้านลบของลูกค้าออกมาเป็นระยะ ไม่ว่าจะเรื่องคุณภาพเสียงที่ตกลงไป หรือว่า ความแม่นยำปลอดภัยในการสแกนใบหน้า หรือการควบคุมสั่งการด้วยท่าทางแบบ gesture

แน่นอนว่า สิ่งที่ทำให้แบรนด์สมาร์ทโฟนนั้นหันมาทำหน้าจอไร้ขอบกันมากก็เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย ซึ่งทั้ง Facebook, Google, Apple หรือกลุ่มเจ้าของคอนเทนต์อย่างช่องทีวีต่างก็หันมาลงทุนปล่อยคอนเทนต์วิดีโอผ่านแพลตฟอร์มมากขึ้นจนเรียกว่า สมาร์ทโฟนในเวลานี้ก็คือทีวีพกพาไปแล้ว และทีวีเองก็พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นโรงหนังขนาดย่อมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งจากผลสำรวจเห็นได้ชัดว่าผู้คนใช้เวลาดูวิดีโอต่าง ๆ บนโซเชียลมีเดียนานขึ้น และไม่น่าแปลกใจว่าทำไมสมาร์ทโฟนถึงต้องมีขนาดจอที่ใหญ่ขึ้นและมีพื้นที่แสดงผลให้มากที่สุด

หากเป็นเช่นนั้น เมื่อสมาร์ทโฟนถูกพัฒนาไปถึงจุดอิ่มตัว และขนาดจอที่ผู้บริโภคพึงพอใจแล้ว คำถามคือมันจะถูกพัฒนาไปทางไหนต่อ ซึ่งเรื่องนี้ Mark Rolston หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Argodesign บริษัทให้คำปรึกษาด้านการออกแบบที่เคยผ่านงานกับยักษ์ใหญ่อย่าง HP มองว่า หน้าจอไร้ขอบแบบ 100% นั้นสุดท้ายแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้เนื่องจากมันเป็นส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างตัวบอดี้และหน้าจอ หมายความว่าถึงอย่างไรก็ต้องมีขอบอยู่ดี แต่ที่น่าสนใจกว่าคือ นวัตกรรมของจอ OLED ที่มีความโค้งมนและมีศักยภาพอย่างมากในอนาคต โดยเฉพาะแนวคิดการทำหน้าจอสมาร์ทโฟนแบบ 360 องศาต่างหากที่จะเป็นไม้เด็ดกับสมาร์ทโฟนในอนาคต ซึ่งในเวลานี้หลายบริษัทได้เริ่มศึกษาวิจัยความเป็นไปได้กันแล้ว ซึ่ง Rolston ก็ได้ทิ้งท้ายติดตลกไว้ว่า

‘ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมว่ายังไงเดี๋ยวมือถือจีนก็ทำออกมาก่อนแน่ ๆ!’

อ้างอิง